การวิเคราะห์พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของพระพุทธศาสนาในอำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาประวัติศาสตร์ความเป็นมาของอำเภอไชยา จังหวัด
สุราษฎร์ธานี 2) เพื่อศึกษาอิทธิพลของพระพุทธศาสนาที่มีต่ออำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี 3) เพื่อศึกษาพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของพระพุทธศาสนาในอำเภอไชยาจังหวัดสุราษฎร์ธานีดำเนินการศึกษาโดยวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ (QualitativeResearch) เน้นการวิเคราะห์เอกสาร (Documentary Research) นำเสนอข้อมูลแบบเชิงพรรณนา
ผลการวิจัยพบว่า
- 1. เมืองไชยามีพัฒนาการมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ราว 7,000 ปีมาแล้วมีพัฒนาการเป็นชุมชนและเมืองขึ้นมาในยุคต้นๆ จากการรับอารยธรรมจากภายนอก และพัฒนาชุมชนกลายเป็นเมืองท่าทางการค้าควบคุมเส้นทางที่เป็นสะพานข้ามมหาสมุทรทั้งสองจากการเข้ามามีอิทธิพลของชุมชนการค้าของอินเดีย นครรัฐแรกๆ คือ พันพัน และนครศรีโพธิ์ จนถึงศรีวิชัยยังคงพัฒนาขึ้นมาภายใต้อิทธิพลจากอินเดีย ในสมัยศรีวิชัยตอนปลายปรากฏหลักฐานจารึกถึงชื่อเมืองนี้ว่า “ครหิ” และเริ่มปรากฏชื่อเมืองไชยาเป็นครั้งแรกในสมัยพระเจ้าอู่ทองตั้งกรุงศรีอยุธยาในฐานะเมืองขึ้นเช่นเดียวกับนครศรีธรรมราช ในยุคกรุงธนบุรีหลังการล่มสลายของกรุงศรีอยุธยาเมืองไชยาได้ย้ายศูนย์กลางไปอยู่ที่พุมเรียง จนถึงรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมืองกาญจนดิษฐ์ และเมืองคีรีรัฐ ได้ถูกรวมกับเมืองไชยาตั้งศาลากลางอยู่ที่บ้านดอน ในรัชกาลที่ 6 โปรดให้เมืองไชยาเก่าให้เป็น “อําเภอพุมเรียง” และโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามเมืองบ้านดอนใหม่ว่า “เมืองสุราษฎร์ธานี” ภายหลังเปลี่ยนชื่ออําเภอพุมเรียงเป็นอําเภอเมืองไชยาตามเดิม จนถึงรัชกาลที่ 7 เมืองไชยาได้ย้ายจากพุมเรียงมาที่ตลาดไชยาใกล้สถานีรถไฟในปัจจุบัน เรียก “อำเภอไชยา” ซึ่งเป็นเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์และศาสนาสืบเนื่องมา
- 2. เมืองไชยาเป็นนครธรรมะที่มีความสัมพันธ์อยู่กับพระพุทธศาสนามาอย่างยาวนาน ผู้คนมีจิตใจเข้าถึงและยึดมั่นในพระธรรมมาตั้งแต่ยุคนครโพธิ์ที่ตั้งชื่อตามหน่อศรีมหาโพธิ์และความรุ่งเรืองทางพระพุทธศาสนาที่มีในนครนี้ ดังนั้นพระพุทธศาสนาจึงมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของชาวไชยาในทุกขั้นตอนของชีวิต และก่อเกิดประเพณีวัฒนธรรมที่เนื่องในพระพุทธศาสนา รวมทั้งการละเล่นบทเพลงที่ขับร้องจากภูมิปัญญาบรรพชนก็ล้วนถ่ายทอดปรมัตถธรรมและศีลธรรมอันดีแก่เยาวชนขับกล่อมจิตวิญญาณไปพร้อมกับความไพเราะที่ขับกล่อมอารมณ์
3. พระพุทธศาสนาบนดินแดนรอบอ่าวไชยาเริ่มขึ้นราวกลางพุทธศตวรรษที่ 2-3 เป็นต้นมา จากการเป็นเมืองท่าการค้าและทางสมณะทูต มีการพบหลักฐานการเข้ามาของพระพุทธศาสนาคือ เครื่องประดับที่เป็นสัญลักษณ์ในพระพุทธศาสนาในยุคต้น อายุราวพุทธศตวรรษที่ 2-5 ซึ่งชาวพุทธอินเดียนิยมทำนำติดตัวมาด้วย จากหลักฐานทางเอกสารและโบราณคดีสันนิษฐานว่าในช่วงต้นมีการนับถือพระพุทธศาสนาเถรวาท นิกายมหาสังฆิกะนิกายสถวิรวาท และนิกายมูลสรวาสติ ในสมัยศรีวิชัยยุคต้นนั้นตามที่พระภิกษุกอิจิงได้บันทึกไว้ว่ามีการนับถือพระพุทธศาสนาเถรวาทนิกายมูลสรวาสติวาทมหาสังฆิกะสถวิรวาท และสัมมิตียะ มีบางส่วนที่นับถือมหายาน ซึ่งแบ่งเป็นนิกายมาธยมิกะ และนิกายโยคาจารย์ จนถึงราวพุทธศตวรรษที่ 13-14 พระพุทธศาสนามหายานแบบตันตระได้รับความนิยมมากมีการสร้างสถูปและพระโพธิสัตว์ตามคติมหายานมากมาย ราวพุทธศตวรรษที่ 17 ลัทธิลังกาวงศ์ได้เข้ามาสู่ดินแดนแถบนี้ และทิ้งร่อยรอยคติในการตั้งตำแหน่งพระครูรักษาพระบรมธาตุไว้คือ พระครูกาแก้ว และพระครูการาม ซึ่งต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้เปลี่ยนชื่อเพิ่มเติมเป็นพระครูรัตนมุนีศรีสังฆราชาลังกาแก้ว และพระครูโสภณเจตสิการาม ในราวพุทธศตวรรษที่ 20-23 พระพุทธศาสนาเถรวาท แบบสยามวงศ์ได้รับความนิยมผสานกับลังกาวงศ์ที่มีอยู่เดิมสืบเนื่องมาจนปัจจุบัน
Article Details
เอกสารอ้างอิง
เกรียงไกร เกิดศิริ, ดร. (2560). พระบรมธาตุนครศรีธรรมราช มรดกพุทธศาสนสถาปัตยกรรม ศูนย์กลางพระพุทธศาสนาเถรวาทแห่งคาบสมุทรภาคใต้. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ : อี.ที. พับลิชชิ่ง.
จันทร์จิรายุ รัชนี, ม.จ. (2530). อาณาจักรศรีวิชัยที่ไชยา. กรุงเทพฯ : อรุณวิทยา.
จิราพร คงเหล่. (2541). ศึกษาบทบาทของสวนโมกขพลาราม อําเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยทักษิณ.
ชวน เพชรแก้ว และสบาย ไสยรินทร์. (2542). สุราษฎร์ธานีของเรา. กรุงเทพฯ : เสมาธรรม.
ต้วน ลี เซ็ง. (2537). ประวัติศาสตร์ไทยในสายตาชาวจีน. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ : พิราบ.
ถนอม พูนวงศ์. (2556). ประวัติศาสตร์เมืองสุราษฎร์ธานี. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์.
ธิดา สารายา, ดร. (2536). (ศรี) ทวารวดี ประวัติศาสตร์ยุคต้นของสยามประเทศ. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ : เมืองโบราณ.
ธิดา สาระยา, ดร. (2554). ประวัติศาสตร์มหาสมุทรอินเดีย. กรุงเทพฯ : เมืองโบราณ.
ธรรมทาส พานิช. (2529). ไชยาที่ตั้งนครหลวงของอาณาจักรศรีวิชัย. กรุงเทพฯ : เจริญรัฐการพิมพ์.
ธราพงศ์ ศรีสุชาติ. (2529). ชุมชนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในภาคใต้. ใน สารานุกรมวัฒนธรรมภาคใต้, (1, หน้า 1073). กรุงเทพฯ : อมรินทร์การพิมพ์.
นงคราญ สุขสม, ดร. (2545). ประวัติศาสตร์และโบราณคดีสุราษฎร์ธานี. กรุงเทพฯ : บริษัท อาทิตย์ คอมมูนิเคชั่น.
นันทลักษณ์ คีรีมา. (2555). พระพทุธรูปสกุลช่างไชยา ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 18-21. วิทยานิพนธ์ศิลปะศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ปรีชา นุ่นสุข. (2540). ประวัติศาสตร์นครศรีธรรมราช. นครศรีธรรมราช : สำนักศิลปะและวัฒนธรรม สถาบันราชภัฏนครศรีธรรมราช.
ปรีชา นุ่นสุข. (2544). ประวัติศาสตร์พุทธศาสนาในคาบสมุทรภาคใต้ของประเทศไทย. รายงานการวิจัย คณะกรรมการวิจัยการศึกษาการศาสนาและการวัฒนธรรมของกระทรวงศึกษาธิการ.
ประทุม ชุมเพ็งพันธุ์. (2548). ไชยา-สุราษฎร์ธานี. กรุงเทพฯ : สยามการพิมพ์.
ประทีป ชุมพล, รศ.ดร. (2558). รากฐานวรรณกรรมภาคใต้. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์.
พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตฺโต). (2537). พระพุทธศาสนาในเอเชีย. (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพฯ : มิตรเจริญการพิมพ์.
พระครูอินทปัญญาจารย์ (พุทธทาส อินฺทปญฺโญ). (2545). แนวสังเขปของโบราณคดีรอบอ่าวบ้านดอน. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ : อรุณวิทยา.
พิริยะ ไกรฤกษ์, ผศ.ดร. (2523). ศิลปทักษิณก่อนพุทธศตวรรษที่ 19. กรุงเทพฯ : อมรินทร์การพิมพ์.
พิริยะ ไกรฤกษ์, ผศ.ดร. (2555). รากเหง้าแห่งศิลปะไทย. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ : ริเวอร์บุ๊คส์.
เพลงเมธา ขาวหนูนา. (2557). พัฒนาการทางวัฒนธรรมของชุมชนโบราณ ในอำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศิลปากร.
มองซิเออร์ เดอ ลาลูแบร์. (2552). จดหมายเหตุ ลา ลูแบร์ ราชอาณาจักรสยาม แปลโดย สันต์ ท. โกมลบุตร. (พิมพ์ครั้งที่ 3). นนทบุรี : ศรีปัญญา.
มานิต วัลลิโภดม. (2530). ทักษิณรัฐ. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร.
มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช. (2557). ปฐมบทพระพุทธศาสนาในภาคใต้ ประเทศไทย : หลักธรรมและหลักฐานโบราณคดี. นครศรีธรรมราช : ไทม์ พริ้นติ้ง.
สุภัทรดิศ ดิศกุล, ม.จ. (2560). ประวัติศาสตร์เอเชียอาคเนย์ถึง พ.ศ. 2000. (พิมพ์ครั้งที่ 6). กรุงเทพฯ : สามลดา.
เอเดรียน สนอดกราส. (2537). สัญลักษณ์แห่งพระสถูป แปลจาก The Symbolism of Stupa โดย รศ.ดร.ภัทรพร สิริกาญจนและคณะ. กรุงเทพฯ : คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.