ปัจจัยที่ส่งผลต่อภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียนในช่วงสถานการณ์ โควิด - 19 ของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต 2
คำสำคัญ:
ปัจจัยที่ส่งผล, ภาวะถดถอยทางการเรียนรู้, สถานการณ์โควิด-19บทคัดย่อ
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบการศึกษา ทำให้รูปแบบการเรียนการสอนต้องเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน ปัจจัยหลายประการจึงกลายเป็นสาเหตุสำคัญที่ส่งผลต่อภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียนในสถานศึกษา การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษา 1) ปัจจัยที่ส่งผลต่อภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียนในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต 2 2) ภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียนในช่วงสถานการณ์โควิด - 19 ของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต 2 และ 3) ปัจจัยที่ส่งผลต่อภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียนในช่วงสถานการณ์โควิด -19 ของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต 2
ระเบียบวิธีการวิจัย: การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ครูในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต 2 จำนวน 274 คน โดยใช้การสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ซึ่งมีค่าความเชื่อมั่น 0.943 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วย ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน
ผลการวิจัย: พบว่า 1) ปัจจัยที่ส่งผลต่อภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียนในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต 2 ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก พิจารณาเป็นรายด้านมีค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ ปัจจัยด้านครูผู้สอน (X2) ปัจจัยด้านผู้บริหารสถานศึกษา (X5) ปัจจัยด้านเทคโนโลยี (X4) ปัจจัยด้านผู้เรียน (X1) และปัจจัยด้านครอบครัวและสภาพแวดล้อม (X3) 2) ระดับภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียนในช่วงสถานการณ์โควิด - 19 ของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต 2 โดยรวมอยู่ในระดับมาก พิจารณาเป็นรายด้านมีค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ ภาวะถดถอยเชิงคุณลักษณะของการเรียนรู้ (Y2) ภาวะถดถอยเชิงผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการ (Y1) และ 3) ปัจจัยที่ส่งผลต่อภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียนในสถานการณ์โควิด-19 ของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต 2 คือ ปัจจัยด้านเทคโนโลยี (X4) ปัจจัยด้านผู้เรียน (X1) ปัจจัยด้านผู้บริหารสถานศึกษา (X5) และ ปัจจัยด้านครูผู้สอน (X2) โดยมีอำนาจในการพยากรณ์ร้อยละ 66.00 และมีความคลาดเคลื่อนมาตรฐานในการประมาณค่า 0.382 สามารถเขียนสมการพยากรณ์ในรูปแบบคะแนนดิบ ดังนี้
= 1.071 + 0.402 (X4) + 0.344 (X1) + 0.250 (X5) + -0.279 (X2)
สรุปผล: การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้การเรียนรู้ของนักเรียนในพื้นที่ประสบภาวะถดถอยอย่างชัดเจน ทั้งในด้านคุณลักษณะและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ โดยมีปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ เทคโนโลยี ผู้เรียน ผู้บริหาร และครูผู้สอน ซึ่งล้วนมีบทบาทต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเรียนรู้ในช่วงวิกฤตดังกล่าว
เอกสารอ้างอิง
กัลชิญา ทองหัตถา. (2565). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการบริหารงานวิชาการในโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรังเขต 1. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริการการศึกษา มหาวิทยาลัยหาดใหญ่.
ชนิดา ยอดสาลี และกาญจนา บุญส่ง. (2559). ปัจจัยที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนใน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 2. Veridian e-journal ฉบับภาษาไทย สาขามนุษย์ศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศิลปะ, 9(1), 1208-1223.
ฐิตินันท์ ปั่นมาก. (2561). การพัฒนาตัวบ่งชี้คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพุทธบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
ณัฏฐวร ยิ้มสรวล. (2563). แนวทางการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านวินัยนักเรียนในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 4. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.
ทรงยศ รังสรรค์มณีนิล และ พร้อมพิไล บัวสุวรรณ. (2566). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการบริหารงานวิชาการเพื่อฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของผู้เรียนในโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรปราการ. วารสารรัชต์ภาคย์, 17 : 125.
บุญเลี้ยง ทุมทอง. (2565). ทฤษฎีการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์เอสพริ้นติ้งไทยแฟคตอรี่.
พิชญ์ธิดา รื่นแก้ว และอภิชาติ เลนะนันท์. (2566). ปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนในสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์. วารสาร มจร อุบลปริทรรศน์, 8 : 1567-1578.
พงษ์พัฒน์ สีดาวงษ์. (2568). แนวทางการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของผู้เรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 1. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 7(1), 1–13.
ยศวีร์ สายฟ้า. (2564). Learning loss ภาวะถดถอยทางการเรียนรู้. สืบค้นเมื่อ 1 กันยายน 2566, จาก : https://research.eef.or.th/learning-loss-recession/
ยุทธชาต นาห่อม. (2564). การบริหารสถานศึกษา บนฐานความปกติใหม่. สืบค้นเมื่อ 5 กันยายน 2566, จากhttp://www.journalgrad.ssru.ac.th/index.php/8thconference/article/view/2545.
รจิต พุ่มพฤกษ์. (2566). การศึกษาแนวทางเพื่อฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในภาวะปกติถัดไป. วิทยานิพนธ์ศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
วิชา ขันติบุญญานุรักษ์ และ ชนิดา มิตรานันท์ (2566). ภาวะถดถอยทางการเรียนรู้หลังสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ของนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษในโรงเรียนเรียนรวม: ปัญหาและการช่วยเหลือ. วารสารคุรุศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี, 5(1), 83.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2566). ถอดบทเรียนการแก้ไขภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ LEARNING LOSS. กรุงเทพฯ : กระทรวงศึกษาธิการ.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2565ก). รายงานผลการศึกษาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานในสถานการโควิด-19 : สถานการณ์ บทเรียน และแนวทางการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้. กรุงเทพฯ : สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2565ข). มาตรการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้. กรุงเทพฯ :บริษัท เอส. บี. เค. การพิมพ์ จำกัด.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต 2. (2564). แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564-2565 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต 2, เพชรบุรี: ผู้แต่ง.
Krejcie, R.V., & D.W. Morgan. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30 (3), 607-610.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Journal for Developing the Social and Community
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์เป็นของผู้ประพันธ์บทความ
