พฤติกรรมการรับรู้ข้อมูลข่าวสารทางการเมืองผ่านสื่อออนไลน์ของ ประชาชนในจังหวัดมหาสารคาม
คำสำคัญ:
ข่าวสารทางการเมือง, สื่อออนไลน์รูปแบบใหม, พฤติกรรมการรับรู้บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการรับข้อมูลข่าวสารทางการเมืองผ่านสื่อออนไลน์และทำการศึกษาลักษณะทางประชากรที่มีความสัมพันธ์กับความสนใจเนื้อหาข่าวทางการเมืองผ่านสื่อ
ออนไลน์ ของประชาชนในจังหวัดมหาสารคาม การวิจัยครั้งนี้ได้ดำเนินการศึกษาโดยได้ทำการศึกษาวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล
จากกลุ่มตัวอย่างคือประชาชนในจังหวัดมหาสารคามที่ผู้วิจัยใช้เป็นตัวแทนประชากรในจังหวัด 8อำเภอจำนวน 625 คน ผลการวิจัยพบว่าประชาชนในจังหวัดมหาสารคามกว่าร้อยละ 64.96 เคยรับรู้ข่าวสารทางการเมืองผ่านสื่อออนไลน์ส่วนใหญ่รับชมข่าวการเมืองผ่านโทรศัพท์มือถือ (Smart Phone) คิดเป็นร้อยละ 85.96 รองลงมา รับชมข่าวสารทางการเมืองผ่าน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ และโน๊ตบุ้ค ตามลำดับ และพบว่า
ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 66.26 เลือกรับข้อมูลข่าวสารทางการเมืองผ่าน Face book / Fan pageและมีความพึงพอใจข่าวสารทางการเมืองผ่านสื่อออนไลน์ในระดับมาก (X= 3.77, S.D.=0. 688) จาก
การทดสอบความสัมพันธ์ของข้อมูลทั่วไปกับพฤติกรรมการรับรู้ข้อมูลข่าวสารทางการเมืองผ่านสื่อออนไลน์ของประชนชนในจังหวัดมหาสารคาม พบว่าข้อมูลทั่วไป ได้แก่ ด้านเพศ อายุ อาชีพ และรายได้
ส่งผลต่อพฤติกรรมการเข้าถึงข่าวสารทางการเมืองผ่านสื่อออนไลน์ของประชาชน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 นอกจากนี้ยังพบว่า ประชาชนที่มีอาชีพแตกต่างกันมีระดับการเข้าถึงข่าวสารทางการ
เมืองและระดับความสนใจเนื้อหาข่าวสารทางการเมืองผ่านสื่อออนไลน์แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 เป็นที่น่าสนใจว่ากลุ่มผููู้้้ว่างงานมีระดับการรับรู้ข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์มากกว่า
ประชาชนที่ประกอบอาชีพเกษตรกร/ทำไร่ทำนา ค้าขาย และรับจ้างทั่วไป โดยมีแนวโน้มรับข้อมูลข่าวสารทางการเมืองผ่านสื่อออนไลน์ระดับมากกว่ากลุ่มอาชีพอื่น นอกจากนั้นจากข้อค้นพบหน่วยงานที่
มีความต้องการสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนด้วยการให้ความรู้ เผยแพร่ประชาสัมพันธ์การทำงานของหน่วยงาน หรือแม้กระทั่งการเผยแพร่ข้อมูลระดับนนโยบายให้กับประชาชนได้เข้าใจผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ ควรเลือกใช้ช่องทาง Face book หรือ Face book Fan page หน่วยงานภาครัฐควรส่งเสริมการติดตั้งเครือข่าย Internet โดยเฉพาะ เครือข่ายอินเทอร์เน็ตประชารัฐให้มีความทั่วถึง เพื่อให้
ประชาชนสามารถเชื่อมเครือข่ายสัญญาณ ซึ่งจะทำให้ประชาชนเข้าถึงข่าวสารออนไลน์ได้มากขึ้น
เอกสารอ้างอิง
Atchara Chatchareompon, Leelawadee Watcharob and Wutthipong Phongsuwan.(2018). “The Impact of Social Media on Customers’ Perception: A Case Study of PTT Public Company Limited”. JOURNAL OF HUMANITIES AND SOCIAL SCIENCESSURIN RAJABHAT UNIVERSITY, 20 (1) : January-June 2018.
Bangkok University Research Center. (2008). What do young people think about Thaipolitics today?. Bangkok : Bangkok University. [In Thai].
Cronbach, L. J. (1984). Essentials of Psychological Testing. 4th edition. New York, NYHarper & Row.
Kanlaya Vanichbuncha. (2005). Statistics for Research. Bangkok : ChulalongkornUniversity.[In Thai].
Panwadee Khumjing and Yaowapa Prakongsilpa. (2010). “The Political Information Perception of the Student in Rajamangala University of Technology Isan”.
Journal of Education, Khon Kaen University, 33 (4) : Oct.-Dec.2010. [In Thai].
Peera Jirasophon. (1998). Principles and Theories of Communication. Nonthaburi : Sukhothai Thammathirat Open University [In Thai].
Public Health Strategy Development Division, Maha Sarakham Provincial Public Health Office. (2018). Population Statistics of Maha Sarakham Province. [Online]. http ://mkho.moph.go.th/mko/frontend/web/index.php/site/index [6 May 2018]. [InThai].
Theerawut Akakul. (2000). Research Methods in Behavioral Science and Social Science.
Rajabhat Institute Ubon Ratchathani, Ubon Ratchathani. [In Thai].
Yamane, Taro.1973. Statistics : An Introductory Analysis. 3rd edition. New York : Harperand. Row Publication.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์เป็นของผู้ประพันธ์บทความ
