การพัฒนาองค์การธุรกิจประเภทโรงงานอุตสาหกรม จังหวัดนครปฐมสู่องค์การแห่งนวัตกรรม
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาคุณสมบัติของปัจจัยองค์ประกอบขององค์การแห่งนวัตกรรม 2) ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จในการพัฒนาองค์การธุรกิจสู่องค์การแห่งนวัตกรรม 3) สร้างรูปแบบการพัฒนาองค์การธุรกิจประเภทโรงงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครปฐมสู่องค์การแห่งนวัตกรรม หรือ “เบญจพนธ์ โมเดล 2562” เป็นการวิจัยแบบผสมเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 400 องค์การ ผลการวิจัย พบว่า ปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จในการพัฒนาองค์การธุรกิจสู่องค์การแห่งนวัตกรรม โดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ใน ระดับมาก ถึงระดับมากที่สุด (= 4.443-4.150; SD =.640- .516) ปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จในการพัฒนาองค์การธุรกิจสู่องค์การแห่งนวัตกรรม ระดับมากที่สุด คือ ปัจจัยด้านกลยุทธ์นวัตกรรม รองลงมาคือ ปัจจัยด้านวัฒนธรรมองค์การมุ่งเน้นนวัตกรรม ปัจจัยด้านสมรรถนะเชิงนวัตกรรม ปัจจัยด้านการจัดการความรู้ และปัจจัยด้านภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรม ตามลำดับ อย่างไรก็ดี ปัจจัยด้านภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรม ปัจจัยด้านวัฒนธรรมองค์การมุ่งเน้นนวัตกรรม ปัจจัยด้านกลยุทธ์นวัตกรรม ปัจจัยด้านการจัดการความรู้ ปัจจัยด้านความร่วมมือทางการวิจัยและพัฒนา และปัจจัยด้านสมรรถนะเชิงนวัตกรรม มีความสัมพันธ์เชิงเส้นตรงในทางบวกต่อความสำเร็จในการพัฒนาองค์การธุรกิจสู่องค์การแห่งนวัตกรรม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 (P-Value< .05) นอกจากนี้ ปัจจัยทั้ง 6 นี้ ยังเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างรูปแบบการพัฒนาองค์การธุรกิจประเภทโรงงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครปฐมสู่องค์การแห่งนวัตกรรม หรือ “เบญจพนธ์ โมเดล 2562” และได้ผ่านการตรวจสอบความเหมาะสมในการนำไปปฏิบัติจากผู้ทรงคุณวุฒิแล้ว
Article Details
เอกสารอ้างอิง
ปิยะ ตันติเวชยานนท์. (2560). ปัจจัยที่มีผลต่อการเป็นองค์การแห่งนวัตกรรม กรณีศึกษา: บริษัท ซุปเปอร์ริช อินเตอร์เนชั่นเนล เอ็กซ์เชนจ์ 1965 จำกัด. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยปทุมธานี, 9(2), 102-111.
รัตนะ บัวสนธ์. (2556). วิธีการเชิงผสมผสานสำหรับการวิจัยและประเมิน. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
วิจารณ์ พานิช. (2562). การจัดการความรู้. เรียกใช้เมื่อ 12 มกราคม 2562 จาก https://www.gotoknow.org/posts/283017
สมาพร ภูวิจิตร และคณะ. (2558). รูปแบบวัฒนธรรมองค์กรที่มีประสิทธิภาพ. วารสารวิทยาลัยนครราชสีมา, 9(1), 73-77.
สำนักวิชาการ. (2559). ประเทศไทย 4.0. สำนักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎร. เรียกใช้เมื่อ 20 มกราคม 2562 จาก https://www.parliament.go.th/libraly
สุวิมล ติรกานันท์. (2550). การสร้างเครื่องมือวัดตัวแปรในการวิจัยทางสังคมศาสตร์: แนวทางสู่การปฏิบัติ. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ไอริน โรจน์รักษ์. (2558). ความสัมพันธ์ระหว่างความเป็นองค์การนวัตกรรมกับสมรรถนะ ในการสร้างสรรค์นวัตกรรม : กรณีศึกษาสำนักงาน คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน. วารสารรัฐศาสตร์ปริทรรศน์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2(2), 46-60.
Katz, du Preez, & Schutte. (2010). A Framework for Strategic Innovation. Retrieved May 12, 2019, from https:// www.innovation-point.com
Palmer D. & Kaplan, S. (2010). A Framework for Strategic Innovation. Retrieved May 2019, 12, from www.Innovation-point. San Fransisco
Roscoe J.T. (1975). Fundamental Research Statistics for the Behavioral Science International Series in Decision Process. 2nd Edition. New York: Holt Rinehart and Winston.
Sarros J. C. et al.. (2008). Building a climate for innovation through transforma tional leadership and organizational culture. Journal of Leadership & Organizational Studies, 15(1), (145-158).
Yamane T. (1973). Statistics: An Introductory Analysis 3rd Edition. New York: Harper and Row.