ยุทธศาสตร์การพัฒนาฝีมือแรงงานของโรงเรียนพัฒนาอาชีพฝีมือแรงงานเอกชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนประเทศไทย
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาปัญหาและความต้องการในการพัฒนาฝีมือแรงงานของโรงเรียนพัฒนาอาชีพฝีมือแรงงานเอกชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2) เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ในการพัฒนาฝีมือแรงงานของโรงเรียนพัฒนาอาชีพฝีมือแรงงานเอกชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 3) เพื่อทดลองและประเมินผลยุทธศาสตร์ในการพัฒนาฝีมือแรงงานของโรงเรียนพัฒนาอาชีพฝีมือแรงงานเอกชน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน การศึกษาครั้งนี้ใช้ระเบียบวิธีการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) เป็นวิธีวิจัยแบบผสมผสานระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณกับการวิจัยเชิงคุณภาพ ประชากรที่ใช้ในงานวิจัยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญทางด้านแรงงานจำนวน 30 คน กลุ่มแรงงาน จำนวน 200 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
- ผลการศึกษาสภาพและความต้องการการพัฒนาฝีมือแรงงานของโรงเรียนพัฒนาอาชีพฝีมือแรงงานเอกชน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน พบว่า ปัญหาและความต้องการทุกข้ออยู่ในระดับมาก
- ผลการศึกษาปัญหาและความต้องการในการพัฒนาฝีมือแรงงานของโรงเรียนพัฒนาอาชีพแรงงานเอกชน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในระยะที่ 1 และมาจัดลำดับความสำคัญของปัญหาและความต้องการ ในระยะที่ 2 ผู้วิจัย ได้นำผลการวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลมาร่างยุทธศาสตร์การพัฒนาฝีมือแรงงานของโรงเรียนพัฒนาอาชีพ โดยการประชุมเชิงปฏิบัติการ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จำนวน 20 คน ได้ร่างยุทธศาสตร์ ดังนี้ ยุทธศาสตร์ที่ 1 สร้างศักยภาพทางด้านทักษะและการสื่อสาร การพูด การสื่อสารที่จำเป็นตามมาตรฐานของประเทศปลายทาง ยุทธศาสตร์ที่ 2 สร้างศักยภาพวิถีแรงงานด้านทักษะการสื่อสารการเอาตัวรอดในด้านการปฏิบัติในสถานที่ทำงานรวมถึงวัฒนธรรมที่ดีในการใช้ชีวิตในประเทศปลายทาง ยุทธศาสตร์ 3 ทักษะการทำงานอย่างมีระเบียบวินัย และปฏิบัติตามกฎระเบียบของแรงงานไทย
3. ผลการทดลองและการประเมินการทดลองใช้ยุทธศาสตร์ในการพัฒนาฝีมือแรงงานของโรงเรียนพัฒนาฝีมือแรงงานเอกชน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ก่อนการทดลองโครงการกลุ่มทดลองมีความรู้และความเข้าใจในการนำไปใช้ มีค่าเฉลี่ยน้อยกว่า 3.51 และหลังการทดลองโครงการกลุ่มทดลองมีความรู้และความเข้าใจ การนำไปใช้มีค่าเฉลี่ยมากกว่า 3.51 ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กฤตชญาภัค อุ่นเสรี. (2554). ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน AEC: ASEAN Economic Community. กรุงเทพมหานคร: ส่วนพัฒนาและบริหารจัดการความรู้ สถาบันดำรงราชานุภาพ สำนักงานปลัด กระทรวงมหาดไทย.
พยัต วุฒิรงค์. (2559). การบริหารทรัพยากรมนุษย์ในทศวรรษหน้า. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พัฒนา กิติอาษา. (2546). ท้องถิ่นนิยม. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ.
พัฒนาวดี ชูโต วิไล วงศ์สืบชาติ และจีระพล เสียงสังข์. (2546). ทักษะการทำงานของแรงงานไทย มุมมองจากนายจ้าง คนงานและผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐในจังหวัดน่าน. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ยุทธพล ทวะชาลี. (2548). รูปแบบการพัฒนาฝีมือแรงงานสำหรับศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. ใน ดุษฎีนิพนธ์ศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพัฒนศาสตร์. มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
รีนา ต๊ะดี. (2559). การบริหารจัดการระบบประกันสุขภาพและบริการสุขภาพที่เหมาะสม. กรุงเทพมหานคร: สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล.
วุฒิพันธ์ ตันติวงศ์. (2554). การประมาณการแนวโน้มกำลังแรงงานในอนาคตจำแนกตามช่วงอายุ. กรุงเทพมหานคร: กองวิจัยตลาดแรงงาน.
ศิริพร สัจจานนท์. (2555). การคุ้มครองและสวัสดิการของแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในต่างประเทศ: มุมมองจากนโยบายและกฎหมายของประเทศต้นทาง. วารสารสุโขทัยธรรมาธิราช , 25(1),62-75.
ศูนย์กฎหมายธุรกิจอินเตอร์เนชั่นแนล. (2553). หลักสูตร In-house. เรียกใช้เมื่อ 6 สิงหาคม 2560 จาก http://www.trainer.in.th
Isphording, I. E. (2014). Language and labor market success. IZA Discussion Paper No. 8572. Retrieved June 21, 2017, from https://ssrn.com/ abstract=2514765
Müge Adalet McGowan, & Dan, A. (2015). Labor market mismatch and labor productivity: evidence from PIAAC data. Retrieved May 27, 2016, from https://www.oecd.org/eco/growth/Labour-Market-Mismatch-and-Labour-Productivity-Evidence-from-PIAAC-Data.pdf