ศึกษาวิเคราะห์การให้ทานในสังคมไทยยุคปัจจุบัน

Main Article Content

พระครูพิลาศสรกิจ (สุรศักดิ์ ธารายศ)
พระครูวิจิตรศีลาจาร .
สิทธิโชค ปาณะศรี
สวัสดิ์ อโณทัย

บทคัดย่อ

วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ 1) เพื่อศึกษาการให้ทานที่ปรากฏในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาท 2) เพื่อศึกษารูปแบบการให้ทานในสังคมไทยและ 3) เพื่อศึกษาวิเคราะห์การให้ทานในสังคมไทยยุคปัจจุบันวิธีดำเนินการวิจัย ผู้วิจัยได้รวบรวมข้อมูลจากพระไตรปิฎก อรรถกถา เอกสารทางวิชาการและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการให้ทานในสังคมไทยปัจจุบัน รวมทั้งข้อมูลภาคสนามโดยการสัมภาษณ์เชิงลึกเกี่ยวกับการให้ทานของผู้นำในสังคมไทย จำนวน 15 รูป/คน จำแนกเป็น พระภิกษุจำนวน 5 รูป ผู้นำชุมชนจำนวน 3 คน นักวิชาการจำนวน 3 คนและประชาชนจำนวน 4 คน


          ผลการศึกษาพบว่า


          1) การให้ทานที่ปรากฏในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาท พบว่า การให้ทานมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการให้ทานที่ปรากฏอยู่ในพระสูตร อรรถกถาและคัมภีร์ต่าง ๆ คือ สังคหวัตถุธรรม ฆราวาสธรรม สัปปุริสธรรม 7 พรหมวิหารธรรม และอิทธิบาท 4 ที่สำคัญ ได้จำแนกประเภทของทานออกเป็น 3ประเภท มีดังนี้ อามิสทาน การให้ธรรมทาน และอภัยทาน ที่นอกเหนือจากการทำบุญให้ทานประเภทอื่น ๆ การถวายทานที่สังคมส่วนใหญ่เข้าใจ ก็คือ ปาฏิบุคลิกทาน การให้เจาะจง และสังฆทาน ให้โดยไม่มุ่งหวังเจาะจง เฉพาะแก่พระภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง ในคัมภีร์กล่าวว่า การให้ทานที่ไม่เจาะจง จะมีผลอานิสงส์มากกว่าขึ้นอยู่กับเจตนาของผู้ให้ทาน เป็นสำคัญ ทำให้สังคมได้มีคนดีช่วยกันพัฒนาประเทศ ตั้งแต่ในระดับครอบครัว ระดับสังคม ระดับประเทศและระดับนานาชาติแต่การให้ทาน มีธรรมทานอย่างเดียวเท่านั้นอันเป็นวิทยาทานที่สามารถทำให้ผู้รับได้เป็นปัจจัยเข้าถึงพระนิพพาน


2) รูปแบบในการให้ทานในสังคมไทย พบว่า การให้ทานมีรูปแบบ3 ประการ ได้แก่1. อามิสทาน คือ การให้สิ่งของที่เป็นวัตถุ มีของที่รับประทานได้และเป็นของใช้ต่าง ๆ ที่เลี้ยงชีวิตให้ดำรงอยู่ได้ 2.ธรรมทาน คือ การให้คุณธรรมที่เป็นความรู้ที่ทำให้เกิดปัญญา ในการมีชีวิตในสังคมด้วยคุณความดีอันที่มั่นคง ของผู้ทรงธรรม3. อภัยทาน หมายถึง การยกเว้นการประทุษร้ายเบียดเบียนซึ่งกันและกัน มีชีวิตอยู่ร่วมกันโดยไม่มีเวร ไม่มีภัยต่อกัน มีจิตคิดเมตตาในคนและสัตว์ หากผิดพลาดก็ไม่ถือโทษโกรธตอบ การให้ทานอันมีวิธีที่พร้อมด้วยเขตสมบัติ คือ บุญเขตถึงพร้อม ไทยธรรมสมบัติ คือ ไทยธรรมถึงพร้อมและจิตตสมบัติ คือ เจตนาถึงพร้อม อันจะทำให้คนในสังคมเข้าใจการให้ทานมากยิ่งขึ้น


          3) วิเคราะห์การให้ทานในสังคมไทยปัจจุบัน พบว่า การให้ทานที่ถูกต้อง ประกอบด้วยแนวการปฏิบัติในการให้ทานทั้งผู้ให้ และผู้รับต้องเป็นผู้มีคุณธรรมและจริยวัตรงดงามถูกต้องตามหลักศาสนา และเข้าใจรอบรู้ไม่ตกเป็นเหยื่อของทุรชน เพราะในสังคมปัจจุบันเป็นสังคมเทคโนโลยีก้าวไกล จึงจำเป็นต้องรู้เท่าทันโลกพร้อมที่จะนำพาตัวเอง สังคมสู่การพัฒนาด้านวัตถุและจิตวิญญาณ เพื่อสร้างสรรค์ประโยชน์สุขแก่สังคมได้อย่างสมบูรณ์และต่อยอดสู่การพัฒนาองค์กรประเทศชาติต่อไป การให้ทานยุคสังคมไทยปัจจุบัน พัฒนาเกี่ยวเนื่องกับการบริจาคทาน เพื่อทำประโยชน์ให้กับสังคมส่วนรวมที่เป็นการกุศลด้วยระบบสแกน QR Codeในการให้ทานและการใช้บัตรสมาร์ทการ์ด ทั้งนี้ เพราะทำให้ทั้งผู้ให้และผู้รับได้รับอานิสงส์แห่งผลบุญจากการให้ทาน โดยไม่มีความวิตกกังวลใจ เนื่องจากการกระทำโดยใช้หลักศรัทธาและปัญญาควบคู่กันไปอย่างถูกต้องรอบคอบและจัดแจนอย่างแท้จริง

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
(สุรศักดิ์ ธารายศ) พ., . พ., ปาณะศรี ส., & อโณทัย ส. (2019). ศึกษาวิเคราะห์การให้ทานในสังคมไทยยุคปัจจุบัน. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 6(5), 2302–2315. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JMND/article/view/201278
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

พระครูภาวนาวรานุรักษ์ (วิทยา กลฺยาณธมฺโม). (2560). รูปแบบการให้ทานที่เกื้อกูลตอการบรรลุธรรมในสังคมไทยปจจุบัน. ใน วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต คณะพุทธศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาส ภิกฺขุ). (2551). การให้ทานที่ไม่ต้องเสียเงินแล้วยังได้นิพพาน. กรุงเทพมหานคร: เลี่ยงเซียง.

พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี. (2562). ชวนปรับความคิด 3 ความเข้าใจผิดๆ ของชาวพุทธเกี่ยวกับ “การทำบุญ”. เรียกใช้เมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2562 จาก https://goodlifeupdate.com

มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส. (2538). สารานุกรมพระพุทธศาสนา. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหามกุฎราชวิทยาลัย.

เสฐียร โกเศศ. (2561). วัฒนธรรมและประเพณีต่างๆ ของไทย. กรุงเทพมหานคร: คลังวิทยา.