แนวคิดการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านสำหรับวิชาพลศึกษา (The Concept of Flipped Classroom in Physical Education)
Main Article Content
บทคัดย่อ
การจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน เริ่มต้นประมาณ ปี ค.ศ. 2007 จากแนวคิดของ
Jonathan Bergmann และ Aaron Sams ครูสอนวิชาเคมี มีแนวคิดหลัก คือ เปลี่ยนกิจกรรม
ที่ครูบรรยายในชั้นเรียนให้นักเรียนไปเรียนนอกห้องเรียนหรือที่บ้านผ่านวีดีทัศน์และสื่อออนไลน์
ประเภทต่าง ๆ ส่วนเวลาที่เรียนในชั้นเรียนนักเรียนจะมีเวลาในการลงมือปฏิบัติ ทำการทดลอง ต่าง ๆ
รวมทั้งการปฏิสัมพันธ์ร่วมกันระหว่างเพื่อนและครูเพิ่มมากขึ้น การจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียน
กลับด้านมีความเหมาะกับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เป็นการส่งเสริมให้ครูและนักเรียนได้พัฒนา
ทักษะการใชเ้ทคโนโลยเีพื่อ การสื่อสารใหเ้กิดประโยชนต์อ่การเรียนรู้รวมทั้งยัง เป็นการเพิ่มโอกาส
ในการเรียนรู้ให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา และซ้ำได้จนกว่าจะเข้าใจ แนวคิด
การจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านสามารถนำมาใช้ในวิชาพลศึกษาได้ เนื่องจากเป็นการ
จัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นให้นักเรียนได้การลงมือปฏิบัติจริง และมีเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมทางกาย
ด้วยตนเองในชั่วโมงเรียนเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับการสอนแบบเดิม สอดคล้องกับหลักการจัดการเรียน
การสอนพลศึกษาที่ถูกต้อง และครูสามารถทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอน ที่คอยอำนวยความสะดวก
ช่วยเหลือให้นักเรียนปฏิบัติได้ถูกต้องมากยิ่งขึ้น ดังนั้นครูพลศึกษาจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับตัว
ให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคปัจจุบันโดยพยายามใช้เทคโนโลยีสารสนเทศต่าง ๆ เข้ามา
ช่วยเป็นสื่อในการเรียนรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการเรียนรู้ของตนเอง และยกระดับวิชาชีพ
พลศึกษาให้มีความก้าวหน้าและเข้มแข็งและนำไปสู่การพัฒนานักเรียนให้เป็นทรัพยากรบุคคลที่
สมบูรณ์ในทุกด้าน ตามจุดมุ่งหมายของปรัชญาวิชาพลศึกษาต่อไป