รูปแบบการให้บริการการคลอดธรรมชาติด้วยจิตประภัสสร (Model for Natural Childbirth Services by Jitprapatsorn)

Main Article Content

วิไลพรรณ สวัสดิ์พาณิชย์

Abstract

รูปแบบการคลอดธรรมชาติมีมากมายในวัฒนธรรมตะวันตก แต่พบไม่มากในวัฒนธรรมตะวันออก การวิจัยครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนารูปแบบการคลอดธรรมชาติด้วยจิตประภัสสร ซึ่งเป็นแนวคิดเกี่ยวกับพุทธศาสนา มีความหมายว่าสภาวะจิตที่รู้ ตื่น และเบิกบาน ปราศจากความขุ่นมัว โดยนำแนวคิดนี้เป็นแนวทางเข้าไปใช้ในการปฏิบัติการพยาบาลตลอดการคลอดธรรมชาติ ดังนั้นกรอบแนวคิดที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้จึงคือ จิตประภัสสร ซึ่งเป็นความเชื่อทางศาสนาพุทธของแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต (1987) และการวิจัยเชิงปฏิบัติการของเคมมิสและแม็คแทกการ์ท (Kemmis & Mc Taggart, 1990) กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาเป็นหญิงตั้งครรภ์และสามีจำนวน 16 คู่ รวมทั้งพยาบาลแผนกสูติกรรมของโรงพยาบาลในประเทศไทย

วิธีดำเนินการวิจัย ได้รับความร่วมมือจากพยาบาลแผนกสูติกรรมของโรงพยาบาลในประเทศไทยจำนวน 5 ท่านตกลงเข้าร่วมโครงการวิจัย จากนั้นคณะผู้วิจัยได้จัดอบรมการคลอดธรรมชาติโดยใช้จิต ประภัสสรซึ่งเป็นความเชื่อทางศาสนาพุทธมาฝึกสมาธิให้เกิดความสงบ ซึ่งพยาบาลผู้ร่วมวิจัยจะเป็นคนคัดเลือกหญิงตั้งครรภ์ในไตรมาสที่ 3 และสามีจำนวน 16 คู่ เข้าโครงการวิจัย ซึ่งกลุ่มตัวอย่างต้องเข้ารับการอบรมเพื่อเตรียมตัวคลอดธรรมชาติ จำนวน 3 ครั้ง และจะได้รับการเสริมสร้างพลังอำนาจโดยจิตประภัสสรระหว่างการคลอดธรรมชาติ หญิงตั้งครรภ์และสามีจะได้รับความรู้ในการผ่อนคลายด้วยกลิ่นหอมระเหย และจิตประภัสสรพร้อมด้วยบริการมาตรฐาน (เช่น เทคนิคหายใจ การใช้ลูกบอล และการนวดสมุนไพร) ในระยะคลอดสามีจะนำความรู้ที่ได้รับจากการอบรมไปประยุกต์ใช้ในการช่วยเหลือภรรยาสองวันหลังคลอดทั้งคู่สามีภรรยาจะให้สัมภาษณ์เจาะลึกถึงประสบการณ์ที่ได้รับจากการคลอดธรรมชาติ

ผลการวิจัยพบว่า หญิงตั้งครรภ์ 16 ราย คลอดเองตามธรรมชาติโดยไม่ได้ใช้ยาแก้ปวด และไม่มีภาวะแทรกซ้อน (เช่น ตกเลือด หรือ ติดเชื้อ) นอกจากนี้ยังประสบความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ทารกแรกเกิดทั้งหมดมีคะแนน APGAR ในนาทีที่ 1 น้อยที่สุด 8 คะแนน คู่ภรรยาและสามีมีความพึงพอใจในการให้บริการการคลอดธรรมชาติโดยจิตประภัสสร อยู่ในเกณฑ์ดีมาก และสัมพันธภาพในคู่สมรสอยู่ในเกณฑ์ดีมากเช่นกัน รวมทั้งหญิงตั้งครรภ์ยืนยันว่าจิตประภัสสรช่วยให้รู้สึกจิตใจสงบในระหว่างการคลอด และความผูกพันระหว่างมารดาและทารกดีมาก นอกจากนี้พยาบาลผู้ร่วมวิจัย 5 ท่านยังมีความพึงพอใจอย่างมากต่อผลของการให้บริการการคลอดธรรมชาติด้วย จิตประภัสสร

สรุป จิตประภัสสรซึ่งเป็นรูปแบบในการฝึกสมาธิทางศาสนาพุทธ จะช่วยสนับสนุนส่งเสริมการดูแล ตลอดการคลอดธรรมชาติในโรงพยาบาลอื่นๆ ในประเทศไทยได้ด้วย

 

Natural childbirth models are abundant in western cultures, but not many are found in eastern cultures. This study aimed to develop a model for natural childbirth that incorporates Jitprapatsorn— a Buddhist concept meaning “clear, clean mind meditation”— into nursing practices surrounding natural childbirth. Framework : Jitprapatsorn, a Buddhist belief (Machee Sansanee, 1987) and Kemmis & Mc Taggart (1990) action research framework were used to guide the study. Subjects : Sixteen pregnant women and their spouses and five prenatal/ OB RNs at a hospital in Thailand. Methods : Prenatal and OB nurses (n=5) who worked at a Thai hospital agreed to participate in the study. They were trained by PI on natural childbirth services using Jitprapatsorn—a Buddhist belief and practice which is meant to lead to a calm mind. The RNs then recruited 16 third trimester pregnant women (with spouses) who subsequently attended 3 training sessions on empowerment using Jitprapatsorn during childbirth. The couples learned how to use aroma therapy and Jitprapatsorn, along with standard services (e.g., breathing techniques, birth ball use, and herbal massage). During labor and delivery, the couples applied the methods learned from the training. Two days after delivery, the couples were interviewed in-depth (in focus groups) about their experiences. Results : All 16 women had normal labor without pain medications or complications (e.g., hemorrhage, infection). They all successfully breast fed. All of the newborns had an APGAR score of at least 8 at 1 minute after birth. The women and their spouses stated that they were strongly satisfied with their natural childbirth experiences and that their spousal relationships were strengthened by Jitprapatsorn. The pregnant women asserted that Jitprapatsorn helped them to feel peaceful during labor. Also, the participants felt that the bond between mother and baby was stronger due to Jitprapatsorn. Finally, all five RNs stated that they were very satisfied with the results of their nursing care because of Jitprapatsorn. Conclusions : Jitprapatsorn — a Buddhist form of meditation—should be encouraged during natural childbirth labor and delivery in other hospitals in Thailand.

Article Details

Section
Research Articles