ผลการพัฒนาโรงเรียนในโครงการครูรักษ์ถิ่นด้วยการหนุนเสริม S.A.V.E Model
คำสำคัญ:
S.A.V.E Model, การหนุนเสริม, โรงเรียนในโครงการครูรักษ์ถิ่นบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบผลการประเมินการดำเนินงานตามมาตรการคุณภาพ 6Q ก่อนและหลังดำเนินการพัฒนาโรงเรียนในโครงการครูรักษ์ถิ่น ด้วยการหนุนเสริม S.A.V.E Model 2) เปรียบเทียบผลการประเมินการดำเนินงานตามมาตรการคุณภาพ 6Q จำแนกตามตำแหน่ง ภาค และขนาดของโรงเรียน หลังดำเนินการพัฒนาโรงเรียนในโครงการครูรักษ์ถิ่นด้วยการหนุนเสริม S.A.V.E Model กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ โรงเรียนในโครงการครูรักษ์ถิ่น จำนวน 249 โรงเรียน โดยการสุ่มแบบแบ่งชั้น ผู้ให้ข้อมูลโรงเรียนละ 3 คน คือ ครู ผู้บริหาร และทีมหนุนเสริมเก็บรวบรวมข้อมูลจากแบบประเมินผลการดำเนินงานตามมาตรการคุณภาพ 6Q วิเคราะห์ข้อมูลโดยค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ใช้สถิติ Wilcoxon Signed Ranks Test, Kruskal-Wallis Test และ Mann-Whitney Test
ผลการวิจัย พบว่า 1) โดยภาพรวมผลการประเมินการดำเนินงานตามมาตรการคุณภาพ 6Q หลังดำเนินการสูงกว่าก่อนดำเนินการอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) ผลการเปรียบเทียบผลการประเมินการดำเนินงานตามมาตรการคุณภาพ 6Q หลังดำเนินการด้วยรูปแบบการหนุนเสริม S.A.V.E Model จำแนกตามตำแหน่ง ภาค และขนาด พบว่า ผลการเปรียบเทียบจำแนกตามตำแหน่ง ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ผลเปรียบเทียบจำแนกตามภาค พบว่า มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อเปรียบเทียบตามขนาด พบว่า โรงเรียนที่มีขนาดตั้งแต่ 720 คนขึ้นไป มีผลการดำเนินการแตกต่างจากขนาดอื่น ๆ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
เอกสารอ้างอิง
กนกพิชญ์ อุ่นคง. (2565). ถอดบทเรียน 4 โมเดล พัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ สู่อนาคตการศึกษาที่ยั่งยืน. จาก https://thepotential.org/social-issues/50th-education-journey/.
กัลชิญา ทองหัตถา. (2565). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการบริหารงานวิชาการในโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 1. (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต). สงขลา: มหาวิทยาลัยหาดใหญ่.
กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม. (2562). คู่มือการจัดทำคู่มือปฏิบัติงาน (Work Manual). กรุงเทพฯ: กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม.
จิรภัทร มหาวงค์. (2559). การพัฒนารูปแบบการบริหารเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการของโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารบนเขตพื้นที่สูง. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 18(4),114-127.
วาโร เพ็งสวัสดิ์. (2552). การวิจัยและพัฒนารูปแบบ. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร, 2(4), 9-10.
วิยดา เหล่มตระกูล, จุติมา เมทนีธร, ศศิวรรณ พชรพรรณพงษ์, นงลักษณ์ ใจฉลาด, หฤทัย อนุสสรราชกิจ, อารี สาริปา, ณรงค์ฤทธิ์ อินทนาม และ วิทเอก สว่างจิตร. (2562). โครงการวิจัยและพัฒนาแนวทางการหนุนเสริมทางวิชาการเพื่อพัฒนากระบวนการผลิตและพัฒนาครูโดยบูรณาการแนวคิดจิตตปัญญาศึกษา ระบบพี่เลี้ยง และการวิจัยเป็นฐานของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ: รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม.
สมาน อัศวภูมิ. (2550). เส้นทางสู่คุณภาพและมาตรฐาน (พิมพ์ครั้งที่ 8). อุบลราชธานี: ออฟเซทการพิมพ์.
สำนักงานกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา. (2564). การพัฒนารูปแบบการหนุนเสริมโรงเรียนในโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น (รายงานการวิจัย). กรุงเทพฯ: กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา.
สำนักงานกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา. คู่มือการดำเนินการสำหรับทีมหนุนเสริมการพัฒนาโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการพัฒนาครูรุ่นใหม่ โครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น. กรุงเทพฯ: กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2561). แนวทางการพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในโรงเรียน. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.
อรรถพงษ์ อินต๊ะวงศ์, อนุชา กอนพ่วง, ปกรณ์ ประจันบาน และ ธีรศักดิ์ อุปไมยอธิชัย (2566). รูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุการเปลี่ยนแปลงโรงเรียนทั้งระบบของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร, 11(3), 951–964. จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/journal-peace/article/view/256255.
Castaner, X., & Oliveira, N. (2020). Collaboration, coordination, and cooperation among organizations: Establishing the distinctive meanings of these terms through a systematic literature review. Journal of Management, 46(6), 965–1001.
Cefai, C., Downes, P., & Cavioni, V. (2021). A systemic, whole-school approach to mental health and well-being in schools in the EU (NESET Analytical Report No. 2/2021). Publications Office of the European Union. Form https://nesetweb.eu/wp-content/uploads/2021/10/NESET-AR2-2021.pdf.
Fullan, M. (2007). The new meaning of educational change (4th ed.). New York: Teachers College Press.
Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and psychological measurement, 30(3), 607-610.
UNESCO & UNICEF. (2021). How to include the whole school in foundational education for health and well-being (Briefing Sheet No. 3). Form https://www.unicef.org/media/158036/file/BSF3.%20How%20to%20Include%20the%20Whole%20School%20in%20Foundational%20Education%20for%20Health%20and%20Well-being.pdf.pdf.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มหาวิทยาลัยพะเยา

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ผู้นิพนธ์ต้องรับผิดชอบข้อความในบทนิพนธ์ของตน มหาวิทยาลัยพะเยาไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับบทความที่ตีพิมพ์เสมอไป ผู้สนใจสามารถคัดลอก และนำไปใช้ได้ แต่จะต้องขออนุมัติเจ้าของ และได้รับการอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน พร้อมกับมีการอ้างอิงและกล่าวคำขอบคุณให้ถูกต้องด้วย
The authors are themselves responsible for their contents. Signed articles may not always reflect the opinion of University of Phayao. The articles can be reproduced and reprinted, provided that permission is given by the authors and acknowledgement must be given.

