ปัจจัยที่มีผลต่อภาวะหมดไฟในการทำงานของ พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลฝาง จังหวัดเชียงใหม่
คำสำคัญ:
ภาวะหมดไฟในการทำงาน , ปัจจัยที่มีผลต่อภาวะหมดไฟ , พยาบาลวิชาชีพบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงสำรวจภาคตัดขวาง (cross-sectional descriptive research) มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาภาวะหมดไฟจากการทำงานและปัจจัยที่มีผลต่อภาวะหมดไฟในการทำงานของพยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลฝาง จังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มตัวอย่าง คือ พยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลฝาง จำนวน 115 คน ซึ่งคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการรสุ่มแบบแบ่งชั้น (stratified random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถามภาระงาน แบบประเมินความยืดหยุ่นทางจิตใจ แบบสอบถามคุณภาพชีวิตการทำงาน และแบบสอบถามภาวะหมดไฟในการทำงาน การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้สถิติเชิงพรรณนา และวิเคราะห์ความสัมพันธ์ด้วยการวิเคราะห์ความถดถอยพหุโลจิสติก (multiple logistic regression analysis)
ผลการวิจัย พบว่า กลุ่มตัวอย่างเป็นเพศหญิง ร้อยละ 94.8 มีอายุ 20-30 ปี ร้อยละ 40.9 ระยะเวลาที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาล 1-5 ปี ร้อยละ 39.1 พบภาวะหมดไฟจากการทำงาน ร้อยละ 38.3 โดยมีคะแนนด้านความอ่อนล้าทางอารมณ์ ระดับสูง ร้อยละ 37.40 ด้านการลดความเป็นบุคคล ระดับต่ำ ร้อยละ 67.8 และด้านความสำเร็จส่วนบุคคล ระดับต่ำ ร้อยละ 95.70 ปัจจัยที่มีผลต่อภาวะหมดไฟในการทำงานของพยาบาลวิชาชีพอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เมื่อควบคุมอิทธิพลของปัจจัยกวน ได้แก่ ระดับความคิดเห็นต่อภาระงาน (adjusted OR=4.73, 95%CI:1.45-15.46) และคุณภาพชีวิตการทำงาน ในด้านความสมดุลระหว่างงานกับชีวิตส่วนตัว (adjusted OR=5.79, 95%CI:1.59-21.14)
ดังนั้น ผู้บริหารควรให้ความสำคัญในการบริหารจัดการอัตรากำลังพยาบาลและภาระงานที่เหมาะสม รวมถึงการปรับปรุงคุณภาพชีวิตการทำงานของพยาบาล เพื่อลดการเกิดภาวะหมดไฟในการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น
เอกสารอ้างอิง
กชามาส วิชัยดิษฐ, อารยา ประเสริฐชัย และปกกมล เหล่ารักษาวงษ์. (2565). ภาวะหมดไฟในการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลรัฐ ในจังหวัดชุมพร. วารสารสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย, 30(3), 211-21.
กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. (2023). ข้อมูลการประเมินสุขภาพจิตคนไทย. สืบค้น 8 เมษายน 2566, จาก https://checkin.dmh.go.th/.
กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. (2564). เปลี่ยนร้ายกลายเป็นดี (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ: บริษัท บียอนด์ พับลิสชิ่ง จำกัด.
โรงพยาบาลฝาง. (2566). งานบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล. เชียงใหม่.
โรงพยาบาลฝาง. (2566). งานสารสนเทศทางการแพทย์. เชียงใหม่.
ณัฐนันท์ ฤทธิ์สำเร็จ, ธีระวุธ ธรรมกุล และ ปกกมล เหล่ารักษาวงษ์. (2565). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับภาวะหมดไฟในการทำงานของบุคลากรในโรงพยาบาลเอกชน อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี. วารสารสาธารณสุขมหาวิทยาลัยบูรพา, 17(1), 86-97.
นครินทร์ ชุนงาม. (2563). สุขภาพจิตและภาวะหมดไฟในการทำงานของแพทย์ในโรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลชุมชน จังหวัดนครราชสีมา. วารสารสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย, 28(4), 348-59.
นันทาวดี วรวสุวัส. (2563).การพัฒนารูปแบบการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางใจเพื่อป้องกันภาวะหมดไฟในการทำงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 7. วารสารวิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพ, 13(2), 603-13.
ปิยะวดี สุมาลัย. (2564). ภาวะหมดไฟในการทำงานของพยาบาลวิชาชีพ สถาบันบำราศนราดูร.วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี, 4(2), 66-78.
พัชราภรณ์ สิณัตพัฒนะศุข และธนาสิทธิ์ วิจิตราพันธ์. (2565). ปัจจัยเสี่ยงของภาวะหมดไฟในการทำงานของบุคลากรโรงพยาบาลสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 31(1), 154–163.
วัลลภ วิชาญเจริญสุข และสุนทร ศุภพงษ์. (2558). ภาวะหมดไฟในการทำงานและปัจจัยที่เกี่ยวข้องในผู้แทนยาบริษัทยาข้ามชาติ. ธรรมศาสตร์เวชสาร, 15(2), 225-31.
ศิวัช ธำรงวิศว, จารุรินทร์ ปิตาพงศ์ และวิศรุต ศรีสินทร. (2562). ความเหนื่อยล้าจากการทำงานและปัจจัยที่เกี่ยวข้องในพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลสงขลานครินทร์. เวชสารแพทย์ทหารบก, 72(3), 177-85.
ศรีสกุล เฉียบแหลม และ เพ็ญนภา แดงด้อมยุทธ์. (2562). ภาวะหมดไฟในการทำงาน. แพทยสารทหารอากาศ, 65(2), 44-52.
สุปรียา สัมฤทธิ์วงค์, นิตยา เพ็ญศิรินภา และพรทิพย์ กีระพงษ์. (2565). ปัจจัยที่มีผลต่อภาวะหมดไฟในการทำงานของพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลนครปฐม. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี, 5(3), 83-97.
สสิพรรธน์ นิลสงวนเดชะ. (2558). ภาวะเหนื่อยหน่ายในการทำงานและกลวิธีในการเผชิญปัญหาของพนักงานองค์การเภสัชกรรม. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
เสาวลักษณ์ สระศรีสม. (2564). ภาระงานที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในงานของบุคลากรกองคลัง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดกาญจนบุรี. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศิลปกร.
ANA Nursing Resources Hub. (2024). Nurse burnout: What is nurse burnout? How to prevent it. Retrieved Mar 17, 2023, from https://www.nursingworld.org/content-hub/resources/workplace/what-is-nurse-burnout-how-to-prevent-it.
Borges, M. M. S., Nunes, V. R., Pires, M. P., Lima, B. G., Hipólito, U. V., & Almeida, M. C. D. S. (2023). Quality of life at work and burnout in family health strategy workers. Rev Gaucha Enferm, 10(44).
Dall’Ora, C., Ball, J., Reinius, M., & Griffiths, P. (2022). Burnout in nursing: A theoretical review. Human Resources for Health, 18(41).
Daniel, W. W. (1995). Biostatistics: A foundation for analysis in the health sciences (6th ed.). John Wiley & Sons.
Cohen, J. (1969). Statistical power analysis for the behavioral sciences. Academic Press.
Gómez-Polo, C., Casado, A. M. M., & Montero, J. (2022). Burnout syndrome in dentists: Work-related factors. Journal of Dentistry, 121, 104143. https://doi.org/10.1016/j.jdent.2022.104143.
Gomez-Urquiza, J. L., Vargas, C., De la Fuente, E. I., Fernandez-Castillo, R., & Canadas-De la Fuente, G. A. (2017). Age as a risk factor for burnout syndrome in nursing professionals: A meta-analytic study. Research in Nursing & Health, 40(2), 99-110.
Luna, D., Figuerola-Escoto, R. P., Sienra-Monge, J. J. L., Hernández-Roque, A., Soria-Magaña, A., Hernández-Corral, S., & Toledano-Toledano, F. (2023). Burnout and its relationship with work engagement in healthcare professionals: A latent profile analysis approach. Healthcare (Basel, Switzerland), 11(23), 3042, form https://doi.org/10.3390/healthcare11233042.
Maslach, C., & Jackson, S. (1981). The measurement of experienced burnout. Journal of Organizational Behavior, 2(2), 99-113.
Maslach, C., & Jackson, S. (1982). Burnout in Health Professions: A Social Psychological Analysis. In G. S. Sanders, & J. Suls (Eds.), Social Psychology of Health and Illness (227-251). Hillsdale, NJ: Lawrence Erlbaum.
Maslach, C., Jackson, S.E. and Leiter, M.P. (1997). Maslach Burnout Inventory. In: Evaluating Stress: A Book of Resources (3rd ed), Scarecrow Education, Lanham, 191-218.
Shanafelt, T. D., Boone, S., Tan, L., Dyrbye, L. N., Sotile, W., Satele, D. and Oreskovich, M. R. (2012). Burnout and satisfaction with work-life balance among US physicians relative to the general US population. Archives of Internal Medicine, 172(18), 1377–1385, form https://doi.org/10.1001/archinternmed.2012.3199.
Sobczuk, P., Gawlik-Urban, A., Sigorski, D., Kiszka, J., Osmola, M., Machulska-Ciuraj, K. Brodziak, A. (2024). Prevalence and factors associated with professional burnout in Polish oncologists: Results of a nationwide survey. ESMO Open, 9(2), 102230, form https://doi.org/10.1016/j.esmoop.2023.102230.
Walton, R. E. (1973). Quality of working life: What is it?. Sloan Management Review, 15(1), 11-21.
World Health Organization. (2019). Burn-out an “occupational phenomenon”: International classification of diseases. Retrieved Mar 17, 2023, from https://www.who.int/news/item/28-05-2019-burn-out-an-occupational-phenomenon-international-classification-of-diseases.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 มหาวิทยาลัยพะเยา

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ผู้นิพนธ์ต้องรับผิดชอบข้อความในบทนิพนธ์ของตน มหาวิทยาลัยพะเยาไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับบทความที่ตีพิมพ์เสมอไป ผู้สนใจสามารถคัดลอก และนำไปใช้ได้ แต่จะต้องขออนุมัติเจ้าของ และได้รับการอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน พร้อมกับมีการอ้างอิงและกล่าวคำขอบคุณให้ถูกต้องด้วย
The authors are themselves responsible for their contents. Signed articles may not always reflect the opinion of University of Phayao. The articles can be reproduced and reprinted, provided that permission is given by the authors and acknowledgement must be given.

