ทัศนคติของประชาชนต่อกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเรื่องครอบครัวและมรดกตามหลักกฎหมายอิสลาม กรณีศึกษาคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา

ผู้แต่ง

  • อุสมาน ยูนุ คณะวิทยาการอิสลาม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
  • ญาดุลฮัก มิ่งสมร คณะวิทยาการอิสลาม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
  • สุทธิศักดิ์ ดือเระ คณะวิทยาการอิสลาม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
  • มะรอนิง สาแลมิง คณะวิทยาการอิสลาม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
  • อัสมัน แตอาลี คณะวิทยาการอิสลาม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี

คำสำคัญ:

กฎหมายอิสลาม, ทัศนคติ, การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทว่าด้วยครอบครัวและมรดก , คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์ งานวิจัยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาทัศนคติของประชนต่อกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเรื่องครอบครัวและมรดกตามหลักศาสนาอิสลามของคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลาและ 2) เพื่อนำเสนอแนวทางการพัฒนาระบบการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทของคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด

วิธีการวิจัย งานวิจัยนี้ใช้วิธีวิจัยเชิงปริมาณและสำรวจ  (Survey Research)  โดยใช้แบบสอบถาม (Questionnaire) ในการเก็บข้อมูลทัศนคติของประชนต่อกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเรื่องครอบครัวและมรดกตามหลักศาสนาอิสลามของคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลาประจำปี พ.ศ. 2562  ทั้งหมด  374  คน และขนาดของกลุ่มตัวอย่างที่ได้คำนวณจากสูตรของทาโร่ ยามาเน่ (Taro Yamane) คือ 193 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ตรวจสอบความสมบูรณ์ของแบบสอบถาม เก็บและรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัย พบว่า ทัศนคติของประชาชนต่อกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้วยเรื่องครอบครัวและมรดกตามหลักศาสนาอิสลามของคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา พบว่า มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (X = 4.75, S.D. = 0.08) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ และการได้รับการยอมรับของผู้ทำหน้าที่ไกล่เกลี่ย มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด (X = 4.96, S.D. = 0.18) รองลงมาด้านความคาดหวังของประชาชนต่อกระบวนการไกล่เกลี่ย (X = 4.83, S.D. = 0.17) ตามด้วยด้านผลลัพธ์ของการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ( X = 4.70, S.D. = 0.17) และด้านอาคารสถานที่สำหรับการไกล่เกลี่ย มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด ( X = 4.50, S.D. = 0.02) 

การนำผลวิจัยไปใช้ ผลการวิจัยนี้แสดงถึงความเชื่อมั่นของประชาชนผู้ใช้บริการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทว่าด้วยครอบครัวและมรดกที่มีต่อคุณภาพการให้บริการของสำนักงานคณะกรรมการจังหวัดยะลา ซึ่งทางสำนักงานสามารถนำผลวิจัยไปใช้ในการปรับปรุงต่อไป และสำนักงานในจังหวัดอื่น ๆ สามารถนำผลวิจัยนี้ไปประยุกต์ใช้เพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงด้านการไกล่เกลี่ย

เอกสารอ้างอิง

Ali aljamus. (n.d.). ì-sà-laa · saa dtin · bai(اصلاح ذات البين) . maktabat alsahwa.

Toh-ae, A. & Salaming, M (2019). The Customers’ Satisfaction on the Conciliation Service of Family Disputes under the Islamic Principles, the Office of Songkhla Provincial Islamic Committee. AL-NUR Journal, 14(26), 124-129

Al-sharbini. (1944). mú ká-nee-yul múhtajمغني المحتاج)). Dar alkutub al'iislamia

Al-mualla,Fahad ibn farraij. (2000). fan nun · ì-sà-laa · bai-nan-nâat (فن الإصلاح بين الناس ). King Abdul aziz University.

Suwanbundit, A. & Adulpatanakit, P. (2005). Service Psychology Comprehension Strategies and Trend. Office of the Permanent Secretary, Ministry of Justice. Press and Design

Raob, I., Khlongkhlaew, Y. & Diyo, M. (2021). Community Action Plan toward Driving a Learning Using Masjid Based Multicultural Society of Pattani Province. The Journal of Islamic studies, Prince of Songkla University, 12(2), 64-72

Maroning Salaming and group. (2012). Development of the system and the mediation potential of family and inheritance disputes according to the provisions of Islam in the southern border provinces. Office of the Permanent Secretary, Ministry of Justice

Zeithaml V. A. Parasuraman, A. & Berry. (1990). Delivering quality service: Balancing custemer perceptions and expections. The Free Press.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

07-06-2022

รูปแบบการอ้างอิง

ยูนุ อ. ., มิ่งสมร ญ. ., ดือเระ ส. ., สาแลมิง ม. ., & แตอาลี อ. (2022). ทัศนคติของประชาชนต่อกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเรื่องครอบครัวและมรดกตามหลักกฎหมายอิสลาม กรณีศึกษาคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา. วารสารอิสลามศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 13(1), 30–64. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JOIS/article/view/257926

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย