ประสิทธิผลการนานโยบายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองไปปฏิบัติ ในจังหวัดนนทบุรี

บทคัดย่อ

การวิจัยครัง้ นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาประสิทธิผลการนานโยบายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองไปปฏิบัติในจังหวัดนนทบุรี (2) ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิผลการนานโยบายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองไปปฏิบัติ และ (3) เสนอแนะปัญ หา อุปสรรค และข้อเสนอแนะให้มีการปรับปรุงปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิผลการนานโยบายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองไปปฏิบัติ ระเบียบวิธีที่ใช้ในการวิจัยเป็นการวิจัยแบบผสานวิธี ทั้งการวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพประชากรเป็นกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จังหวัดนนทบุรี ปี 2557 จานวน 483 กองทุน กลุ่มตัวอย่างเป็นกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จังหวัดนนทบุรี ปี 2557 จานวน 216 กองทุน ได้มาจากการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม ขนาดของกลุ่มตัวอย่างใช้ตารางของเครจซีและมอร์แกน โดยผู้ให้ข้อมูลคือ ประธานหรือรองประธานกองทุนหมู่บ้าน จานวน 216 คน และสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน จานวน 216 คน รวมทัง้ สิ้น 432 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบสอบถาม มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จา นวน 80 ข้อ มีค่าความเชื่อมัน่ ทัง้ ฉบับเท่ากับ 0.98 และแบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนานโยบายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองไปปฏิบัติ จา นวน 14 คน ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจงสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ถดถอยเชิงพหุคูณ และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัย พบว่า 1. ประสิทธิผลการนานโยบายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองไปปฏิบัติในจังหวัดนนทบุรีโดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก และเมื่พิจารณารายด้านพบว่า (1) ด้านการบรรลุวัตถุประสงค์ของนโยบายอยู่ในระดับมาก (การจัดระบบและการบริหารงาน แหล่งเงินทุนหมุนเวียนการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน และการพึ่งพาตนเอง) (2) ด้านความพึงพอใจของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ในระดับมากเช่นกัน (ความเป็นธรรมในการพิจารณาเงินกู้ การอา นวยความสะดวกให้กับสมาชิกกองทุน ความรวดเร็วในการให้บริการ และระเบียบและข้อบังคับของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองเหมาะสมกับความต้องการของสมาชิก) 2. ปัจ จัยที่มีผลต่อประสิทธิผลการนานโยบายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองไปปฏิบัติในจังหวัดนนทบุรีประกอบด้วย (1) การแปลงนโยบายสู่การปฏิบัติ (2) การพัฒนากองทุน (3) การมีส่วนร่วมด้านการปฏิบัติ (4) งบประมาณ(5) นโยบายกองทุน (6) การพัฒนาตนเอง (7) องค์การและโครงสร้าง โดยทั้ง 7 ปัจจัยสามารถพยากรณ์ประสิทธิผลการนานโยบายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองไปปฏิบัติ ได้ร้อยละ 77.70 3. ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะสาหรับการนานโยบายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองไปปฏิบัติในจังหวัดนนทบุรี ประกอบด้วย 3.1 ปัญหาการนานโยบายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองไปปฏิบัติในจังหวัดนนทบุรี ได้แก่ (1) สมาชิกไม่ปฏิบัติตามระเบียบของกองทุน (2) การใช้เงินกู้ของสมาชิกไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ (3) คณะกรรมการขาดความรู้ ความเข้าใจและทักษะการบริหารจัดการกองทุน (4) ความขัดแย้งที่เกิดจากนักการเมืองท้องถิ่นและกลุ่มผลประโยชน์ (5) คณะกรรมการขาดความรับผิดชอบ (6) ขาดการมีส่วนร่วมจากชุมชน(7) สมาชิกขาดความรู้ความเข้าใจในระเบียบ และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (8) เงินทุนหมุนเวียนไม่เพียงพอกับความต้องการของชุมชน (9) กฎ ระเบียบ ข้อบังคับยังหละหลวมไม่สามารถเอาผิดผู้ที่เข้ามาแสวงหาประโยชน์หรือทุจริตได้ และ (10)ความล่าช้าในการสนับสนุน ติดตามและช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐที่รับผิดชอบ 3.2 ข้อเสนอแนะสาหรับการนานโยบายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองไปปฏิบัติในจังหวัดนนทบุรี ได้แก่ (1) เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎระเบียบและข้อบังคับของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแก่สมาชิก (2) กาหนดแนวทางปฏิบัติการใช้เงินที่เหมาะสมแก่สมาชิก (3) ส่งเสริมให้คณะกรรมการกองทุนมีความรู้และทักษะเกี่ยวกับการบริหารจัดการ (4) คณะกรรมการกองทุนควรมีส่วนในการบริหารและจัดการความขัดแย้ง (5) ควรส่งเสริมให้คณะกรรมการกองทุนมีความรับผิดชอบต่องาน (6) สมาชิกกองทุนควรตระหนักและเห็นความสาคัญของการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการกองทุน (7) ชุมชนและคณะกรรมการกองทุนต้องควรศึกษาและทา ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎ ระเบียบ และข้อบังคับของกองทุน (8) สา นักงานกองทุนแห่งชาติต้องให้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชนและหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับนโยบายที่สมาชิกกองทุนควรได้รับรู้ (9) ปรับปรุงหรือแก้ไขกฎ ระเบียบ ข้อบังคับให้ชัดเจนและสามารถบังคับใช้ได้อย่างเหมาะสม และ (10) หน่วยงานภาครัฐควรสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือของคณะกรรมการกองทุนเพื่อการสนับสนุนและการติดตามการนานโยบายกองทุนหมู่บ้านและ ชุมชนเมืองไปปฏิบัติ