พฤติกรรมการสั่งซื้ออาหารและทัศนคติที่มีต่อส่วนประสมการตลาด ที่ส่งผลต่อการสั่งซื้ออาหารโดยใช้แอปพลิเคชันของผู้บริโภค อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง
คำสำคัญ:
พฤติกรรม, ทัศนคติ, ส่วนประสมการตลาด , แอปพลิเคชันบทคัดย่อ
วิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทำการศึกษาพฤติกรรมการสั่งซื้ออาหารโดยใช้แอปพลิเคชันและศึกษาทัศนคติ ที่มีต่อส่วนประสมการตลาดที่ส่งผลต่อการสั่งซื้ออาหารโดยใช้แอปพลิเคชันของผู้บริโภคในอำเภอเมืองจังหวัดลำปาง เครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูลในการวิจัยจากกลุ่มตัวอย่าง 400 คน ที่เคยสั่งซื้ออาหารผ่านแอปพลิคชันคือ แบบสอบถามที่มี ค่าดัชนีความสอดคล้องของความตรงของเนื้อหาที่ 0.970 และมีค่าสัมประสิทธิ์ของครอนบัคเท่ากับ 0.963 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิเคราะห์เผยว่า 1) กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นหญิงที่มีอายุระหว่าง 20-30 ปี การศึกษาระดับปริญญาตรี สถานะโสด ขนาดครอบครัว 2-4 คน มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนระหว่าง 5,001-10,000 บาท 2) กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่สั่งซื้ออาหารผ่านแอปพลิเคชันเป็นบางครั้ง สั่งซื้อโดยใช้แอปพลิเคชัน Grab food บ่อยที่สุด ในช่วงเวลาระหว่าง 12.01-15.00 น. สั่งซื้อเมื่ออยู่ที่บ้านเพื่อรับประทานกับครอบครัวในช่วงวันหยุด จำนวนเงินในการสั่งซื้อเฉลี่ยต่อครั้งน้อยกว่า 200 บาท โดยเลือกใช้วิธีการชำระเงินปลายทาง กลุ่มตัวอย่างมีเหตุผลใน การสั่งซื้ออาหารโดยใช้แอปพลิเคชันเพราะขี้เกียจออกไปรับประทานอาหารข้างนอก และ 3) ส่วนประสมการตลาดที่ส่งผลต่อการสั่งซื้ออาหารโดยใช้แอปพลิเคชันระดับมากที่สุดในทัศนคติของกลุ่มตัวอย่าง คือ ด้านการจัดจำหน่าย ส่วนปัจจัย ที่ส่งผลต่อการเลือกซื้อระดับมาก ได้แก่ ด้านบุคคล ด้านลักษณะทางกายภาพ ด้านกระบวนการ ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านการส่งเสริมการตลาด และด้านราคา การวิจัยในครั้งต่อไปควรมีการศึกษาปัจจัยทางด้านประชากรศาสตร์ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการสั่งซื้ออาหารโดยใช้แอปพลิเคชันของผู้บริโภค
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2022 คณะเทคโนโลยีการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของคณะเทคโนโลยีการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับคณะเทคโนโลยีการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว