ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการปฏิบัติงานตามหลักสาราณียธรรม ของเทศบาลตำบลท่าขนอน อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการปฏิบัติงานตามหลักสาราณียธรรมของเทศบาลตำบลท่าขนอน อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี 2) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการปฏิบัติงานตามหลักสาราณียธรรมของเทศบาลตำบลท่าขนอน อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่มีเพศ อายุ ระดับการศึกษา และอาชีพที่ต่างกัน และ 3) เพื่อศึกษาปัญหาและแนวทางส่งเสริมการนำหลักสาราณียธรรมไปประยุกต์ใช้สำหรับการปฏิบัติงานของเทศบาลตำบลท่าขนอน อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ดำเนินการโดยวิธีวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) ประชากรในพื้นที่เทศบาลตำบลท่าขนอน อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 1,902 คน และกลุ่มตัวอย่างจำนวน 331 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเอง โดยมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.948 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (t-test) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One way ANOVA)
ผลการวิจัยพบว่า
ประชาชนในเขตเทศบาลตำบลท่าขนอน อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีความคิดเห็นต่อการปฏิบัติงานตามหลักสาราณียธรรมของเทศบาลตำบลท่าขนอน อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านเมตตาวจีกรรมมีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาคือด้านเมตตามโนกรรม และด้านสีลสามัญญตามีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ตามลำดับ การเปรียบเทียบความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการปฏิบัติงานตามหลัก สาราณียธรรมของเทศบาลตำบลท่าขนอน อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่มีเพศ อายุ ระดับการศึกษา และอาชีพต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการปฏิบัติงานตามหลักสาราณียธรรมของเทศบาลตำบลท่าขนอน อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งไม่เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ และ ปัญหาและแนวทางส่งเสริมการนำหลักสาราณียธรรมไปประยุกต์ใช้สำหรับการปฏิบัติงานของเทศบาลตำบลท่าขนอน อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามได้เสนอแนะปัญหาด้านเมตตามโนกรรมมากที่สุด ได้แก่ ปัญหาเจ้าหน้าที่ขาดการทำหน้าที่ที่ยึดหลักเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชน และด้านเมตตาวจีกรรม ได้แก่ เจ้าหน้าที่บางคนพูดจาไม่สุภาพ ส่วนแนวทางในการส่งเสริมการนำหลักสาราณียธรรมไปประยุกต์ใช้สำหรับการปฏิบัติงาน พบว่า เจ้าหน้าที่ต้องยึดถือผลประโยชน์ส่วนรวมมาก่อนประโยชน์ส่วนตน และด้านเมตตาวจีกรรม ได้แก่ ควรอบรมเจ้าหน้าที่กล่าววาจาสุภาพต่อผู้มาใช้บริการ
Article Details
เอกสารอ้างอิง
การศึกษาแห่งชาติ คณะกรรมการ และศึกษาธิการกระทรวง. ปฏิรูปการเรียนรู้ผู้เรียนสำคัญที่สุด. กรุงเทพมหานคร : สำนักงานกระทรวงกรรมการการศึกษาแห่งชาติ, 2543.
คณาจารย์สานักพิมพ์เลี่ยงเซียง. หนังสือบูรณาการแผนใหม่ นักธรรมชั้นตรี. กรุงเพทมหานคร : เลี่ยงเซียง, 2546.
ชูวงศ์ ฉายะบุตร. การปกครองท้องถิ่นไทย. กรุงเทพมหานคร : บริษัทพิฆเนศ พริ้นติ้งเซ็นเตอร์ จำกัด, 2539.
ธานินทร์ ศิลป์จารุ. วิจัยและการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ. กรุงเทพมหานคร : บริษัท วี.อินเตอร์ พริ้นท์, 2550.
นิตย์ สัมมาพันธ์. การบริหารเชิงพุทธ. กรุงเทพมหานคร : โอเดียนสโตร์, 2529.
ปัญญา ใช้บางยาง. ธรรมาธิบาย เล่ม 1. กรุงเทพมหานคร : สานักพิมพ์รติธรรม, 2546.
ปรีชา ช้างขวัญยืน. ความคิดทางการเมืองในพระไตรปิฎก. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย, 2538.
พระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต). ศ.ดร., พุทธวิธีบริหาร. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 2549.
พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺโต). พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม. กรุงเทพมหานคร : บริษัทสหธรรมิก จำกัด, 2545.
พุทธธรรม. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพมหานคร : มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 2541.