พลวัตภาคประชาสังคมในการจัดการตนเองลุ่มแม่น้ำตาปี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาการมีส่วนร่วมในการจัดการตนเองของชุมชนลุ่มแม่น้ำตาปี 2) เพื่อส่งเสริมเครือข่ายในการจัดการตนเองของชุมชนลุ่มแม่น้ำตาปี 3) เพื่อวิเคราะห์ความเป็นพลวัตภาคประชาสังคมการจัดการตนเองลุ่มแม่น้ำตาปีจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นวิจัยเชิงคุณภาพใช้เครื่องมือคือแบบสัมภาษณ์เชิงลึกโดยสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ และการสนทนากลุ่มเฉพาะผู้ทรงคุณวุฒิ โดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา
ผลการวิจัยพบว่า
- การมีส่วนร่วมในการจัดการตนเองของชุมชนลุ่มแม่น้ำตาปี แบ่งออกเป็น 3 ด้าน ได้แก่ ด้านพื้นที่ พบว่าชุมชนลุ่มแม่น้ำตาปีร่วมกันเสียสละพื้นที่ สร้างสำนักงานกลุ่มท่องเที่ยวชุมชน สร้างถนนของชุมชน สร้างสะพานชมตลาด,ชมธรรมชาติ สร้างศูนย์อาหารชุมชน แบ่งเป็นพื้นที่ตั้งร้านค้าชุมชน สร้างห้องสุขาชุมชน ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก พบว่าชุมชนลุ่มแม่น้ำตาปีให้บริการบ้านพักโฮมสเตย์ บริการกิจกรรมสันทนาการ บริการร้านค้าสินค้าโอทอป, และให้บริการสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภันฑ์ ด้านสภาพแวดล้อม พบว่าชุมชนลุ่มแม่น้ำตาปีมียามรักษาความปลอดภัย จัดนำเที่ยวโดยเจ้าหน้าที่ สร้างกฎเกณฑ์
- การส่งเสริมเครือข่ายในการจัดการตนเองของชุมชนลุ่มแม่น้ำตาปี แบ่งออกเป็น 2 ด้าน ได้แก่ ด้านการค้นหาคุณค่าและอัตลักษณ์ของศิลปะในแต่ละชุมชน พบว่า คุณค่าและอัตลักษณ์ของศิลปะในแต่ละชุมชน คือ ธรรมชาติป่าชายเลน วิถีชีวิตประมงพื้นบ้าน ผลิตภัณฑ์ OTOP สินค้าจากชุมชน ด้านการส่งเสริมการพัฒนาต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่า พบว่า การส่งเสริมเครือข่ายในการจัดการตนเองของชุมชนต้องสร้างโปรแกรมการท่องเที่ยวเส้นทางธรรมชาติ จัดกิจกรรมการท่องเที่ยวภายในชุมชนและเชื่อมต่อส่งต่อเครือข่ายชุมชนอื่น
3. วิเคราะห์ความเป็นพลวัตภาคประชาสังคมในการจัดการตนเองของชุมชนลุ่มแม่น้ำตาปี พบว่า ลักษณะประการแรกเกิดจาการมีส่วนร่วมในการจัดการตนเอง ทั้งด้านพื้นที่ ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก และด้านสภาพแวดล้อม ลักษณะประการที่สองส่งเสริมเครือข่ายในการจัดการตนเอง 3 ด้าน ได้แก่ การค้นหาคุณค่าและอัตลักษณ์ของศิลปะในแต่ละชุมชน การส่งเสริมพัฒนาต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่า การส่งเสริมอนุรักษ์และเชื่อมโยงเครือข่ายท่องเที่ยวชุมชนลุ่มแม่น้ำตาปี
Article Details
เอกสารอ้างอิง
ธีรพัฒน์ อังศุชวาล. (2559). ปุจฉาว่าด้วย "ประชาคม" (cicil society): บทสำรวจทฤษฎีและแนวคิดจากต่างประเทศสู่การพิจารณาประชาสังคมเชิงปฏิบัติการและองค์กรพัฒนาเอกชนไทย. วารสารสำนักบัณฑิตอาสาสมัคร, 13(1), 9-11.
ปรีชา พันธุ์แน่น และคณะ. (2558). โครงการ การใช้ประวัติศาสตร์ชุมชนเป็นเครื่องมือในการสร้างพลังความร่วมมือของคนสายคลองบางบัว. รายงานวิจัย: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.).
มัสลิน รัตนภูมิ. (2554). บทบาทของประชาสังคมในการพัฒนาท้องถิ่นในเขตเทศบาลตำบลปริก อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา. รายงานการวิจัย: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
ยนตรการ จินะคำปา และ ศิวรักษ์ ศิวารมย์. (2560). กระบวนการพัฒนาต้นแบบชุมชนบริหารจัดการตนเอง: กรณีของตำบลชมภู อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่. วารสารบัณฑิตวิจัย, 8(1), 183-197.
วลัยพร สุพรรณและคณะ. (2558). การรื้อฟื้นศิลปะการทอผ้าไหมสันกำแพง เพื่อสืบทอดวัฒนธรรมด้วยสืบพื้นบ้านและเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนตำบลสันกำแพง. รายงานวิจัย: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.).
อัจฉรา ศรีลาชัย และภูเกริก บัวสอน. (2561). แนวทางการจัดการรูปแบบการท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยั่งยืน กรณีศึกษา ชุมชนบ้านโคกเมือง ตำบลจรเข้มาก อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์, 12(1), 218.