การประเมินความต้องการจำเป็นด้านการจัดการเรียนรู้ตามแนวสะเต็มศึกษา ในการพัฒนาตนเองของครูผู้สอนระดับประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 2
คำสำคัญ:
การประเมินความต้องการจำเป็น, การจัดการเรียนรู้ตามแนวสะเต็มศึกษา, ครูผู้สอนระดับประถมศึกษาบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความต้องการจำเป็นและจัดลำดับความต้องการจำเป็นด้านการจัดการเรียนรู้ตามแนวสะเต็มศึกษาในการพัฒนาตนเองของครู 2) เปรียบเทียบความต้องการจำเป็นของครูตามประสบการณ์การอบรมสะเต็มศึกษาและประสบการณ์ทำงาน 3) เสนอแนะแนวทางการพัฒนาตนเองของครู กลุ่มตัวอย่างตอบแบบสอบถาม คือ ครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 2 จำนวน 353 คน และใช้แบบสัมภาษณ์ศึกษานิเทศก์และครู 8 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วย สถิติที่ค่าดัชนีความต้องการจำเป็น และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัย พบว่า
- ค่าเฉลี่ยความต้องการจำเป็นภาพรวมและรายด้านทั้งสภาพที่เป็นจริงและสภาพที่ควรจะเป็นทุกด้าน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เรียงลำดับความต้องการจำเป็น 5 ด้านคือ 1) การศึกษาสาระการเรียนรู้และกระบวนการออกแบบทางวิศวกรรมในลักษณะบูรณาการ 2) การจัดการเรียนรู้ที่เน้นปัญหาเป็นฐาน 3) การจัดการความรู้แบบโครงงานเป็นฐาน 4) การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และ 5) การวัดและประเมินผลตามสภาพจริง
- ครูที่มีประสบการณ์อบรมสะเต็มศึกษาต่างกัน และมีประสบการณ์การทำงานต่างกัน มีความต้องการจำเป็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
- ครูต้องใฝ่เรียนรู้ และอบรมสม่ำเสมอในทั้ง 5 ด้านอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ติดตามความก้าวหน้าและการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ เพื่อนำมาบูรณาการในรายวิชาที่สอน รวมถึงต้องแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนร่วมงาน และร่วมออกแบบกิจกรรมกับนักเรียน
References
จำรัส อินทลาภาพร มารุต พัฒผล และ วิชัย วงษ์ใหญ่. (2558). การศึกษาแนวทางการจัดการเรียนรู้ตามแนวสะเต็มศึกษาสาหรับผู้เรียนระดับประถมศึกษา. วารสารวิชาการ Veridian E-Journal, Silpakorn University สาขามนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศิลปะ. 8(1), 62-74.
ทิศนา แขมมณี. (2555). ศาสตร์การสอน องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. กรุงเทพมหานคร : บริษัทด่านสุทธาการพิมพ์.
ปาริชาติ สันติเลขวงษ์. (2556). การศึกษาสมรรถนะหลักของครูตามเกณฑ์ตัวบ่งชี้สมรรถนะครูไทย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ของกลุ่มโรงเรียนบางละมุง 1 สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 3. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยบูรพา.
ปิ่นลดา ฮดมาลี. (2558). การประเมินความต้องการจำเป็นในการพัฒนาตนเองด้านสมรรถนะสำคัญของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 1. (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย.
มัณฑรา ธรรมบุศย์. (2545). การพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้โดยใช้ PBL Problem-Based Learning, วารสารวิชาการการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน, 5 (2), 11-17.
ราเชนทร์ นพณัฐวงศกร ปุณณ์พิชญา รอดเปล่ง และ อาริยาพัชร์ น้อยวิไล. (2559). การฝึกอบรม: หัวใจสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์.การประชุมวิชาการระดับชาติสหวิทยาการเอเชียอาคเนย์ ครั้งที่ 3. มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์.กรุงเทพมหานคร.
วารุณี คงมั่นกลาง. (2557). การสอนแบบบูรณาการคืออะไร?. กันยายน. สืบค้นจาก :https://www.gotoknow.org/posts/400257.
วัฒนาพร ระงับทุกข์. (2542). การจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง. กรุงเทพฯ : เลิฟ แอนด์เลิฟเพรส.
ส.วาสนา ประวาลพฤกษ์. (2539). การประยุกต์ใช้การวัดและประเมินความสามารถจริงในสภาพการเรียนการสอน. วารสารวัดผลการศึกษา, 24(51), 32-40.
สุวิมล ว่องวานิช. (2550). การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็น. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2553). แผนการศึกษาแห่งชาติฉบับปรับปรุง (2552 – 2559).
สําเริง บุญเรืองรัตน์. (2540). สติปัญญากับสมองของมนุษย์.วารสารการวัดผลการศึกษา. 19(56), 36-43.
อานนท์ เอื้ออุมากุล. (2549). ผลของการใช้เกมดิจิทอลในการเรียนฟิสิกส์ที่มีต่อความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณและความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย กรุงเทพมหานคร. กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
ผู้นิพนธ์ต้องรับผิดชอบข้อความในบทนิพนธ์ของตน มหาวิทยาลัยพะเยาไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับบทความที่ตีพิมพ์เสมอไป ผู้สนใจสามารถคัดลอก และนำไปใช้ได้ แต่จะต้องขออนุมัติเจ้าของ และได้รับการอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน พร้อมกับมีการอ้างอิงและกล่าวคำขอบคุณให้ถูกต้องด้วย
The authors are themselves responsible for their contents. Signed articles may not always reflect the opinion of University of Phayao. The articles can be reproduced and reprinted, provided that permission is given by the authors and acknowledgement must be given.