การวิเคราะห์ความต้องการสำหรับการพัฒนารูปแบบหลักสูตรตามแนวอรรถฐานแบบแนวคิดซิดนีย์เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนเรียงความแบบโต้แย้งทางเดียว เชิงวิพากษ์ของนักเรียนเตรียมทหาร

ผู้แต่ง

  • ปริญญาพร ปรีชา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • อุดมกฤษฎิ์ ศรีนนท์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน
  • เสน่ห์ ทองรินทร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

คำสำคัญ:

การวิเคราะห์ความต้องการ, การพัฒนา, การปรับปรุง, การเขียนเชิงวิจารณ์

บทคัดย่อ

บทความวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานของนักเรียนเตรียมทหาร เพื่อศึกษาความเห็นของนักเรียนเตรียมทหารเกี่ยวกับทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ และเพื่อวิเคราะห์ความต้องการสำหรับการพัฒนารูปแบบหลักสูตรตามแนวอรรถฐานแบบแนวคิดซิดนีย์เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนเรียงความแบบโต้แย้งทางเดียวเชิงวิพากษ์ของนักเรียนเตรียมทหาร เป็นการวิจัยเชิงแบบผสานวิธี โดยศึกษากลุ่มตัวอย่างจำนวน 30 คน ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นปีที่ 2 ที่ลงทะเบียนเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติม ในปีการศึกษา 2563 เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม ที่ได้ผ่านการตรวจสอบความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาจากผู้เชี่ยวชาญ 5 ท่าน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนาเพื่อหาค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์เชิงเนื้อหาสำหรับคำถามปลายเปิด จากนั้นในขั้นตอนที่ 2 ได้ทำการสัมภาษณ์เชิงลึกนักเรียนกลุ่มดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง

ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนส่วนใหญ่ขาดความรู้เกี่ยวกับการเขียนอธิบายความเชิงวิจารณ์ และมีความต้องการเรียนรู้ทักษะการเขียนภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันในระดับมากที่สุด (gif.latex?\bar{X} =4.07) และมีนักเรียนส่วนหนึ่งที่ต้องการเรียนรู้ทักษะการเขียนอธิบายความ โดยมีความต้องการเรียนหลักสูตรการเขียนภาษาอังกฤษทั้งกับครูผู้สอนโดยตรงและเรียนรู้ผ่านกิจกรรมกับเพื่อนร่วมชั้นเรียน นอกจากนี้ยังมีความต้องการเรียนรู้คำศัพท์และรูปแบบของภาษาเพื่อการเขียนอธิบายความภาษาอังกฤษอีกด้วย นักเรียนอีกส่วนหนึ่งเมื่อเขียนภาษาอังกฤษมักจะแปลจากไทยเป็นอังกฤษก่อน โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (gif.latex?\bar{X} = 3.83) จากการศึกษายังพบว่า หลังจากกิจกรรมการเรียนการสอนนักเรียนยังไม่สามารถใช้กลวิธีการเขียนอธิบายเชิงวิจารณ์ได้ จึงมีข้อเสนอแนะว่าควรหาแนวทางให้ครูสอนภาษาอังกฤษในโรงเรียนเตรียมทหารได้พัฒนาหลักสูตรเพิ่มเติมในเชิงระบบและหน้าที่ (SFL-based curriculum) เพื่อให้นักเรียนพัฒนาทักษะการเขียนจนสามารถเขียนอธิบายความเชิงวิจารณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

References

Armed Forces Academies preparatory school. (2020). School mission. retrieved 19 November 2020. from http://www.afaps.ac.th/index_eng.php#3.

Brown, D. H. (1994). Principles of Language Learning and Teaching. New York: Prentice Hall Regents.

Feez, S. (1998). Text-based syllabus design. Sydney: NCELTR-Macquarie University.

Nagao, A. (2017). Longitudinal study of EFL students using the systemic functional linguistics method. International Education Studies, 10(11), 47–62.

________. (2018). A Genre-Based Approach to Writing Instruction in EFL Classroom Contexts. English Language Teaching, 11(5), 130.

Savage, W. & Storer, M. (1992). An emergent language program framework: Actively involving learners in needs analysis. System Journal, 20(2), 187–199.

Srinon, U. (2011). A longitudinal study of developments in the academic writing of Thai university students in the context of a genre-based pedagogy. (Dissertation of Doctor of Philosophy). School of Humanities, Faculties of Humanities and Social Sciences. University of Adelaide.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2021-09-19

How to Cite

ปรีชา ป., ศรีนนท์ อ. ., & ทองรินทร์ เ. . (2021). การวิเคราะห์ความต้องการสำหรับการพัฒนารูปแบบหลักสูตรตามแนวอรรถฐานแบบแนวคิดซิดนีย์เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนเรียงความแบบโต้แย้งทางเดียว เชิงวิพากษ์ของนักเรียนเตรียมทหาร. วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์, 10(3), 319–334. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jssr/article/view/253568