หมู่บ้านราชภัฏตามศาสตร์แห่งพระราชาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน : การกระจายความเจริญและเมืองน่าอยู่เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม: ระยะที่ 1

ผู้แต่ง

DOI:

https://doi.org/10.14456/iarj.2022.27

คำสำคัญ:

หมู่บ้านราชภัฏ; , ศาสตร์แห่งพระราชา;, การพัฒนาอย่างยั่งยืน;, เมืองน่าอยู่

บทคัดย่อ

        การดำเนินโครงการวิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนาภายใต้แนวคิดการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาการขับเคลื่อนสังคมอุดมปัญญาประชาธิปไตย พัฒนาผลิตผลทางการเกษตรที่มีคุณภาพและปลอดภัย พัฒนารูปแบบการจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชนอย่างยั่งยืน พัฒนาเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืนพัฒนาระบบและกลไกการบริหารจัดการภาครัฐ และการสร้างรูปแบบการดูแลสุขภาพประชาชนด้วยสมุนไพรพื้นบ้าน พื้นที่วิจัย คือ พื้นที่ตำบลแก่งเลิงจาน อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม ประชากรเป้าหมาย ได้แก่ กลุ่มผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบล กลุ่มฝ่ายปกครองระดับตำบลและหมู่บ้าน กลุ่มข้าราชการในพื้นที่ กลุ่มเกษตรกร และกลุ่มประชาชนทั่วไป เครื่องมือในการเก็บรวมรวบข้อมูลประกอบด้วยหลายส่วนได้แก่ แบบสอบถาม การสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง การสนทนากลุ่ม การประชุมระดมสมอง และการประชุมเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณใช้สถิติพื้นฐานในการวิเคราะห์ข้อมูล ส่วนข้อมูลเชิงคุณภาพใช้วิธีการวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis) และการวิเคราะห์แก่นสาระ (thematic analysis) แล่วนำเสนอเชิงพรรณนาความ ผลการวิจัยพบว่า (1) การพัฒนาการขับเคลื่อนสังคมอุดมปัญญาประชาธิปไตยชุมชน พบว่า ทำให้ได้กรอบแนวคิดที่ทำให้เกิดสังคมอุดมปัญญาประชาธิปไตย ได้แก่วิถีปัจเจกบุคคล วิถีประชา และ ระบบกลไกทางสังคม  (2) การพัฒนาผลิตผลทางการเกษตรที่มีคุณภาพและปลอดภัยเพื่อพัฒนาสู่เกษตรกรรมยั่งยืนของชุมชน พบว่า ควรที่จะสร้างหรือพัฒนารูปแบบการผลิตผักที่ปลอดภัยให้กับชุมชนดังกล่าว เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และเป็นแหล่งผลิตผักปลอดภัยจากสารเคมีเพื่อใช้บริโภคและจำหน่ายให้กับชุมชน (3) การพัฒนารูปแบบการจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชนอย่างยั่งยืน พบว่า สภาพปัญหาสิ่งแวดลอมในชุมชน คือ ปัญหาการจัดการขยะมูลฝอยในชุมชน โดยจากปัญหาดังกล่าวได้ส่งผลกระทบ ต่าง ๆ มากมายต่อสิ่งแวดล้อมในชุมชน  (4) การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืนบนฐานทรัพยากรธรรมชาติและภูมิปัญญาท้องถิ่นตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง พบว่า สมาชิกในชุมชนรวมกันกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาและความต้องการของตนเอง เพื่อวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนและแผนปฏิบัติการด้วยเทคนิค AIC  (5) การพัฒนาระบบและกลไกการบริหารจัดการภาครัฐเพื่อสนับสนุนการพัฒนาชุมชนต้นแบบบนพื้นฐานคุณธรรมและความโปร่งใส พบว่า จุดเด่นด้านการบริหารองค์การบริหารส่วนตำบลแก่งเลิงจาน ผู้บริหาร มีภาวะผู้นำสูง เน้นการบริหารงานแบบการมีส่วนร่วม ในการแก้ไขปัญหา เน้นความสามัคคีในการทำงานของบุคลากรในองค์กร  และ (6) การสร้างรูปแบบการดูแลสุขภาพประชาชนด้วยสมุนไพรพื้นบ้าน พบว่า (ก) ภาครัฐ มีความต้องการให้เกิดการสร้างเครือข่ายระหว่างภาครัฐและชุมชนในการส่งเสริมการใช้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพที่ชัดเจน (ข) ภาคชุมชน เพื่อให้ได้แนวทางในการจัดกิจกรรมในการดูแลสุขภาพชุมชน พบว่า กลุ่มเป้าหมายมีการใช้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพ ในภาพรวมมีการใช้สมุนไพรดูแลสุขภาพอยู่ในระดับบางครั้ง โดยมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 2.27 (S.D. = 0.52)

เอกสารอ้างอิง

กิ่งแก้ว สุวรรณคีรี นพพร จันทรนำชู และนรินทร์ สังข์รักษา (2559). รูปแบบการสร้างเสริมพลังอำนาจชุมชนเพื่อการจัดทำแผนชุมชน. Veridian E-Journal, Silpakorn University, 9 (2), 1787-1801.

โกวิทย์ พวงงาม (2545).ความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติของประชาชนในการมีส่วนร่วมต่อการบริหารงานแบบกระจายอำนาจ. กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร.

เจน จันทรสุภาเสน และคณะ (2563). การใช้เทคนิค AIC เพื่อการเฝ้าระวังและการมีส่วนร่วมของชุมชน ในการอนุรักษ์แมงกะพรุนน้ำจืด ในพื้นที่ตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์. วารสารรัชต์ภาคย์, 14 (37), 204-214.

ดุษฎี พรหมทต (2558). พฤติกรรมการผลิตผักปลอดภัยของเกษตรกร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา. วารสารวิจัยสหวิทยาการไทย, 10 (3),8-16.

ตรียากานต์ พรมคำ (2563). การศึกษาสภาพปัญหาการจัดการขยะมูลฝอยในเขตเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์. วารสารชุมชนวิจัย, 14 (4), 52-62.

ประมุข ศรีชัยวงศ์ อินทุราภรณ์ อินทรประจบ, สมศักดิ์ จั่นผ่อง, ธรรมรัตน์ โพธิสุวรรณปัญญา และ ชูเกียรติ ผลาผล (2564). พฤติกรรมการผลิตผักปลอดภัยของเกษตรกร ตำบลนาเสียว อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ. Journal of Modern Learning Development, 6 (6), 296-307.

รินทิพย์ ศรีสว่างวงศ์ และ ปิยะนุช เงินคล้าย (2564). ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการขับเคลื่อนนโยบายขนส่งสาธารณะ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี. วารสารการวิจัยการบริหารการพัฒนา, 11 (1),150-164.

สัญญา เคณาภูมิ (2563). “สังคมอุดมปัญญาประชาธิปไตย” (Democratic Intelligence Society), รัฐสภาสาร, 68 (1),36-83.

สำนักงานคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ, สำนักงานสภาสถาบันราชภัฎและทบวงมหาวิทยาลัย (2546). รายงานการสังเคราะห์สารนิพนธ์บัณฑิตกองทุน หลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต สาขาการจัดการและการประเมินโครงการ. กรุงเทพฯ : สำนักงานคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ : สำนักงานสภาสถาบันราชภัฏ กระทรวงศึกษาธิการ : ทบวงมหาวิทยาลัย,

สำนักมาตรฐานการศึกษาสำนักงานสภาสถาบันราชภัฎกระทรวง ศึกษาธิการสำนักมาตรฐานอุดมศึกษาและทบวงมหาวิทยาลัย (2545). ชุดวิชาการวิจัยชุมชน. นนทบุรี: เอส.อาร์. พริ้นติ้ง แมสโปรดักส.

อัจฉรา สุมังเกษตร และ ชัยวัฒน์ นันทศร (2559). องค์ความรู้ภูมิปัญญาของหมอยาพื้นบ้าน กรณีศึกษา อำเภอนามน จังหวัดกาฬสินธุ์. TLA Research J, 9 (2), 87-104.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2022-05-02

รูปแบบการอ้างอิง

อัตถากร ส. ., เคณาภูมิ ส. ., พิมราช ส. ., ปะวะละ ธ. ., ราศรี ว. ., ศรีสุภักดิ์ ร. ., เอี่ยมวิจารณ์ ส., เอกสะพัง จ., ธรรมปัทม์ พ. ., & ศรีสว่างวงศ์ ป. . (2022). หมู่บ้านราชภัฏตามศาสตร์แห่งพระราชาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน : การกระจายความเจริญและเมืองน่าอยู่เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม: ระยะที่ 1. Interdisciplinary Academic and Research Journal, 2(3), 93–120. https://doi.org/10.14456/iarj.2022.27

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิชาการ