การมีส่วนร่วมในกิจกรรมนักศึกษาของนักศึกษาต่างชาติ คณะวิทยาการอิสลาม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์ งานวิจัยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาองค์กรกิจกรรมที่นักศึกษาต่างชาติ ต้องการและสนใจเข้ามีส่วนร่วมในกิจกรรม 2) เพื่อศึกษาสภาพการมีส่วนร่วมในกิจกรรมนักศึกษาของนักศึกษาต่างชาติ 3) เพื่อเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของนักศึกษาต่างชาติ จำแนกตาม เพศ ประเทศและชั้นปี 4) เพื่อเสนอแนวทางส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของนักศึกษาต่างชาติ

วิธีการศึกษา การศึกษาครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research)  ที่ใช้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพด้วยแบบสอบถาม ด้วยแบบสอบถาม (Questionnaire) ซึ่งกลุ่มตัวอย่างที่ ใช้ในการศึกษา เป็นนักศึกษาต่างชาติ ระดับปริญญาตรี กำลังศึกษาที่คณะวิทยาการอิสลาม มหาวิทยาลัยสงขลา นครินทร์ จำนวน 55 คน จาก 13 ประเทศ คือ กัมพูชา สาธารณรัฐประชาชนจีน ไอวอรีโคสต์ กินี บูร์กินาฟาโซ ไลบีเรีย เซียร์ราลีโอน แกมเบีย เซเนกัล  สหพันธรัฐมาเลเซีย ศรีลังกา  เวียดนาม และอินโดนีเซีย  ในการวิเคราะห์ข้อมูลครั้งนี้ โปรแกรมสำเร็จรูปสำหรับการศึกษาทางสังคมศาสตร์โดยใช้วิธีการทางสถิติทำการวิเคราะห์ข้อมูล ค่าความถี่และร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ยเลขคณิต (Arithmetic Mean) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และเครื่องมือในการเข้าถึงข้อมูลเชิงคุณภาพจะเป็นการสนทนาอภิปรายกลุ่ม (Focus group Discussion)  จำนวน 33 คน เป็นการเก็บข้อมูลประชากรผ่านตัวแทนของนักศึกษาแต่ละประเทศ นำมาวิเคราะห์ถึงแนวทางการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของนักศึกษาต่างชาติ

ผลการวิจัย  1. องค์กรกิจกรรมที่นักศึกษาต่างชาติ ต้องการและสนใจเข้ามีส่วนร่วมในกิจกรรม ได้แก่ สโมสรนักศึกษา องค์การบริหารองค์การนักศึกษา ชมรมต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะสนใจเข้าร่วมในฐานะเป็นผู้เข้าร่วมกิจกรรมเท่านั้น  และลักษณะความรับผิดชอบการมีส่วนร่วมกิจกรรมที่ต้องการมากที่สุด คือ งานวิเทศสัมพันธ์และฝ่ายประสานงานกิจกรรมให้กับนักศึกษาต่างชาติ 2. สภาพการมีส่วนร่วมกิจกรรมของนักศึกษาต่างชาติ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก และหากพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านประโยชน์การเข้าร่วมกิจกรรมมีค่าเฉลี่ยสูงสุดเท่ากับ 4.08  รองลงมา ด้านความสนใจของนักศึกษาต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมนักศึกษา มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.91 และด้านการได้รับข้อมูลข่าวสารของกิจกรรมต่าง ๆ ของทางมหาวิทยาลัยและองค์กรกิจกรรมต่าง ๆ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.63 ตามลำดับ 3. ผลการเปรียบเทียบความแตกต่าง ระหว่างเพศ ประเทศและชั้นปี ในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของนักศึกษาต่างชาติ โดยภาพรวม พบว่า ไม่มีความแตกต่างกัน และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า  ทุกด้านไม่มีความแตกต่างกันเช่นเดียวกัน 4. แนวทางส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของนักศึกษาต่างชาติ  ด้านความต้องการและความสนใจ ด้านปัจจัยที่มีผลกระทบการมีส่วนร่วมต่อกิจกรรม ด้านการได้รับข้อมูลข่าวสารของกิจกรรมต่าง ๆ ทางมหาวิทยาลัยและองค์กรกิจกรรมต่าง ๆ  ด้านประโยชน์ของการเข้าร่วมกิจกรรม  ด้านทัศนะคตินักศึกษาต่อภาพรวมของกิจกรรมในมหาวิทยาลัยฯ 

การนำผลวิจัยไปใช้ สามารถนำผลการวิจัยเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมนักศึกษาชาติให้กับสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาในประเทศไทยได้