รูปแบบและการผลิตซ้ำทางวัฒนธรรมพิธีกรรมฟ้อนกลองตุ้ม
คำสำคัญ:
รูปแบบ, การผลิตซ้ำทางวัฒนธรรม, ฟ้อนกลองตุ้มบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาประวัติความเป็นมา รูปแบบ องค์ประกอบ และการผลิตซ้ำทางวัฒนธรรมพิธีกรรมฟ้อนกลองตุ้มของบ้านนาคำใหญ่ ตำบลนาคำใหญ่ อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี บ้านผึ้ง ตำบลทาม อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยใช้วิธีวิจัยเชิงคุณภาพ มีการเก็บข้อมูลโดย วิธีศึกษาจากเอกสาร และการสัมภาษณ์ ผลการวิจัยพบว่า ประวัติความเป็นมาของของพิธีกรรมฟ้อนกลองตุ้มบ้านนาคำใหญ่ และบ้านผึ้งมีที่มาจากชนชาติลาวที่อพยพเข้ามาตั้งรกรากในไทย จึงนำเอาวัฒนธรรมพิธีกรรมฟ้อนกลองตุ้มนี้มาด้วย แต่ไม่ได้มีการจดบันทึกไว้ ว่าใครเป็นผู้คิดค้นการฟ้อน รูปแบบการฟ้อนกลองตุ้มทั้งสองหมู่บ้านจะมีท่าฟ้อนเป็นแบบพื้นบ้านไม่มีแบบแผนที่ตายตัว เน้นการสะบัดข้อมือ และแก่วงแขนขึ้นลงไปมา ลักษณะที่โดดเด่น คือ การฟ้อนเดินถอยหลังและนำชายผ้ามาผูกต่อกันหรือไม่ผูกขึ้นอยู่กับข้อตกลงของผู้ร่วมฟ้อนส่วนบ้านผึ้งจะมีนายท้ายขบวนเข้ามา รูปแบบแถวและท่าฟ้อนทั้งสองหมู่บ้าน แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ 1) ใช้ในประเพณีบุญบั้งไฟเป็นแถวเรียงเดี่ยว 2) ใช้ในการฟ้อนที่ไม่ใช่ประเพณีบุญบั้งไฟ จะมีการปรับรูปแบบแถวให้เหมาะสมกับพื้นที่เช่น แถววงกลม แถวรูปตัววี ท่าฟ้อนของบ้านผึ้งจะมีเพิ่ม 5 ท่า เครื่องดนตรีที่ใช้ คือ กลองตุ้ม และพางฮาด บทร้องที่ใช้ในการฟ้อนจะเป็นกลอนลำ เครื่องแต่งกายเครื่องประดับและวิธีการแต่งกายจะเหมือนกันแต่บ้านนาคำใหญ่จะไม่มีกำไรข้อเท้าส่วนวัสดุและสีที่ใช้จะแตกต่างกัน โอกาสที่ใช้ในการฟ้อน 1)ในประเพณีบุญบั้งไฟ 2)บุญประจำปี 3)ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง
การผลิตซ้ำทางวัฒนธรรมพิธีกรรมฟ้อนกลองตุ้มบ้านนาคำใหญ่และบ้านผึ้งได้รับการผลิตโดยบรรพบุรุษสืบทอดโดยการสังเกต จดจำ และปฏิบัติ ให้ลูกหลานในหมู่บ้าน และมีการเผยแพร่ด้วยกัน 3 วิธี ดังนี้ 1) การสอนในเยาวชนในหมู่บ้าน 2)จัดแหล่งเรียนรู้ให้บุคคลภายนอก 3)ร่วมงานแสดงที่เชิญให้ไปร่วม การบริโภคแบ่งออกเป็น 2 ประเภท 1)บุคคลภายนอก 2)บุคคลภายใน และการผลิตซ้ำ พิธีกรรมฟ้อนกลองตุ้มมีการผลิตซ้ำอย่างต่อเนื่องโดยบุคคลภายในที่อยู่ชุมชนและถึงบุคลภายนอกที่เข้ามาศึกษาเรียนรู้ รับชม ซึ่งสามารถรับรู้เข้าใจ เนื้อหาสาระและความหมายของพิธีกรรมฟ้อนกลองตุ้มร่วมกัน วัฒนธรรมพิธีกรรมฟ้อนกลองตุ้มได้ถูกผลิต เผยแพร่ และผลิตซ้ำมานานตั้งแต่อดีต – จนถึงปัจจุบัน มีทั้งเพิ่มท่าฟ้อน ลดการแต่งกายหรือวัสดุอุปกรณ์ที่หายาก ลดการจัดรูปแบบการฟ้อนที่ยุ่งยากและมีการปรับเปลี่ยนบ้างอย่างไปบ้างตามกาลเวลา แต่ก็ยังมีรูปแบบและองค์ประกอบการฟ้อนบางอย่าง ที่ยังได้รับการเผยแพร่และการผลิตซ้ำ จึงทำให้วัฒนธรรมพิธีกรรมฟ้อนกลองตุ้มของบ้านนาคำใหญ่และบ้านผึ้ง ยังคงสืบทอดให้เห็นในปัจจุบันนี้
References
กาญจนา แก้วเทพ และ สมสุข หินวิมาน. (2551). สายธารแห่งนักคิดทฤษฎีเศรษฐศาสตร์การเมือง กับการสื่อสาร ศึกษา. กรุงเทพฯ: ห้างหุ้นส่วนจำกัดภาพพิมพ์.
คำหล่า มุสิกา สัมพันธ์ สุวรรณเลิศ และ บุญส่ง สร้อยสิงห์. (2552). รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์โครงการการอนุรักษ์พิธีกรรมและการแต่งกายในการฟ้อนกลองตุ้มจังหวัดอุบลราชธานี. มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี: สำนักงานกองทุนสนับสนุนทุนการวิจัย.
ดวงพร คงพิกุล.(2555). การผลิตซ้ำทุนทางวัฒนธรรม:กรณีศึกษาโรงเรียนพระหทัยคอนแวนต์. วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต (วท.ม.), สถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์, กรุงเทพฯ.
วรรณิกา นาโสก. (2551). พัฒนาการฟ้อนกลองตุ้ม อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ. วิทยานิพนธ์ศิลปกรรมศาสตร์มหาบัณฑิต (ศศ.ม.), จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพฯ.
ลัดดา จิตตคุตตานนท์. ( 2552). การวิเคราะห์การสื่อสารเชิงวัฒนธรรมเพื่อการดำรงอยู่และสืบทอดประเพณีบูชาอินทขิล. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, กรุงเทพฯ.

Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
ผู้นิพนธ์ต้องรับผิดชอบข้อความในบทนิพนธ์ของตน มหาวิทยาลัยพะเยาไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับบทความที่ตีพิมพ์เสมอไป ผู้สนใจสามารถคัดลอก และนำไปใช้ได้ แต่จะต้องขออนุมัติเจ้าของ และได้รับการอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน พร้อมกับมีการอ้างอิงและกล่าวคำขอบคุณให้ถูกต้องด้วย
The authors are themselves responsible for their contents. Signed articles may not always reflect the opinion of University of Phayao. The articles can be reproduced and reprinted, provided that permission is given by the authors and acknowledgement must be given.