รูปแบบการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุในจังหวัดอุดรธานี

Main Article Content

ธนิต ลีเลิศ
ประจญ กิ่งมิ่งแฮ
บุษกร สุขแสน

บทคัดย่อ

วิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุในจังหวัดอุดรธานี 2) เพื่อสร้างรูปแบบการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุในจังหวัดอุดรธานี 3) เพื่อทดลองและประเมินผลการใช้รูปแบบการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุในจังหวัดอุดรธานี เป็นการวิจัยและพัฒนา โดยมีกระบวนการเก็บรวบรวมข้อมูลระยะที่ 1 วิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างได้แก่ผู้สูงอายุในจังหวัดอุดรธานี จำนวน 400 คน โดยเป็นผู้สูงอายุในพื้นที่ ระยะที่ 2 ประชุมเชิงปฏิบัติการ ผู้ทรงคุณวุฒิ 30 คน ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในพื้นที่ เลือกแบบเจาะจง วิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหาและสรุปภาพรวม ระยะที่ 3 กลุ่มทดลองคือผู้สูงอายุ 30 คน เป็นผู้ทรงคุณวุฒิในพื้นที่ เลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบทดสอบ โดยสร้างและหาคุณภาพเครื่องมือด้วยการปรึกษาที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ ใช้ทดสอบความรู้ความเข้าใจ พร้อมแบบเฉลยคำตอบ เพื่อดำเนินการประเมินผลการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุ


          ผลการวิจัยพบว่า


  1. ปัญหาและความต้องการการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุในจังหวัดอุดรธานี โดยภาพรวม พบว่า ค่าเฉลี่ยระดับปัญหาจากน้อยไปหามาก ลำดับที่ 1 กิจกรรมการเดิน ลำดับที่ 2 กิจกรรมการวิ่งลำดับที่ 3 กิจกรรมการเต้นแอโรบิค ลำดับที่ 4 กิจกรรมการรำมวยจีน ส่วนค่าเฉลี่ยความต้องการ ลำดับที่ 1 กิจกรรมการเดิน ลำดับที่ 2 กิจกรรมรำไม้พอง ลำดับที่ 3 กิจกรรมลีลาศ จะเห็นว่าการเดินเป็นกิจกรรมที่ผู้สูงอายุต้องการทำมากที่สุด ทั้งนี้อาจสืบเนื่องมาจากการเดินเป็นกิจกรรมที่ง่าย ปลอดภัย ใช้ได้กับทุกเพศทุกวัย

  2. ผลการสร้างรูปแบบการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุในจังหวัดอุดรธานี พบว่า มี 6 กิจกรรม ได้แก่ 1) กิจกรรมการเดินออกกำลังสำหรับผู้สูงอายุ 2) กิจกรรมการรำไม้พลองออกกำลังสำหรับผู้สูงอายุ 3) กิจกรรมการวิ่งออกกำลังสำหรับผู้สูงอายุ 4) กิจกรรมการเต้นแอโรบิคออกกำลังสำหรับผู้สูงอายุ 5) กิจกรรมการรำมวยจีนออกกำลังสำหรับผู้สูงอายุ 6) กิจกรรมลีลาศออกกำลังสำหรับผู้สูงอายุ ส่วนการประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ พบว่า ผลการประเมินความเหมาะและความเป็นไปได้

  3. การทดลองและประเมินรูปแบบการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุในจังหวัดอุดรธานีพบว่า การทดสอบความรู้ก่อนทดลองและหลังการทดลองมีคะแนนเฉลี่ย 4.10 คะแนน และ 9.40 คะแนนตามลำดับ เมื่อเปรียบค่าคะแนนระหว่างก่อนและหลัง พบว่า คะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สรุปว่า การทดลองและประเมินผลรูปแบบการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุในจังหวัดอุดรธานี ผ่านการประเมิน สามารถนำไปปฏิบัติจริงได้

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ลีเลิศ ธ., กิ่งมิ่งแฮ ป., & สุขแสน บ. (2019). รูปแบบการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุในจังหวัดอุดรธานี. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 6(5), 2608–2622. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JMND/article/view/197921
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

การกีฬาแห่งประเทศไทย. (2559). แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2560 - 2564). กรุงเทพมหานคร: การกีฬาแห่งประเทศไทย.

จุไรรัตน์ ดวงจันทร์ และคณะ. (2557). การถอดบทเรียน การสร้างเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ การมีส่วนร่วมของชุมชน. วารสารการพยาบาลและการศึกษา, 4(8), 153-166.

ณิภารัตน์ บุญกุล. (2557). การประยุกต์รูปแบบพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของ เพนเดอร์ ร่วมกับแรงสนับสนุนทางสังคมในการออกกำลังกายแบบฤาษีดัดตนของผู้สูงอายุใน อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี. ใน วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสุขศึกษาและการส่งเสริมสุขภาพ. มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

ประจญ กิ่งมิ่งแฮ. (2548). รูปแบบการพัฒนาสุขภาพผู้สูงอายุในเขตชุมชนเมืองภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประเทศไทย. ใน วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพัฒนศาสตร์บัณฑิต. มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี. (2561). ข้อมูลทั่วไปของผู้สูงอายุ จังหวัดอุดรธานี. อุดรธานี: สำนักงานฯ.

สุคี ศิริวงศ์พากร. (2555). อิทธิพลของสื่อและปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการออกกำลังกายของผู้สูงอายุในกรุงเทพมหานคร. กรุงเทพมหานคร: คณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร.

องค์การอนามัยโลก (WHO). (2556). บริบทของสุขภาพที่เปลี่ยนไปตามบริบทของโลก. กรุงเทพมหานคร: ไทยวัฒนาพานิช.

อารีย์ เสนีย์. (2561). สมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทยขานรับ EEC พร้อมชูการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุ. เรียกใช้เมื่อ 24 มีนาคม 2560 จาก https://www. education4 plus.com/home/2018/08/สสวทท-ขานรับeec-แนะเรียนต่อ