ความพึงพอใจของนักศึกษาต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ ในชุมชนในวิชาพหุวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น

Main Article Content

สุชาดา วงศ์สวาสดิ์
สุชาฎา คล้ายมณี

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชนในวิชาพหุวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น 2) ศึกษาเปรียบเทียบความพึงพอใจของนักศึกษาต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชนในวิชาพหุวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น จำแนกตามเพศและอายุ และ 3) ศึกษาความคิดเห็นของนักศึกษาเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชนในวิชาพหุวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น กลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาพยาบาลศาสตร์บัณฑิต ชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา ที่ลงทะเบียนเรียนวิชาพหุวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น            ในปีการศึกษา 2561 จำนวน 150 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา t-test และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา


          ผลการวิจัยพบว่า


          นักศึกษามีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชนในวิชาพหุวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และทุกด้านอยู่ในระดับมากที่สุด โดยด้านอาจารย์ผู้สอนมีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมา คือ ด้านการวัดและประเมินผล และด้านการจัดการเรียนรู้ ตามลำดับ เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ นักศึกษาได้เลือกแหล่งเรียนรู้ที่จะทำการศึกษาตามความสนใจ รองลงมา คือ อาจารย์ให้นักศึกษามีอิสระทางความคิดและการตัดสินใจ และนักศึกษาได้เรียนรู้ในเรื่องที่สนใจตรงตามความต้องการ กับอาจารย์ดูแลเอาใจใส่อำนวยความสะดวกแก่นักศึกษา ตามลำดับ


          เมื่อเปรียบเทียบความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชนในวิชาพหุวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น พบว่า นักศึกษาที่มีเพศและอายุต่างกันมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ


          นักศึกษาส่วนใหญ่มีความคิดเห็นว่า การจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชนทำให้นักศึกษาได้เรียนรู้การทำงานกลุ่มร่วมกัน มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย ได้เรียนรู้วัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นจากสถานที่จริง ได้รับประสบการณ์ตรง ได้ลงมือปฏิบัติจริง ทำให้มีความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ เห็นถึงคุณค่า เกิดความภาคภูมิใจ ควรสืบสานและอนุรักษ์ไว้ รวมทั้งได้พัฒนาทักษะการสื่อสารและการนำเสนอเป็นการเรียนรู้ที่สนุกและมีความสุข

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
วงศ์สวาสดิ์ ส., & คล้ายมณี ส. (2019). ความพึงพอใจของนักศึกษาต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ ในชุมชนในวิชาพหุวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 6(9), 4511–4526. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JMND/article/view/222744
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กนกทรัพย์ หลงประดิษฐ์. (2560). การพัฒนาแหล่งเรียนรู้ในชุมชนหมู่ 3 บางมด เรื่อง การส่งเสริมวิสาหกิจท่องเที่ยวเชิงเกษตรผ่านการเรียนรู้โดยใช้ชุมชนเป็นฐานของนักศึกษาระดับปริญญาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี. ใน วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์อุตสาหกรรมมหาบัณฑิต สาขาวิชาครุศาสตร์เทคโนโลยี. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี.

คณะอนุกรรมการการจัดการความรู้ด้านการเรียนการสอน มหาวิทยาลัยศรีปทุม. (2555). คู่มือแนวปฏิบัติที่ดีการจัดการการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยศรีปทุม.

จารุวรรณ เทวกุล. (2555). ความพึงพอใจของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ประเภทวิชาพาณิชยกรรม ชั้นปีที่ 1 ชั้นปีที่ 2 และชั้นปีที่ 3 วิทยาลัยอาชีวศึกษาฉะเชิงเทรา. ใน วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาธุรกิจศึกษา. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

ณิรดา เวชญาลักษณ์. (2559). การพัฒนาผู้เรียนโดยใช้โครงการศึกษาแหล่งเรียนรู้. วารสารบัณฑิตศึกษา, 13 (63), 1-10.

ทิศนา แขมมณี. (2557). ศาสตร์การสอน: องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. (พิมพ์ครั้งที่ 17). กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพมหานคร: สุวีริยาสาส์น.

สมชาย บุญสุ่น. (2554). ความพึงพอใจของนิสิตที่มีต่อการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา. ใน วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา. มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2555). การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ: การจัดการเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรุสภา.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). การจัดการเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรุสภา.

สุวิทย์ มูลคำ และอรทัย มูลคำ. (2553). 20 วิธีการจัดการเรียนรู้: เพื่อพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และการเรียนรู้โดยการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง. กรุงเทพมหานคร: ภาพพิมพ์.

อภิเดช ช่างชัย และคณะ. (2560). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ด้านการเกษตรโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน: กรณีศึกษาโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน. Veridian E-Journal, 10(2), 1544-1560.

อรวรรณ บุราณรักษ์. (2559). การพัฒนารายวิชาภูมิปัญญาท้องถิ่นจากผลการเรียนรู้และการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน. วารสารนานาชาติ มหาวิทยาลัยขอนแก่น สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 6(1), 32-49.

Butta, B. Z., & Rehmanb, K. U. (2010). A study examining the students satisfaction in higher education. Procedia Social and Behavioral Sciences, 2(2), 5446–5450.

Knowles, M. S. (1975). Self-directed learning: A guide for learners and teachers. New York: Cambridge Book.

Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determination sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 1(3), 607-610.

Rienties et al. (2013). Student experiences of self-reflection and peer assessment in providing authentic project-based learning to large class sizes . Netherlands: Springer.

Thorndike, E. L. (1927). The law of effect. The American Journal of Psychology, 39(1/4), 212-222.