การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างบุคลิกภาพ รูปแบบการดำเนินชีวิต และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ของนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา เขตกรุงเทพมหานคร
คำสำคัญ:
บุคลิกภาพ, รูปแบบการดำเนินชีวิต, แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์, นักศึกษาบทคัดย่อ
งานวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อเพื่อศึกษาระดับคะแนนเฉลี่ย ความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลส่วนบุคคล บุคลิกภาพ รูปแบบการดำเนินชีวิต และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ และสร้างสมการพยากรณ์แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ของนักศึกษาระดับปริญญา ประชากรคือนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร ปี 2560 กลุ่มตัวอย่างคือนักศึกษาจำนวน 400 คน ในปีการศึกษา 2560 จาก 4 สถาบันอุดมศึกษา ด้วยวิธีการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ 1 ฉบับคือแบบสอบถามเพื่อสอบถาม บุคลิกภาพ รูปแบบการดำเนินชีวิต และ แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ มีค่าความเชื่อมั่นอยู่ .87 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ค่าร้อยละ ค่าคะแนนเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิสหสัมพันธ์ การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณด้วยวิธีการ Stepwise
ผลการวิจัยพบว่า นักศึกษากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง จำนวน 227 คน คิดเป็นร้อยละ 43.3 และนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มากที่สุด จำนวน 152 คน คิดเป็นร้อยละ 38.0 ลักษณะบุคลิกภาพของนักศึกษา แบบหวั่นไหวอยู่ในระดับมาก 3.55 รองลงมาคือ แบบเปิดเผย 3.44 ซึ่งอยู่ในระดับปานกลาง และนอกนั้นอยู่ในระดับปานกลาง รูปแบบการดำเนินชีวิตทั้ง 6 ด้านอยู่ในระดับมาก ที่มีคะแนนเฉลี่ยสูงคือแบบวิชาการ 3.84 รองลงมาคือ แบบสมาคม 3.76 แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ทั้ง 6 ด้าน นั้นอยู่ในระดับ มาก 3 ด้าน ได้แก่ การมีความทะเยอทะยานทางการเรียน มีคะแนนเฉลี่ย 3.85 รองลงมาคือ มีความรับผิดชอบ 3. 71 และในระดับปานกลางมี 3 ด้าน เปรียบเทียบ ค่าเฉลี่ยคะแนนระหว่างแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์กับนักศึกษาที่มีเพศแตกต่างกัน นักศึกษาที่มีเพศแตกต่างกันมีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในด้าน ทะเยอทะยานทางการเรียน กระตือรือร้นทางการเรียน กล้าเสี่ยง และมีเอกลักษณ์ทางการเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
การวิเคราะห์สหสัมพันธ์พหุคูณ การสร้างสมการพยากรณ์ผู้วิจัยเลือกโมเดลที่ 3 มาใช้มีตัวแปรพยากรณ์ที่ดีที่สุดที่ส่งผลต่อแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05จำนวน 3 ตัว คือ บุคลิกภาพแบบเปิดเผย รับผิดชอบ และหวั่นไหว ซึ่งส่งผลทางบวก ทั้ง 3 ตัวแปรสามารถร่วมกันพยากรณ์แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ ค่าสัมประสิทธิ์ของตัวแปรในรูปคะแนนมาตรฐาน (ß) .222, .190, .121 ตามลำดับ และในรูปคะแนนดิบ (b) เท่ากับ .265, .194, .139 ค่าสหสัมพันธ์พหุคูณมีค่าเท่ากับ .421 และกำลังสองของค่าสหสัมพันธ์พหุคูณที่ปรับแก้มีค่าเท่ากับ .178 มีอำนาจในการพยากรณ์ร้อยละ 17.8 โดยสร้างเป็นสมการณ์ในรูปคะแนนดิบดังนี้
(แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์) = .265+ .194 + .139
คะแนนมาตรฐาน Ž= .222 (Z บุคลิกภาพแบบเปิดเผย) + .190 (Z รับผิดชอบ) + .121 (Z หวั่นไหว)
เอกสารอ้างอิง
ณัฐพรหม อินทุยศ. (2553). จิตวิทยาการศึกษา. เพชรบูรณ์: สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตเพชรบูรณ์.
ประสาท อิศรปรีดา. (2523). จิตวิทยาการเรียนรู้กับการสอน. กรุงเทพฯ: กราฟิกอาร์ต.
ปรียาพร วงค์อนุตรโรจน์. (2553). จิตวิทยาการศึกษา. กรุงเทพฯ: ศูนย์สื่อเสริมกรุงเทพ.
ประสิทธิ์ ทองอุ่น. (2542). พฤติกรรมมนุษย์กับการพัฒนาคน. กรุงเทพฯ: เธิร์ดเวฟเอ็ดดูเคชั่น.
ปริวัฒน์ จันทร์ทรง และ นิตต์อนิล ภูริชอุดมอังกูร. (2561). การศึกษาความคาดหวังและการรับรู้จริงต่อคุณภาพอาจารย์ที่ปรึกษาจากนักศึกษาสาขานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา, 7(1), 72-100. ได้จาก: https://so03.tci-thaijo.org/index.php/Humanties-up/article/view/206312
ศิริพร แสงศรีจันทร์และคณะ. (2556). ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยด้านนิสิต กระบวนการเรียนการสอน ปัจจัยเกื้อหนุน กับความสุขของนิสิตพยาบาล. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา, 1(2), 20-28. ได้จาก: https://so03.tci-thaijo.org/index.php/Humanties-up/article/view/42687
แสงเดือน ทวีศิน. (2545). จิตวิทยาการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ไทยเส็ง.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ผู้นิพนธ์ต้องรับผิดชอบข้อความในบทนิพนธ์ของตน มหาวิทยาลัยพะเยาไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับบทความที่ตีพิมพ์เสมอไป ผู้สนใจสามารถคัดลอก และนำไปใช้ได้ แต่จะต้องขออนุมัติเจ้าของ และได้รับการอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน พร้อมกับมีการอ้างอิงและกล่าวคำขอบคุณให้ถูกต้องด้วย
The authors are themselves responsible for their contents. Signed articles may not always reflect the opinion of University of Phayao. The articles can be reproduced and reprinted, provided that permission is given by the authors and acknowledgement must be given.

