รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วม BUKIT Model เพื่อพัฒนาอัตลักษณ์ที่ดีในโรงเรียนบูกิตประชาอุปถัมภ์

ผู้แต่ง

  • นินูรไอนี หะยีนิเลาะ โรงเรียนบูกิตประชาอุปถัมภ์

คำสำคัญ:

การบริหารแบบมีส่วนร่วม l, อัตลักษณ์ที่ดี, รูปแบบ BUKIT Mode

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาสภาพและแนวทางของการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาอัตลักษณ์ที่ดีในโรงเรียนบูกิตประชาอุปถัมภ์ 2. เพื่อสร้างรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วม BUKIT Model เพื่อพัฒนาอัตลักษณ์ที่ดีในโรงเรียนบูกิตประชาอุปถัมภ์ 3. เพื่อศึกษาผลการปฏิบัติตามรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วม BUKIT Model เพื่อพัฒนาอัตลักษณ์ที่ดีในโรงเรียนบูกิตประชาอุปถัมภ์

วิธีการศึกษา การวิจัยเรื่อง รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วม BUKIT Model เพื่อพัฒนาอัตลักษณ์ที่ดีในโรงเรียน บูกิตประชาอุปถัมภ์ ใช้กระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research: PAR) เป็นการวิจัยที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาและการพัฒนา โดยอาศัยความร่วมมือจากกลุ่มเป้าหมายในการวิจัย กระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมมี 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นการวางแผน (Planning) ขั้นการกระทำ(Action) ขั้นการสังเกต (Observation) และขั้นการสะท้อน (Reflection) ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาสภาพและแนวทางของการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาอัตลักษณ์ที่ดีในโรงเรียนบูกิตประชาอุปถัมภ์ โดยทำการศึกษาเอกสาร สัมภาษณ์ผู้บริหาร ครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครอง และนักเรียน ขั้นตอนที่ 2 การสร้างรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วม BUKIT Model โดยนำข้อมูลจากการวิจัยในขั้นตอนที่ 1 มาวิเคราะห์และสังเคราะห์ ขั้นตอนที่ 3 ศึกษาผลการปฏิบัติตามรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วม BUKIT Model เพื่อพัฒนาอัตลักษณ์ที่ดีในโรงเรียนบูกิตประชาอุปถัมภ์ โดยเก็บรวบรวมข้อมูลจากการสังเกต สัมภาษณ์ และเอกสาร

ผลการวิจัย การศึกษาผลการปฏิบัติตามรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วม BUKIT Model ในโรงเรียนบูกิตประชาอุปถัมภ์ พบว่า โรงเรียนมีพัฒนาการที่ดีขึ้นในทุกองค์ประกอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง องค์ประกอบที่ 1 เกี่ยวกับนโยบายแผนงานสู่ความเป็นเลิศ องค์ประกอบที่ 3 เกี่ยวกับศักยภาพทีมงานมืออาชีพ และองค์ประกอบที่ 4 เกี่ยวกับสมรรถนะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสู่ระบบคุณภาพ สำหรับวงรอบที่ 3 โรงเรียนได้มีการปรับปรุงแผนการปฏิบัติงาน โดยเน้นไปที่การพัฒนาศักยภาพทีมงานมืออาชีพเป็นหลัก โดยการจัดอบรมเพื่อพัฒนาทักษะในกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพแก่ครูทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน นอกจากนี้ โรงเรียนยังได้จัดกิจกรรมเสริมสร้างทัศนคติเชิงบวกในการทำงานและการพัฒนาศักยภาพบุคลากร เพื่อเพิ่มคุณค่าของครูและบุคลากรให้โรงเรียนประสบความสำเร็จ ผลการประเมินโดยรวมพบว่า โรงเรียนสามารถบรรลุผลตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ภายใต้ปัจจัยสนับสนุน ดังนี้ การมีวิสัยทัศน์ร่วมกัน การทำงานเป็นทีม ความไว้วางใจ การเอื้ออำนาจ การติดต่อสื่อสารที่มีประสิทธิผล ผลการศึกษาครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วม BUKIT Model ซึ่งสามารถช่วยให้โรงเรียนบรรลุเป้าหมายและสร้างอัตลักษณ์ที่ดีให้แก่นักเรียน ครู และโรงเรียน

การนำผลวิจัยไปใช้ โรงเรียนสามารถศึกษาและนำรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วม BUKIT Model ไปใช้ในการพัฒนาอัตลักษณ์ที่ดีในโรงเรียน โดยปรับให้เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียนแต่ละแห่งและยังสามารถศึกษาผลการวิจัยนี้เพื่อพัฒนาศักยภาพของครูและบุคลากร โดยเน้นการพัฒนาในด้านต่าง ๆ

References

Thamnong, P. (2008). Concept of Participatory Management in Community Education Management. Retrieved from http:/www.thaischool.net/View_ti.php?ID=1203 (Accessed April 22, 2022)

Act on National Education B.E. 2542 (2009), as amended by the Second Amendment Act B.E. 2545 (2012) and the Third Amendment Act B.E. 2553 (2010). (2010, July 12). Royal Thai Government Gazette. Vol. 127, Pt. 45 ก., p. 14.

Mettakarunjit, M. (2010). Participatory Education Management: Community, Local Government, and Government. Book Point.

Constitution of the Kingdom of Thailand B.E. 2560 (2017). (2017, April 6). Royal Thai Government Gazette. Vol. 134, Pt. 40 ก., p. 14.

Ngamsaad. A. (2006). Management Education in a Participatory System: A Case Study of the Vocational College of Detch Udom. Unpublished doctoral dissertation, Faculty of Education Management, Khon Kaen University, Khon Kaen.

Swansburg, R. C.; & Swansburg; R. J. (2002). Introduction to Management and Leadership for Nurse Managers. Jones and Bartlett Publishers.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

22-12-2023

How to Cite

หะยีนิเลาะ น. . (2023). รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วม BUKIT Model เพื่อพัฒนาอัตลักษณ์ที่ดีในโรงเรียนบูกิตประชาอุปถัมภ์. วารสารอิสลามศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 14(2), 161–183. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JOIS/article/view/271594