ศึกษาเปรียบเทียบการรักษาโรคของหมอชีวกโกมารภัจจ์ กับการแพทย์แผนไทย

Main Article Content

พระครูสังฆรักษ์ทวี ปริปุณฺโณ (น้อยมูสิก)
สิทธิโชค ปาณะศรี
พระครูวิจิตรศีลาจาร .
สวัสดิ์ อโณทัย

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาวิธีการรักษาโรคของหมอชีวกโกมารภัจจ์ 2) ศึกษาวิธีการรักษาโรคของการแพทย์แผนไทย และ 3) เปรียบเทียบวิธีการรักษาโรคของหมอชีวกโกมารภัจจ์กับการแพทย์แผนไทย โดยรวบรวมข้อมูลจากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโรคของหมอชีวกโกมารภัจจ์ และการแพทย์แผนไทย รวมทั้งการสัมภาษณ์แพทย์แผนไทย สาขาเวชกรรมไทย ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดพัทลุง


 


 


 


          ผลการวิจัยพบว่า


  1. หมอชีวกโกมารภัจจ์ เป็นบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริง มีตำแหน่งเป็นแพทย์ประจำพระองค์ของพระพุทธเจ้า ซึ่งมีชื่อปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎก เป็นแพทย์ที่ใช้สมุนไพรในการรักษาโรคเป็นหลัก คัมภีร์แพทย์ของท่านเข้ามามีบทบาทในประเทศไทย โดยเข้ามาเมื่อพระพุทธศาสนาเข้ามาสู่ประเทศไทย

  2. การรักษาโรคของการแพทย์แผนไทย สาขาเวชกรรมไทย เรียกผู้รักษาโรคว่า หมอยาไทยหรือเวชกร รักษาโรคโดยเปิดคลินิก มีสถานที่รักษาโรคตามที่กฎหมายบัญญัติ

  3. วิธีการรักษาโรคของหมอชีวกโกมารภัจจ์กับการแพทย์แผนไทย มีทั้งเหมือนและแตกต่างกัน ส่วนทีเหมือนกับการแพทย์แผนไทย มีลักษณะเด่นดังนี้ 1) กระบวนการและวิธีการรักษา มุ่งเน้นการรักษาที่ต้นเหตุ ผ่านกระบวนการ พูดคุย ซักประวัติ การตรวจร่างกาย การวินิจฉัยโรค วางแผนการรักษาและการเลือกใช้ยาที่มีสรรพคุณตรงกับโรค 2) แนวความคิด การรักษาโรค และการวินิจฉัยโรค เน้นการรักษาด้านร่างกายและจิตใจ ตามอาการและตามวัยของบุคคล ควบคู่กับการแนะนำแนวปฏิบัติตนในการรักษาโรค รวมทั้งการวินิจฉัยโรค เพื่อหาสมุฏฐานอันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการเจ็บป่วย 3) จรรยาบรรณทางการแพทย์ ของหมอชีวกโกมารภัจจ์ ผู้เป็นแพทย์ต้องเป็นผู้มีศีลธรรมและจริยธรรมทางการแพทย์ โดยเคร่งครัด

  4. ความต่างกันของหมอชีวกโกมารภัจจ์กับการแพทย์แผนไทย พบว่า หมอชีวกโกมารภัจจ์ กล่าวถึงเรื่องต่อไปนี้ ในขณะที่การแพทย์แผนไทยไม่ได้กล่าวถึง คือ 1) องค์ความรู้ของการแพทย์แผนไทย ได้รับการผสมผสานหล่อหลอมมาจากจีนและอินเดีย รวมทั้งองค์ความรู้ของบรรพบุรุษไทย โดยได้รับการปรับปรุงครั้งสำคัญในสมัยรัชกาลที่ 5 ส่วนองค์ความรู้ในการรักษาโรคของหมอชีวกโกมารภัจจ์ ปรากฏชัดอยู่ในพระไตรปิฎก 2) หลักการวิเคราะห์ในการรักษาโรค หมอชีวกโกมารภัจจ์ให้ความสำคัญกับสมุฏฐานแห่งโรค อันเป็นทฤษฎีสำคัญที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาท 3) การตั้งตำรับยาการแพทย์แผนไทยเป็นไปตามคัมภีร์แพทย์ที่ได้บันทึกไว้ และมีตำรับยาเป็นของผู้อื่น ส่วนตำรับยาของหมอชีวกโกมารภัจจ์ เป็นตำราที่ท่านเขียนขึ้นเอง

          5. ในส่วนที่แตกต่างระหว่างการรักษาโรคของหมอชีวกโกมารภัจจ์กับการแพทย์แผนไทย พบว่า 1) องค์ความรู้ในการรักษาโรคของหมอชีวกโกมารภัจจ์ ปรากฏชัดอยู่ในพระไตรปิฎก ขณะที่องค์ความรู้ของการแพทย์แผนไทยได้รับการผสมผสานหล่อหลอมมาจากจีนและอินเดีย รวมทั้งองค์ความรู้ของบรรพบุรุษไทย โดยได้รับการปรับปรุงครั้งสำคัญในสมัยรัชกาลที่ 5  2) หลักการวิเคราะห์ในการรักษาโรค หมอชีวกโกมารภัจจ์ให้ความสำคัญกับสมุฏฐานแห่งโรค อันเป็นทฤษฎีสำคัญที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาท ส่วนแพทย์แผนไทยวิเคราะห์การรักษาโดยใช้ประสบการณ์ ที่ได้จากบรรพบุรุษและธรรมชาติ  3) ตำรับยาของหมอชีวกโกมารภัจจ์ เป็นตำราที่ท่านเขียนขึ้นเอง ขณะที่การตั้งตำรับยาการแพทย์แผนไทยเป็นไปตามคัมภีร์แพทย์ที่ได้บันทึกไว้และมีตำรับยาเป็นของผู้อื่น

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ปริปุณฺโณ (น้อยมูสิก) พ., ปาณะศรี ส., . พ., & อโณทัย ส. (2019). ศึกษาเปรียบเทียบการรักษาโรคของหมอชีวกโกมารภัจจ์ กับการแพทย์แผนไทย. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 6(4), 1933–1947. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JMND/article/view/193031
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

เกศินี ลิ่มบุญสืบสาย. (2545). การศึกษาเชิงวิเคราะห์บทบาทของหมอชีวกโกมารภัจ ที่ปรากฏในคัมภีร์พระพุทธศาสนา. ใน วิทยานิพนธ์พุทธศาสมหาบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

ทวี วรคุณ. (2551). หมอชีวกโกมารภัจจ์. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพมหานคร: สร้างสรรค์บุ๊คส์.

พระครูอินทสารวิจักษ์ อินฺทสโร (กิจไร่). (2551). การรักษาโรคด้วยยาสมุนไพรและธรรมโอสถที่ปรากฏในคัมภีร์พระพุทธศาสนา. ใน วิทยานิพนธ์พุทธศาสมหาบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

อรอุมา เลาหพิบูลย์กุล. (2557). วิธีการบำบัดรักษาสุขภาพเชิงพุทธบูรณาการ. วารสารสถาบันวิจัยญาณสังวร, 5(2), 41.