การร้องขอกันส่วนของบุคคลผู้อยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิของตนได้อยู่ก่อนตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ไม่สุจริตโดยอ้างสัญญาประนีประนอมยอมความตาม คำพิพากษา

ผู้แต่ง

  • วาสินี นันทขว้าง ชาวเหนือ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา

คำสำคัญ:

การร้องขอกันส่วน, บุคคลผู้อยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิของตนได้อยู่ก่อน, , สัญญาจะซื้อจะขาย, ไม่สุจริต, สัญญาประนีประนอมยอมความ

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาถึงหลักเกณฑ์การร้องขอกันส่วน ตามมาตรา 287 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในส่วนของบุคคลผู้อยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิของตนได้อยู่ก่อนตามสัญญาจะซื้อจะขาย ตามมาตรา 1300 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ 2) เพื่อศึกษาถึงแนวปฏิบัติของผู้พิพากษาที่จะสั่งคดีเกี่ยวกับคำร้องขอกันส่วนของบุคคลผู้อยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิของตนได้อยู่ก่อนตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ไม่สุจริตโดยอ้างสัญญาประนีประนอมยอมความตามคำพิพากษา 3) เพื่อศึกษาถึงวิธีการแก้ไขสำหรับเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ถ้าบุคคลผู้อยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิของตนได้อยู่ก่อนตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ไม่สุจริตมาดำเนินการยื่นคำร้องขอกันส่วน โดยศึกษาจากการหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการร้องกันส่วนตามกฎหมายรวมทั้งคำพิพากษาศาลฎีกา เป็นการศึกษาเชิงคุณภาพในลักษณะ Concept Paper ประกอบด้วยการค้นคว้าจากเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และการสัมภาษณ์จากผู้มีหน้าที่ตามกฎหมายเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เช่น ผู้พิพากษา เจ้าพนักงานบังคับคดี เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา

ผลการศึกษาพบว่า เมื่อเจ้าหนี้ตามคำพิพากษายึดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาเพื่อชำระหนี้นั้น บางครั้งอาจเกิดกรณีการร้องขอกันส่วนของบุคคลภายนอก โดยอ้างว่าตนเป็นบุคคลผู้อยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิของตนได้อยู่ก่อนตามสัญญาจะซื้อจะขายโดยอ้างว่ามีสัญญาประนีประนอมยอมความตามคำพิพากษา ซึ่งการทำสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นเกิดขึ้นจากความไม่สุจริตและการฉ้อฉลของลูกหนี้ตามคำพิพากษาอันเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินและบุคคลภายนอกนั่นเอง โดยเมื่อศาลที่มีอำนาจพิจารณาคำร้องกันส่วนได้รับคำร้องดังกล่าวแล้วจะมีคำสั่งอนุญาตตามคำร้องทันที มีผลทำให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาไม่สามารถได้รับชำระหนี้ได้ ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมอย่างมากในการบังคับชำระหนี้ดังกล่าว อันจะส่งผลถึงความไม่ยุติธรรมและการใช้ช่องว่างของกฎหมายที่แฝงอยู่ในการบังคับใช้กฎหมาย แสดงให้เห็นถึงการนำกฎหมายมาใช้อย่างไม่มีประสิทธิภาพนั่นเอง ดังนั้น ทุกภาคส่วนในกระบวนการยุติธรรมทางแพ่งทั้งระบบต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว 

เอกสารอ้างอิง

กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม. คู่มือติดต่อราชการกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม.พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ; 2558.

ไกรฤกษ์ เกษมสันต์. คำอธิบายประมวลกฎหมายอาญาภาคความผิด มาตรา 288 ถึง 366. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ:สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา;2554. หน้า 360-371.

ประเสริฐ เสียงสุทธิวงศ์. สัมมนากฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง. กรุงเทพฯ: อภิโชติ; 2558.

วิเชียร ดิเรกอุดมศักดิ์. กฎหมายแพ่งพิสดาร เล่ม 4 (ฉบับปรับปรุงใหม่ ปี 2559). กรุงเทพฯ: แสงจันทร์การพิมพ์; 2559.

วิเชียร ดิเรกอุดมศักดิ์. กฎหมายวิ.แพ่งพิสดาร เล่ม 2 (ฉบับปรับปรุงใหม่ ปี 2559). กรุงเทพฯ: แสงจันทร์การพิมพ์; 2559.

วิเชียร ดิเรกอุดมศักดิ์. กฎหมายวิ.แพ่งพิสดาร เล่ม 3 (ฉบับปรับปรุงใหม่ ปี 2559). กรุงเทพฯ: แสงจันทร์การพิมพ์; 2559.

วิเชียร ดิเรกอุดมศักดิ์. กฎหมายอาญาพิสดาร เล่ม 2 (ฉบับปรับปรุงใหม่ปี 2559). พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ:แสงจันทร์การพิมพ์;2559. หน้า 469-484.

สมชัย ฑีฆาอุตมากร. สัมมนากฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง 1. กรุงเทพฯ: กรุงสยาม พับลิชชิ่ง จำกัด; 2559.

สมชัย ฑีฆาอุตมากร. สัมมนากฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง 2. กรุงเทพฯ: พลสยาม พริ้นติ้ง (ประเทศไทย); 2558.

สมชัย ฑีฆาอุตมากร. สัมมนากฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง 3. กรุงเทพฯ: กรุงสยาม พับลิชชิ่ง จำกัด; 2559.

เสนีย์ ปราโมช. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ว่าด้วยนิติกรรมและหนี้ เล่ม 1 (ภาค 1-2). พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ:วิญญูชน จำกัด;2559. หน้า 40-100.

อุดม เฟื่องฟุ้ง. คำอธิบายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ภาค 1 ตอน 2. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ: กรุงสยาม พับลิชชิ่ง จำกัด; 2555.

สมยศ เชื้อไทย, คำอธิบายวิชากฎหมายแพ่ง หลักทั่วไป (กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์วิญญูชน จำกัด; 2555), หน้า 153.

วิเชียร ดิเรกอุดมศักดิ์, กฎหมายแพ่งพิสดาร เล่ม 4 (ฉบับปรับปรุงใหม่ ปี 2559) (กรุงเทพฯ: แสงจันทร์การพิมพ์; 2559), หน้า 230.

ประเสริฐ เสียงสุทธิวงศ์, สัมมนากฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (กรุงเทพฯ: อภิโชติ; 2558), หน้า 374-382.

สราวุธ ปิติยาศักดิ์, คำอธิบายกฎหมายลักษณะทรัพย์ (กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์นิติธรรม, 2555), หน้า 77.

เผยแพร่แล้ว

2019-07-01

รูปแบบการอ้างอิง

นันทขว้าง ชาวเหนือ ว. (2019). การร้องขอกันส่วนของบุคคลผู้อยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิของตนได้อยู่ก่อนตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ไม่สุจริตโดยอ้างสัญญาประนีประนอมยอมความตาม คำพิพากษา. Trends of Humanities and Social Sciences Research, 4(2), 55–64. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/Humanties-up/article/view/199103

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย