การตัดสินใจของผู้ปกครองในการส่งบุตรหลานเข้าเรียนโรงเรียนสาธิตวิทยาการอิสลาม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

บทคัดย่อ

จุดประสงค์  งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับการตัดสินใจของผู้ปกครองในการส่งบุตรหลานเข้าเรียนโรงเรียนสาธิตวิทยาการอิสลาม มหาวิทยาลัยสงขลา นครินทร์ 2) เพื่อเปรียบเทียบการตัดสินใจของผู้ปกครองในการส่งบุตรหลานเข้าเรียนโรงเรียนสาธิตวิทยาการอิสลาม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 3) เพื่อประมวลข้อเสนอแนะในการตัดสินใจของผู้ปกครองในการส่งบุตรหลานเข้าเรียนโรงเรียนสาธิตวิทยาการอิสลาม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

วิธีการศึกษา  การศึกษาครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ ที่ใช้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ โดยเก็บข้อมูลด้วยการสนทนากลุ่ม (Focus group) จากตัวแทนผู้ปกครองนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 จํานวน 18 คน และเก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามเพื่อสนับสนุนข้อมูลที่ได้จากการสนทนากลุ่ม ซึ่งกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ ผู้ปกครองนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 จํานวน 138 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม โดยผู้วิจัยสร้างขึ้นมีความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาระหว่าง 0.66-1.00 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.98 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน One-way ANOVA และทดสอบความแตกต่างค่าเฉลี่ยโดยวิธีของเชฟเฟ

ผลการวิจัย  ผลการศึกษาจากการเก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามสนับสนุนและสอดคล้องกับข้อมูลที่ได้จากการสนทนากลุ่ม ดังต่อไปนี้ 1. ระดับการตัดสินใจของผู้ปกครองในการส่งบุตรหลานเข้าเรียนโรงเรียนสาธิตวิทยาการอิสลาม มหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์ โดยภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก 2. เมื่อเปรียบเทียบการตัดสินใจของผู้ปกครองในการส่งบุตรหลานเข้าเรียนโรงเรียนสาธิตวิทยาการอิสลาม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยจำแนกตามตัวระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ของครอบครัว พบว่า ในภาพรวมไม่แตกต่างกัน

การนำผลวิจัยไปใช้ นำผลการประมวลข้อเสนอแนะที่ได้จากการวิจัยมาเป็นข้อมูลเพื่อกำหนดเป็นกลยุทธ์ในการวางแผนพัฒนาโรงเรียน เพื่อพัฒนาโรงเรียนให้มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง และสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในยุคปัจจุบัน ดังนี้ 1) ด้านการพัฒนาหลักสูตรให้มีความทันสมัยรองรับอาชีพต่าง ๆ ในอนาคต เช่น ด้านภาษา ด้านผู้ประกอบการ และด้านธุรกิจ เป็นต้น 2) ด้านการดูแลนักเรียนเป็นรายบุคคล ต้องพัฒนาส่งเสริมนักเรียนทุกคนในทุก ๆ ด้าน ตามศักยภาพ ความถนัด และความสนใจของนักเรียน 3) ด้านการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ ระหว่างโรงเรียน นักเรียน และผู้ปกครอง ต้องมีความรวดเร็ว ทันเหตุการณ์ และมีการเปลี่ยนแปลงแผนปฏิบัติงานของโรงเรียนให้น้อยที่สุด 4) ด้านอาหาร โรงเรียนต้องคำนึงถึงคุณค่าทางโภชนาการ สะอาด ถูกหลักอนามัย มีเมนูที่หลากหลาย และเพียงพอกับจำนวนนักเรียน 5) ด้านครูและบุคลากรของโรงเรียน ในเรื่องการดูแลนักเรียนต้องใช้หลักจิตวิทยาเชิงบวก 6) ด้านค่าใช้จ่าย โรงเรียนควรชี้แจงค่าธรรมเนียมการศึกษาอย่างละเอียดและสื่อสารให้ผู้ปกครองทราบอย่างสม่ำเสมอ 7) ด้านวิชาการ โรงเรียนควรส่งเสริมและมีการติวที่เข้มข้นมากขึ้นเพื่อเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย และทำผลงานด้านต่าง ๆ ใส่แฟ้มสะสมผลงาน 9) ด้านหอพัก ให้มีการปรับปรุงด้านสาธารณูปโภค และการบริการต่าง ๆ ให้รวดเร็ว และเพียงพอกับนักเรียน