การปฏิบัติตนตามหลักสังคหวัตถุของผู้ประกอบอาชีพค้าขาย ในหาดป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต

Main Article Content

รงค์ บุญสวยขวัญ
พระสนั่น ขนฺติโก ปราสาททอง
ไพรัต ฉิมหาด

บทคัดย่อ

วิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้  1) ศึกษาการปฏิบัติตนตามหลักสังคหวัตถุของผู้ประกอบอาชีพค้าขายในหาดป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต 2) เพื่อเปรียบเทียบการปฏิบัติตนตามหลักสังคหวัตถุของผู้ประกอบอาชีพค้าขายในหาดป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต ที่มีเพศ อายุ ระดับการศึกษา และรายได้ต่อเดือน ต่างกัน  3) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางส่งเสริมการปฏิบัติตนตามหลักสังคหวัตถุของผู้ประกอบอาชีพค้าขายในหาดป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต ประชากร ได้แก่ ผู้ประกอบอาชีพค้าขายในหาดป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต จำนวน 795 คน กำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตาราง Krejcie และ Morgan ได้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 254 คน  เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม แบบปลายปิดและแบบปลายเปิด วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล คือค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า t - test ค่า F - test และทดสอบค่าคะแนนเฉลี่ยรายคู่ โดยวิธี LSD (Least Significant Difference)


ผลการวิจัยพบว่า


          1) การปฏิบัติตนตามหลักสังคหวัตถุของผู้ประกอบอาชีพค้าขายในหาดป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต โดยรวม อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านโดยเรียงลำดับตามค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ได้แก่ ด้านสมานัตตตา รองลงมาได้แก่ ด้านอัตถจริยา ด้านปิยวาจา และด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด ได้แก่ ด้านทาน ตามลำดับ


          2) ผลเปรียบเทียบการปฏิบัติตนตามหลักสังคหวัตถุของผู้ประกอบอาชีพค้าขายในหาดป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต ที่มีเพศ ต่างกัน พบว่า ด้านปิยวาจา และด้านอัตถจริยา เพศชายมีการปฏิบัติตนตามหลักสังคหวัตถุ มากกว่าเพศหญิง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิตที่ระดับ .05 ส่วนโดยภาพรวม และด้านอื่นไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ผลการเปรียบเทียบตามระดับการศึกษา ต่างกัน พบว่า โดยรวม ด้านปิยวาจา และด้าน อัตถจริยา แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ  .01  ด้านทาน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05  ส่วนด้านสมานัตตา ไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ  และการเปรียบเทียบตาม รายได้ต่อเดือน ต่างกัน โดยรวม และด้านปิยวาจา แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ  .01  ด้านอัตถจริยา แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .005  ส่วนด้านทาน และด้านสมานัตตา ไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ  ส่วนผลการเปรียบเทียบ ตามอายุ ต่างกัน พบว่า  ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05


         3)  ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวส่งเสริมการปฏิบัติตนตามหลักสังคหวัตถุของผู้ประกอบอาชีพค้าขายในหาดป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต มากที่สุดได้แก่ ด้านทาน การให้ เสียสละช่วยเหลือกัน  ได้แก่  ให้ทุกคนมีความเสียสละให้มากกว่าที่เป็นอยู่  ต้องมีการทำความเข้าใจถึงวัตถุประสงค์และเป้าหมาย ต้องมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้  ส่งเสริมให้มีการเอื้อเฟื้อช่วยเหลือกันแบ่งปันและให้คำแนะนำกันและกัน

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
บุญสวยขวัญ ร., ปราสาททอง พ. ข., & ฉิมหาด ไ. (2016). การปฏิบัติตนตามหลักสังคหวัตถุของผู้ประกอบอาชีพค้าขาย ในหาดป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 3(1), 1–14. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JMND/article/view/152953
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กำธร อ่อนอินทร์. “พุทธศาสนากับความสำเร็จในการบริหารกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์กรณีศึกษาเฉพาะอำเภอเมือง จังหวัดตราด”. สารนิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขานโยบายสาธารณะ. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยบูรพา, 2545.

จิตต์ทวี จาตุรันต์. “การศึกษาการนำหลักพุทธธรรมไปใช้ในการประกอบการของธุรกิจอุตสาหกรรมขนาดย่อมในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล”. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์อุตสาหกรรมมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, 2554.

จรูญ เจือจันทร์. “การดำเนินงานของคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี”. วิทยานิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 2548.

ถาวร โพธิสมบัติ. “ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการให้บริการประชาชน : ศึกษาเฉพาะกรณีการให้บริการในเขตจังหวัดกาญจนบุรี”. วิทยานิพนธ์ปริญญาโท บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์, 2535.

ประกอบ ยศเสถียร. “ปัญหาของเจ้าหน้าที่ในการให้บริการประชาชนในพื้นที่ชายแดน : กรณีศึกษาเปรียบเทียบอำเภอแม่จันและกิ่งอำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย”. วิทยานิพนธ์รัฐศาสตร์มหาบัณฑิตสาขาการเมืองการปกครอง บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2536.

รุจิร์ ภู่สาระ. แบบเรียนแนวหน้าชุดพัฒนากระบวนการสร้างนิสัย. กรุงเทพมหานคร : อักษรเจริญทัศน์, 2541.

ส่งศรี ชมภูวงศ์. ระเบียบวิธีวิจัยทางสังคมศาสตร์. นครศรีธรรมราช : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตศรีธรรมาโศกราช, 2552.

สุชีพ ปุญญานุภาพ. พระไตรปิฎกฉบับประชาชน. พิมพ์ครั้งที่ 14. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย, 2535.

ไสว มาลัยทอง. คู่มือการศึกษาจริยธรรมสำหรับนักเรียน นิสิต นักศึกษา นักการบริหาร ผู้ปกครองและประชาชนผู้สนใจทั่วไป. กลุ่มวิชาการพระพุทธศาสนา. กรุงเทพมหานคร : กระทรวงศึกษาธิการ, 2542.

มณีนุช ไพรดี. “การนำหลักสังคหวัตถุไปประยุกต์ใช้เพื่อสร้างความผูกพันต่อองค์กรของพนักงาน บริษัทพรอพเพอร์ตี้แคร์เซอร์วิสเซส(ประเทศไทย)”. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต.สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 2553.

วลัยภรณ์ เขตสิทธิ์. “การปฏิบัติตนตามหลักสังคหวัตถุ 4 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2550 โรงเรียนสันป่าตองวิทยาคม อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่”. สารนิพนธ์ศาสนศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 2551,

อนันต์ แม้นพยัคฆ์. “การประยุกต์ใช้หลักพุทธธรรมเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน ด้วยกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ เพื่อพัฒนาคุณธรรมครบวงจรชีวิต กรณีศึกษา : บ้านหนองน้ำจืด ตำบลท่าพริก อำเภอเมือง จังหวัดตราด”. วิทยานิพนธ์พัฒนาชุมชนมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2549.

อรรถชล ทรัพย์ทวี, “ปัจจัยที่มีผลต่อทัศนคติในการให้บริการประชาชนของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทะเบียนราษฎร”. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (สาขารัฐศาสตร์), บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยรามคำแหง, 2547.