ความชุกและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับภาวะเหนื่อยล้าจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ผู้ช่วยการพยาบาล ในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในเขตกรุงเทพมหานคร
DOI:
https://doi.org/10.60027/iarj.2025.285714คำสำคัญ:
ภาวะความเหนื่อยล้าจากการทำงาน, เจ้าหน้าที่ผู้ช่วยการพยาบาล, โรงพยาบาลเอกชนบทคัดย่อ
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: ภาวะความเหนื่อยล้าจากการทำงานเป็นกลุ่มอาการทางจิตวิทยาที่เกิดจากการตอบสนองความเครียดเรื้อรัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคลากรในโรงพยาบาลเอกชนที่ทำงานภายใต้แรงกดดันและความคาดหวังของผู้รับบริการในระดับสูง การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ความชุกของภาวะความเหนื่อยล้าจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ผู้ช่วยการพยาบาล และ 2) ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับภาวะความเหนื่อยล้าจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ผู้ช่วยการพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในเขตกรุงเทพมหานคร
ระเบียบวิธีการวิจัย: เป็นการศึกษาวิจัยเชิงพรรณนาแบบภาคตัดขวางในเจ้าหน้าที่ผู้ช่วยการพยาบาล ในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 102 คน คำนวณโดยใช้สูตรของแดเนียล เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามออนไลน์ ประกอบด้วย ข้อมูลส่วนบุคคล ลักษณะการทำงาน แบบวัดความไม่สมดุลของความทุ่มเทในการทำงานและผลตอบแทนจากงาน และวัดความเหนื่อยล้าจากการทำงานของแมสแลช ฉบับภาษาไทย วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา นำเสนอข้อมูลเป็นความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และหาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยโดยการวิเคราะห์ความถดถอยโลจิสติกเชิงพหุ
ผลการวิจัย: เจ้าหน้าที่ผู้ช่วยการพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชน มีภาวะความเหนื่อยล้าจากการทำงานด้านความเหนื่อยล้าทางอารมณ์อยู่ในระดับสูง ร้อยละ 35.3 ด้านการสูญเสียความสัมพันธ์ส่วนบุคคลอยู่ในระดับสูง ร้อยละ 51.0 และด้านความไม่สมหวังในผลสำเร็จของตนอยู่ในระดับสูง ร้อยละ 88.2 โดยพบว่าปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความเหนื่อยล้าทางอารมณ์ คือ การทำงานมากกว่า 8 ชั่วโมงขึ้นไป (OR 4.72, 95% CI 1.47, 15.13) ความทุ่มเทในการทำงาน (OR 62.62, 95% CI 3.82, 1025.96) และความมุ่งมั่นต่องานมากเกินไป (OR 4.83, 95% CI 1.36, 17.15) ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการสูญเสียความสัมพันธ์ส่วนบุคคล คือ การทำงานมากกว่า 8 ชั่วโมงขึ้นไป (OR 2.90, 95% CI 1.12, 7.50) และความทุ่มเทในการทำงาน (OR 11.76, 95% CI 1.06, 130.62) ส่วนปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความไม่สมหวังในผลสำเร็จของตน คือ ความทุ่มเทในการทำงาน (OR 0.08, 95% CI 0.01, 0.63) และความมุ่งมั่นต่องานมากเกินไป (OR 0.19, 95% CI 0.04, 0.94)
สรุปผล: เจ้าหน้าที่ผู้ช่วยการพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชน มีภาวะความเหนื่อยล้าจากการทำงานอยู่ในระดับสูง โดยมีความสัมพันธ์กับจำนวนชั่วโมงการทำงาน ความทุ่มเทในการทำงานสูง และความมุ่งมั่นต่องานมากเกินไปดังนั้นการจัดการกับปัจจัยเหล่านี้จะช่วยลดภาวะความเหนื่อยล้าจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ผู้ช่วยการพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนได้
เอกสารอ้างอิง
จามรี ณ บางช้าง. (2562). ความชุกและปัจจัยที่สัมพันธ์กับภาวะเหนื่อยล้าในการทำงานของแพทย์ประจำบ้านโรงพยาบาลราชวิถี. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย, 64(1), 61-76.
จิราภรณ์ ลิ่มนิจสรกุล. (2566). ปัจจัยที่มีผลต่อภาวะหมดไฟในการทำงานในสถานการณ์ COVID-19 ของพยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลเกาะสมุย. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 10(12), 259-270.
ณัฐนันท์ ฤทธิ์สำเร็จ, ธีระวุธ ธรรมกุล และ ปกกมล เหล่ารักษ์วงษ์. (2565). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับภาวะหมดไฟในการทำงานของบุคลากรในโรงพยาบาลเอกชน อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี. วารสารสาธารณสุขมหาวิทยาลัยบูรพา, 17(1), 86-99.
ติรยา เลิศหัตถศิลป์. (2554). ภาวะเหนื่อยล้าในการทำงานและปัจจัยที่เกี่ยวข้องของจิตแพทย์ในประเทศไทย. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย, 56(4), 437-48.
พัชราภรณ์ สิณัตพัฒนะศุข และ ธนาสิทธิ์ วิจิตราพันธ์. (2565). ปัจจัยเสี่ยงของภาวะหมดไฟในการทำงานของบุคลากรโรงพยาบาลสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 31(1), 154-63.
มิตร ศรีมังคละ และ อาณัติ วรรณศรี. (2563). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความเครียดของพนักงานผู้ช่วยเหลือคนไข้ แผนกผู้ป่วยนอก ในโรงพยาบาลระดับตติยภูมิแห่งหนึ่ง สังกัดกรมการแพทย์. วารสารพยาบาล, 69(3), 27-34.
ศิวัช ธำรงวิศว, จารุรินทร์ ปิตานุพงศ์ และ วิศรุต ศรีสินทร. (2562). ความเหนื่อยล้าจากการทำงานและปัจจัยที่เกี่ยวข้องในพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลสงขลานครินทร์. เวชสารแพทย์ทหารบก, 72(3), 177-85.
สภาการพยาบาล. (2568). ประกาศสภาการพยาบาล เรื่อง นโยบายสภาการพยาบาลเกี่ยวกับกำลังคนในทีมการพยาบาล. Retrieved on 6 January 2025 from https://www.tnmc.or.th/images/userfiles/files/003(1).pdf
สำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม. (2565). การสำรวจโรงพยาบาลและสถานพยาบาลเอกชน พ.ศ. 2565. Retrieved on 6 January 2025 from https://catalogapi.nso.go.th/api/doc/department/D10/SD10_04/SD10_04_186_1.pdf
หัทยา รัตนานนท์. (2557). ผู้ช่วยพยาบาล : งานดูแลรักษาที่ถูกให้มองไม่เห็น. วารสารมานุษยวิทยาและสังคมวิทยา, 33(2), 159-76.
Daniel, W.W. (2010). Biostatistics : Basic Concepts and Methodology for the Health Sciences. 9th ed., Hoboken, NJ: John Wiley & Sons.
Freudenberger, H.J. (1989). Burnout: Past, Present, and Future Concerns. Loss Grief & Care, 3(2), 1-10.
Maslach, C., & Jackson, S.E. (1981). The Measurement of Experienced Burnout. J Organ Behav, 2(2), 99-113.
Siegrist, J., Starke, D., Chandola, T., Godin, I., Marmot, M., Niedhammer, I., & Peter, R. (2004). The Measurement of effort-reward imbalance at work: European comparisons. Social science & medicine, 58(8), 1483-1499.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Interdisciplinary Academic and Research Journal

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





