การพัฒนากลไกความร่วมมือระหว่างเครือข่ายโดยกระบวนการชูรอเพื่อ ขับเคลื่อนเทศบาลเมืองตะลุบันสู่เมืองแห่งการเรียนรู้
คำสำคัญ:
กระบวนการชูรอ, เทศบาลเมืองตะลุบัน, เมืองแห่งการเรียนรู้บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาระบบกลไกความร่วมมือระหว่างเครือข่ายโดยใช้กระบวนการชูรอสู่เมืองแห่งการเรียนรู้ 2) เพื่อออกแบบผังเมืองด้านกายภาพเมือง ด้านการเข้าถึงกายภาพเมือง ด้านพื้นที่เมืองและกิจกรรม ด้านโครงข่ายของพื้นที่ และด้านบริบทสังคม และ 3) เพื่อขับเคลื่อน ติดตาม และประเมินกลไกความร่วมมือระหว่างเครือข่ายในเทศบาลเมืองตะลุบัน จังหวัดปัตตานี
วิธีการศึกษา การวิจัยนี้ใช้การเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ในการคัดเลือกผู้ให้ข้อมูลหลักจำนวน 34 คน ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากภาครัฐ ภาคการศึกษา ภาคธุรกิจ และชุมชนในพื้นที่เทศบาลเมืองตะลุบัน โดยมีคุณสมบัติเป็นผู้มีความรู้หรือประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อวิจัยไม่น้อยกว่า 5 ปี การเก็บรวบรวมข้อมูลดำเนินการผ่านการสัมภาษณ์เชิงลึกและการสนทนากลุ่ม และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์เชิงพรรณนาและการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
ผลการศึกษา พบว่า กลไกความร่วมมือผ่านกระบวนการชูราประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ ได้แก่ การคัดเลือกผู้นำ การวางแผน การตักเตือน การจัดระบบ การแบ่งหน้าที่รับผิดชอบ และการตรวจสอบ นอกจากนี้ได้พัฒนาแผนผังเมืองรูปแบบ City Atlas สำหรับเทศบาลเมืองตะลุบันในฐานะเมืองแห่งการเรียนรู้ ครอบคลุมมิติด้านกายภาพ พื้นที่ และบริบททางสังคม โดยมี 4 กลุ่มเครือข่ายหลัก ได้แก่ ภาครัฐ ภาคการศึกษา ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ซึ่งมีบทบาทในการขับเคลื่อน ติดตาม และประเมินกลไกความ ร่วมมือตามบริบทและหน้าที่ของแต่ละภาคส่วน
การนำผลวิจัยไปใช้ เทศบาลสามารถพัฒนากระบวนการกลไกความร่วมมือระหว่างเครือข่ายโดยใช้กระบวนการชูรอเพื่อขับเคลื่อนเทศบาลเมืองตะลุบันสู่เมืองแห่งการเรียนรู้อย่างเป็นรูปธรรมและบุรณาการให้เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่
เอกสารอ้างอิง
Jatupornthanaphat, H., Kosonkittiumporn, S. (2024). Development towards a learning city according to the local context. Journal of Administration Management and Sustainable Development, 2(3), 629-632. https://so15.tcithaijo.org/index.php/jamsd/article/view/1007
Leamvijam, S., Atthakorn, S. (2024). Learning City: Concepts for Developing and Creating Knowledge for Sustainable City Development. Journal of Research and Development Institute, Rajabhat Maha Sarakham University, 11 (1), 851-864. https://so03.tcithaijo.org/index.php/rdirmu/article/view/275349
Mahinay, R. B. D., Gamba, P., Gamayon, C. M., & Cambo, P. (2025). Community-Based igher Education Initiatives and SDG 4: Meta-Analysis and Lessons for a Local City College. International Journal For Multidisciplinary Research, 7(1), IJFMR250135041. https://doi.org/10.36948/ijfmr.2025.v07i01.35041
Németh, B. (2023). Balancing between smart and inclusive: Learning cities for sustainable urban communities. In M. G. Egetenmeyer, A. Lattke, & S. Fedeli (Eds.), Re-hinking adult education research Beyond the pandemic (pp. 205–217). Firenze University Press. https://doi.org/10.36253/979-12-215-0151-3.18
Pradit, A., Suwatcharapinan, S., Tansukhanan, P., Chummathaya, A., & Kitika, J. (2023). Civil society: Community learning resource to reinforce the earning city mechanism. Journal of Environmental Design, 10(1), 44–55. https://so02.tcithaijo.org/index.php/jed/article/view/256127
Tanghirun, P. (2020). The Meaning and Significance of Shura in Islam. UMT-Poly Journa, 17(1), 540-542. https://so06.tci-thaijo.org/index.php/umt-poly/article/view/243076/165143
Thummaphan, P., Chotitham, S., & Sripa, K. (2023). Learning City: A Framework to Promote Lifelong Learning . Journal of Learning Sciences and Education, 1(1), 59-84. https://so07.tcithaijo.org/index.php/JLSEd/article/view/3320
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารอิสลามศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความทุกเรื่อง ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารอิสลามศึกษาเป็นแนวคิดของผู้เขียน มิใช่เป็นความคิดเห็นคณะผู้จัดทำและมิใช่ความรับผิดชอบของคณะวิทยาการอิสลาม กองบรรณาธิการไม่สงวนสิทธิ์การคัดลอก แต่ให้มีการอ้างอิงแสดงที่มา
