แรงจูงใจต่ออาชีพเชฟของนักศึกษาโรงเรียนการเรือน มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต

ผู้แต่ง

  • จารึก ศรีอรุณ สาขาวิชาคหกรรมศาสตร์ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต กรุงเทพ
  • วไลภรณ์ สุทธา สาขาวิชาคหกรรมศาสตร์ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต

คำสำคัญ:

แรงจูงใจต่ออาชีพเชฟ, โรงเรียนการเรือน, มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต

บทคัดย่อ

การศึกษาแรงจูงใจต่ออาชีพเชฟของนักศึกษาโรงเรียนการเรือน มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแรงจูงใจต่ออาชีพเชฟของนักศึกษา โรงเรียนการเรือน มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตและเพื่อเปรียบเทียบแรงจูงใจต่ออาชีพเชฟของนักศึกษา โรงเรียนการเรือน มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคลโดยทำการเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี หลักสูตรเทคโนโลยีการประกอบอาหารและการบริการ โรงเรียนการเรือน มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ชั้นปีที่ 1 ถึง 4 จำนวน400 คนซึ่งเป็นกลุ่มตัวอย่างแบบโค้วต้าเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือแบบสอบถามที่มีคุณภาพและการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ย โดยใช้สถิติทดสอบ t (Independent t-test) เปรียบเทียบความแตกต่างโดยใช้ One-Way ANOVA และทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ด้วยวิธี LSD (Fisher’s Least Significant Difference)ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

ผลการศึกษาพบว่าแรงจูงใจต่ออาชีพเชฟของนักศึกษาโรงเรียนการเรือน มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ภาพรวมพบว่า มีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมาก (gif.latex?\dpi{120}&space;\large&space;\bar{x}= 3.85) เมื่อพิจารณารายด้านทุกด้านอยู่ในระดับมาก โดยด้านที่เป็นแรงจูงใจต่ออาชีพเชฟสูงที่สุดคือ ด้านความสามารถ (gif.latex?\dpi{120}&space;\large&space;\bar{x}= 4.02) รองลงมาคือ ด้านสังคม (= 4.00) และด้านที่เป็นแรงจูงใจต่ออาชีพเชฟโดยมีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุดคือ ด้านความมั่นคง (gif.latex?\dpi{120}&space;\large&space;\bar{x}= 3.56) ตามลำดับ และผลการเปรียบเทียบแรงจูงใจต่ออาชีพเชฟของนักศึกษา โรงเรียนการเรือน มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตพบว่า กลุ่มตัวอย่างเป็นเพศชายร้อยละ 50 และเพศหญิงร้อยละ 50 ส่วนมากมีอายุมากกว่า21 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครผู้ปกครองประกอบอาชีพพนักงานบริษัทเอกชนโดยจบการศึกษาในระดับ ปวส/อนุปริญญา มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนของครอบครัว

ระหว่าง 30,001-40,000 บาท นักศึกษาจบการศึกษาจากโรงเรียนในเขตที่ตั้งภาคเหนือ ส่วนใหญ่มีผลสัมฤทธ์ทางการเรียนรวม 2.51-3.00ส่วนใหญ่ยังไม่มีประสบการณ์ในการเรียนด้านการประกอบอาหาร ส่วนประสบการณ์ในการทำงานด้านการประกอบอาหารพบว่ามีประสบการณ์น้อยกว่า 1 ปี ทั้งนี้แบ่งเป็นนักศึกษาปี 1 ถึง 4 ร้อยละ 25 ต่อชั้นปี และผลการเปรียบเทียบแรงจูงใจต่ออาชีพเชฟของนักศึกษา โรงเรียนการเรือน มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า นักศึกษาที่มีอายุแตกต่างกัน  ที่ตั้งของโรงเรียนที่สำเร็จการศึกษา ผลสัมฤทธ์ทางการเรียน ชั้นปีของนักศึกษาและการศึกษาสูงสุดของผู้ปกครองหลักต่างกันมีแรงจูงใจต่ออาชีพเชฟต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

เอกสารอ้างอิง

กัลยา วานิชย์บัญชา. (2551). การวิเคราะห์ข้อมูลหลายตัวแปร (พิมพ์ครั้งที่ 3): กรุงเทพฯ.

เฉลิม ศรีผดุง, ดรุณี บุญสิงห์, วรพัฒน์ ทิวถนอม และจิราพร เจรจา ประเสริฐ. (2535). รายงานวิจัยเรื่อง ความต้องการในการรับราชการของนิสิตนักศึกษา. มูลนิธิคอนราด อเดเนาว์. เอกสารวิชาการที่ 4/2534. กรุงเทพมหานคร: กองวิชาการสำนักงาน กพ.

ถวิล เกื้อกูลวงศ์. (2528). การจูงใจเพื่อผลงาน. นครปฐม: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากรวิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์.

นวลศิริ เปาโรหิตย์. (2528). พัฒนาการทางอาชีพ. กรุงเทพมหานคร. ภาควิชาจิตวิทยา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราคำแหง.

นารา ธีรเนตร, สงคราม เชาว์ศิลป์. (2540). จิตวิทยาทั่วไป. ภาควิชาจิตวิทยา คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

บุญชม ศรีสะอาด. (2546). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 7 กรุงเทพมหานคร : สุวีริยาสาสน์.

เบ็ญจา จิรภัทรพิมล. (2517). ความมุ่งหวังปรารถนาทางอาชีพขอนักศึกษาหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 และ 4. วิทยานิพนธ์สังคมวิทยามหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

พรพนา อรรจนโจน์. (2558). การสำรวจแนวบทบาทนิสิตนักศึกษาตามการรับรู้ของนิสิตนักศึกษาในมหาวิทยาลัยระบบจำกัดรับ. วิทยานิพนธ์คุรุศาสตร์มหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

รัชนีนารถ มณีพงศ์. (2559). การสำรวจความสนใจในอาชีพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2527 ในภาคกลาง. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. กรุงเทพมหานคร ภาควิชาจิตวิทยา บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

วิลาสลักษณ์ ชัววัลลี. (2538). การรับรู้ความสามารถของตนในเรื่องอาชีพ; ตัวแปรที่น่าสนใจในการศึกษาเกี่ยวกับอาชีพและการทำงาน. วรสารจิตวิทยา; 2. หน้า 97-107.

ศิริชัย การญจนวาสี. (2544). ทฤษฎีการวัดและประเมินผล เอกสารประกอบการสอน ภาควิชาวิจัยการศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร; เอกสารอัดสำเนา.

ศูนย์หนังสือแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กัลยา วานิชย์บัญชา. (2552). หลักสถิติ (พิมพ์ครั้งที่ 11). กรุงเทพมหานคร: ศูนย์หนังสือแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ศรีนวล โกมลวนิช. (2522). แนะแนวการศึกษาต่อวิชาชีพ. กรุงเทพมหานคร: แผนกช่างพิมพ์โรงเรียนสารพัดช่างพระนคร.

สิรนาฏ ผางสระน้อย. (2551). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเลือกประกอบอาชีพครูของบัณฑิตสาขาการศึกษา ระดับปริญญาโท ภาควิชา วิจัยและจิตวิทยาการศึกษา สาขาวิชา วิจัยการศึกษา อาจารย์ที่ปรึกษา รศ.ดร.ดวงกมล ไตรวิจิตรคุณ.

โสภัณฑ์ นุชนาถ. (2542). จิตวิทยาวัยรุ่น. สถาบันราชภัฎธนบุรี.

เสาวลักณ์ ลิมปิชาติ. (2544). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเลือกอาชีพที่เป็นและไม่เป็นวัฒนธรรมทางอาชีพตามเพศ ศึกษากรณีนักศึกษาระดับอุดมศึกษาในกรุงเทพมหานคร. ปริญญานิพนธ์ศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต. กรุงเทพมหานคร: ,มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

สุเทพ สันติรานนท์, ปราณี ทองคำ. (2553). รายงานวิจัยพฤติกรรมเกี่ยวกับอาชีพตามแนวแบบสำรวจความสนใจในอาชีพตามทฤษฎีของฮอลแลนด์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2527 ใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี.

ษมาพร พันธุมโพธิ์. (2559). การสำรวจความสนใจในอาชีพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2527 ในกรุงเทพมหานคร. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. กรุงเทพมหานคร ภาควิชาจิตวิทยา บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

Krejcie, R.V., & Morgan, D.W. (1970). Determining sample size for research activities.

Educational and Psychological Measurement, 30(3), 608.

Slater, L. (2004). Opening Skinner's Box: Great Psychological Experiments of the Twentieth Century. London: Bloomsbury. Maslow; (1970 : 46).

Wallters, C.J. (1978). Adaptive Management of Renewable Resources. Newyork : Mc Graw-Hill.

(ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก : สำนักหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

แนวคิดเกี่ยวกับเชฟ (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก : http://jobnorththailand.com/learning/100work/work122.php

โนว่าแอ็ค. (2550): ออนไลน์ อ้างอิงจาก Loundon and Bitta.1988: 368)

(ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก : http://dnfe5.nfe.go.th/ilp/42009/42009-41.htm

(ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก : http://www.mcot.net/site/content?id=50c09153150ba0d60f0000f2)

(ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก : http://www.thaifoodtoworld.com/home/governmentpol.php

(ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก : http://www.novabizz.com/NovaAce/Motives.htm

(ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก : https://www.gotoknow.org/posts/302421 Maslow (1962 : 58)

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2019-07-02

รูปแบบการอ้างอิง

ศรีอรุณ จ., & สุทธา ว. (2019). แรงจูงใจต่ออาชีพเชฟของนักศึกษาโรงเรียนการเรือน มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต. Trends of Humanities and Social Sciences Research, 3(2), 2–10. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/Humanties-up/article/view/200548

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย