บริบทการขับเคลื่อนสภาองค์กรชุมชนตำบลนาแว สู่ “ชุมชนจัดการตนเอง” ภายใต้รัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทยปี 2560

Main Article Content

อุดมศักดิ์ เดโชชัย
อุทิศ สังขรัตน์
วันชัย ธรรมสัจการ

บทคัดย่อ

บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาวิจัยเรื่อง การขับเคลื่อนสภาองค์กรชุมชนเพื่อการจัดการตนเอง กรณีศึกษาสภาองค์กรชุมชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาบริบทของการขับเคลื่อนสภาองค์กรชุมชนและบทบาทที่นำไปสู่การจัดการตนเองของชุมชน โดยผู้วิจัยได้ยกตัวอย่างบริบทการขับเคลื่อนสภาองค์กรชุมชนตำบลนาแว อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นแบบของกรณีศึกษาของงานวิจัยฉบับนี้ โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม


          ผลการวิจัยพบว่า


          ยุคเริ่มแรก กลุ่ม องค์กรชุมชนจำนวนมากของตำบลนาแว เกิดขึ้นก่อนที่จะมีการตราประราชบัญญัติสภาองค์กรชุมชนขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2551 กลุ่ม องค์กรชุมชนดังกล่าว มีกิจกรรมร่วมกันในการขับเคลื่อนทางสังคมอยู่หลายประการทั้งที่เป็นเชิงประเด็นปัญหาและทุนในพื้นที่ เช่น ประเด็นด้านขนบธรรมเนียมประเพณี การปริการสาธารณะในชุมชน สิทธิชุมชนด้านทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ระบบเกษตรอินทรีย์ในชุมชน ระบบกองทุนสวัสดิการชุมชน สถาบันการเงินชุมชน เป็นต้น และจากการจดแจ้ง จัดตั้งสภาองค์กรชุมชนตำบลนาแวขึ้นในปี 2552 ที่มีพระราชบัญญัติสภาองค์กรชุมชนรองรับทำให้หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ยอมรับสถานภาพของกลุ่มองค์กรชุมชนมากขึ้น จนทำให้เกิดกลุ่ม องค์กรชุมชนใหม่ๆ ตามนโยบายของหน่วยงาน และนโยบายของรัฐ เช่น กลุ่มร้านค้าประชารัฐ กลุ่มบ้านมั่นคงชนบท เป็นต้น


          นอกจากนั้นยังพบว่า สภาองค์กรชุมชนตำบลนาแว ได้มีการเชื่อมโยงกลุ่ม องค์กรชุมชนที่ขับเคลื่อนตามประเด็นปัญหาต่าง ๆ ของตำบลไว้ด้วยกัน จึงทำให้เกิดพื้นที่การประสานงานร่วมกันระหว่างรัฐกับชุมชน ทั้งเจ้าของปัญหาและผู้มีส่วนให้การสนับสนุนในการแก้ไขปัญหา จนทำให้สภาองค์กรชุมชนตำบลนาแว เป็นเสมือน “เวทีกลาง” หรือ “พื้นที่กลาง” ของตำบล ที่ท้องถิ่น จังหวัดและเจ้าหน้าที่ หน่วยสนับสนุนต่าง ๆ สามารถเข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาร่วมกันได้ จึงเป็นแนวโน้มสำคัญของการขับเคลื่อนสภาองค์กรชุมชนตำบลนาแว ที่จะนำไปสู่ “ชุมชนจัดการตนเอง” ซึ่งจะเป็นการเติบโตและเข้มแข็งของขบวนการภาคพลเมืองไทยอีกระดับหนึ่ง

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
เดโชชัย อ., สังขรัตน์ อ., & ธรรมสัจการ ว. (2020). บริบทการขับเคลื่อนสภาองค์กรชุมชนตำบลนาแว สู่ “ชุมชนจัดการตนเอง” ภายใต้รัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทยปี 2560. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 6(10), 5381–5392. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JMND/article/view/227481
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

โกวิทย์ พวงงาม. (2553). การจัดการตนเองของชุมชนและท้องถิ่น. (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

ดารารัตน์ คำเป็ง. (2552). ศึกษาบทบาททางการเมืองภาคประชาชนต่อการปกครองท้องถิ่น : ศึกษากรณีเฉพาะ สภาองค์กรชุมชนตำบลน้ำเกี๋ยน อำเภอภูเวียง จังหวัดน่าน. ใน วิทยานิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการเมืองและการปกครอง. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

มณีรัตน์ มิตรประสาท. (2555). สภาองค์กรชุมชน: วิถีประชาธิปไตยในสังคมไทย. วารสารปาริชาต, 24(2), 73-95.

ราชกิจจานุเบกษา. (2550). รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550. เรียกใช้เมื่อ 2562 มีนาคม 6 จาก http://www.mua.go.th/users/he-commission/doc/law /Constitution2550.pdf

ราชกิจจานุเบกษา. (2560). รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560. เรียกใช้เมื่อ 6 มีนาคม 2562 จาก http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/A/040/1.PDF

สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน. (2551). พระราชบัญญัติสภาองค์กรชุมชน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน).

สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน. (2558). ชุมชนพลเมืองจะได้อะไรจากรัฐธรรมนูญ (ปี 2558). กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน).

สภาร่างรัฐธรรมนูญ. (2550). ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับลงประชามติ ในวันอาทิตย์ 19 สิงหาคม 2550. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.

อเนก เหล่าธรรมทัศน์. (2553). ประชาธิปไตยชุมชน รัฐศาสตร์สำหรับสภาองค์กรชุมชน. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ส่วนพัฒนากระบวนการเรียนรู้และองค์ความรู้ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน).