การยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการแปรรูปข้าวเม่าสู่ตลาดสมัยใหม่
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาศักยภาพผู้ประกอบการและความต้องการของตลาดธุรกิจข้าวเม่าแปรรูป 2) ยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการแปรรูปข้าวเม่าให้ได้มาตรฐานและเหมาะสมกับตลาดสมัยใหม่ และ3) บริหารจัดการธุรกิจแปรรูปข้าวเม่าสู่ธุรกิจตลาดสมัยใหม่แบบบูรณาการ เป็นวิจัยแบบมีส่วนร่วม ผลการศึกษา พบว่า ผู้ประกอบการมีศักยภาพแปรรูปข้าวเม่าได้หลายชนิด มีรายได้ก่อนเกิดโควิด19 เฉลี่ย 193,440 บาทต่อปี แต่หลังเกิดโควิด19 มีรายได้ 16,284 บาทต่อปี ผู้บริโภคส่วนใหญ่ต้องการข้าวเม่าแปรรูปมีส่วนผสมธัญพืชร้อยละ50 สีธรรมชาติผสมอาหารร้อยละ65.6 และน้ำตาลน้อยร้อยละ50 ส่วนผู้ประกอบการมีความต้องการพัฒนาทักษะผลิตซ้ำให้มาตรฐาน มีอายุจัดเก็บนานขึ้น ลดกลิ่นเหม็นหืนจากน้ำมันทอด รสชาติอร่อยคงเดิม ด้านตลาด ไม่มีตลาดหลัก ขายช่องทางไลน์เป็นบางครั้ง ด้านผลิตภัณฑ์ ผลทดลองตัวอย่างหาเชื้อที่ส่งผลต่ออายุจัดเก็บ พบว่า มีจุลินทรีย์ ยีสต์ และรา เกินมาตรฐาน ข้าวเม่าซีเรียล ข้าวเม่ากระยาสารท มีอายุจัดเก็บ 20-30 วัน ข้าวเม่าตูเพียง 5-6 ชั่วโมง ผลการยกระดับขีดความสามารถ พบว่า สามารถผลิตได้มาตรฐานขึ้น ผลิตซ้ำรสชาติเดิม ผลการปรับกระบวนการแปรรูป เปลี่ยนจากใช้น้ำมันทอดเป็นคั่วข้าวเม่า และอบแห้งด้วยลมร้อน ผลทดลอง พบว่า ค่า Water activity, pH, Crude fat และค่าสารที่เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันของลิพิด ลดลง อายุการจัดเก็บที่อุณหภูมิ 30°C ข้าวเม่าซีเรียล 104 วัน ข้าวเม่ากระยาสารท 71 วัน และข้าวเม่าตูอบ 51 วัน ผลการบริหารจัดการธุรกิจสู่ตลาดสมัยใหม่ พบว่า ผู้ประกอบการมีทักษะการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ บริหารจัดการผลิตภัณฑ์เพียงพอต่อการจำหน่าย บริหารบุคคลในการผลิตและการจัดส่งสินค้าได้ทันตามคำสั่งซื้อ หลังการยกระดับผู้ประกอบการมีรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 15
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื่อหาและข้อมูลในบทความ เป็นความรับผิดชอบของผุ้แต่ง
บทความในวารสารเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิจัยและนวัตกรรมท้องถิ่น
เอกสารอ้างอิง
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม. (2564). คู่มือการยืดอายุอาหารและบรรจุภัณฑ์. กรุงเทพฯ: กระทรวงอุตสาหกรรม.
กุลธิดา ทิพย์ทอง. (2562). การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากโดยใช้กลไกวิสาหกิจชุมชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. วารสารวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย,14(45), 129–144.
บุญชม ศรีสะอาด. (2554). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 9. กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น.
บุญส่ง น้อยโสภา. (2563). ทุนทางสังคมกับการบริหารจัดการวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดมหาสารคาม. วารสารวิชาการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 39(4), 85–102.
มะลิ นาชัยสินธุ์ และคณะ. (2559). การปรับปรุงคุณภาพข้าวเม่ากึ่งสำเร็จรูป. วารสารวิจัยเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน. 3(2) : 88-95.
วรพรรณ ลิ้มเจริญ. (2564). การพัฒนาทักษะดิจิทัลของผู้ประกอบการ OTOP เพื่อเข้าสู่ตลาดออนไลน์. วารสารการจัดการ มหาวิทยาลัยพะเยา, 9(2), 112–128.
วรนันท์ สุวรรณปิฎกกุล และชุติมา ไวศรายุทธ์. (2554). แนวทางการเสริมสร้างศักยภาพของประกอบการด้านอาหารขนาดกลางและขนาดย่อมของประเทศไทย. วารสารสมาคมนักวิจัย,16(3), 76-88
Baron, R., & Shane S. (2008). Entrepreneurship: A process Perspective. 2nd ed. Canada: Thomson South-Western.