ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการบริหารงานตามหลักสาราณียธรรม ของผู้บริหารเทศบาลนครนครศรีธรรมราช
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษาวิจัย เรื่อง “ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการบริหารงานตามหลัก สาราณียธรรมของผู้บริหารเทศบาลนครนครศรีธรรมราช” ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. เพื่อศึกษาความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการบริหารงานตามหลักสาราณียธรรมของผู้บริหารเทศบาลนครนครศรีธรรมราช 2. เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการบริหารงานตามหลักสาราณียธรรมของผู้บริหารเทศบาลนครนครศรีธรรมราช จำแนกตาม เพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ต่อเดือนต่างกัน 3. เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะเกี่ยวกับปัญหาการบริหารงานตามหลักสาราณียธรรมของผู้บริหารเทศบาลนครนครศรีธรรมราชประชากร ได้แก่ ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เทศบาลนครนครศรีธรรมราช จำนวน 109,353 คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางของเคร็ชจซีและมอร์แกน ได้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 384 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับการบริหารงานตามหลักสาราณียธรรมของผู้บริหารเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ0.942สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าความถี่, ค่าร้อยละ, ค่าเฉลี่ย, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน,ค่า t-test, ค่า F-test และการเปรียบเทียบรายคู่โดย LSD (Least Significant Difference)
ผลการวิจัยพบว่า
- ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการบริหารงานตามหลักสาราณียธรรมของผู้บริหารเทศบาลนครนครศรีธรรมราช โดยรวมอยู่ในระดับปานกลางเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าด้านเมตตากายกรรมมีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาได้แก่ ด้านเมตตาวจีกรรมและด้านเมตตามโนกรรม ส่วนด้านสาธารณโภคีมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ตามลำดับเมื่อพิจารณาโดยจำแนกตามเพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพและรายได้ต่อเดือน พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง
- การเปรียบเทียบความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการบริหารงานตามหลักสาราณียธรรมของผู้บริหารเทศบาลนครนครศรีธรรมราชโดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า ประชาชนที่มีที่มีเพศ อายุ ระดับการศึกษาอาชีพและรายได้ต่อเดือนต่างกันมีความคิดเห็นต่อการบริหารงานตามหลักสาราณียธรรมของผู้บริหารเทศบาลนครนครศรีธรรมราช แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งยอมรับสมมติฐานที่ตั้งไว้
- แนวทางในแก้ไขปัญหาการบริหารงานตามหลักสาราณียธรรมของผู้บริหารเทศบาลนครนครศรีธรรมราชกลุ่มตัวอย่างได้เสนอแนะแนวแก้ไขปัญหามากที่สุดได้แก่ด้านสาธารณโภคี ที่เป็นเรื่องการดูแลประชาชนในขั้นพื้นฐานผู้บริหารเทศบาลนครนครศรีธรรมราชควรลงมาดูแลพัฒนาพื้นที่ พัฒนาถนนสายต่างๆอย่างจริงจังและให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัย
Article Details
เอกสารอ้างอิง
ส่งศรี ชมภูวงศ์. ระเบียบวิธีวิจัยทางสังคมศาสตร์. นครศรีธรรมราช : คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย วิทยาเขตศรีธรรมาโศกราช, 2554.
สถาบันพระปกเกล้า, รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550, พิมพ์ครั้งที่ 6, กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์คณะรัฐมนตรีและราชกิจจานุเบกษา, 2552.
วิชโรจน์ จิตร์ภิรมย์ศรี ว่าที่ร้อยตรี, “ความพึงพอใจของผู้ใช้บริการต่อการบริการตามนโยบายจุดเดียวเบ็ดเสร็จ ของสำนักงานเขตราชเทวี” วิทยานิพนธ์ปริญญารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขานโยบายสาธารณะ,บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2548.
ชัญญวัลย์ เชิดชูกิจกุล,“ความพึงพอใจของประชาชนที่มีต่อการให้บริการ ณ ศูนย์บริการประชาชนแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ สานักงานเขต กรุงเทพมหานคร”, ปัญหาพิเศษหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารทั่วไป, วิทยาลัยการบริหารรัฐกิจ มหาวิทยาลัยบูรพา, 2549.
สุวัฒน์ สุขวิบูลย์ , “ความพึงพอใจของประชาชนที่มีต่อการให้บริการแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ ณ สำนักงานเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร : ศึกษาเฉพาะกรณีงานทะเบียนราษฎร”, วิทยานิพนธ์ศิลปะศาตร์มหาบัณฑิต, บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยเกษตรศาตร์,2548.
สำรอง บำเพ็ญ, “การมีส่วนร่วมในการบริหารงานพัฒนาท้องถิ่นของสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล : ศึกษาเฉพาะกรณีอำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ”, ภาคนิพนธ์ปริญญา ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต, (คณะพัฒนาสังคม : สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาตร์, 2548.
อรรถชล ทรัพย์ทวี, “ปัจจัยที่มีผลต่อทัศนคติในการให้บริการประชาชนของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทะเบียนราษฎร”, วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิมหาวิทยาลัยรามคาแหง, 2537.