Knowledge and Exercise Behaviors of Student and Staff at Chitralada Technology Institute

Main Article Content

Onuma Natseeta

Abstract

A study of knowledge and exercise behavior of students and personnel of the Chitralada Technology Institute has the following objectives: 1) to study knowledge of exercise, 2) to study exercise behavior, and 3) to study the relationship between knowledge and exercise behavior of students and personnel of Chitralada Technology Institute. The sample consisted of 275 students and staff. The research instrument was a questionnaire. The data was analyzed by frequency, percentage, and correlation test by Chi-square.


The results showed that most of the sample were male 57.50%, were students 75.60%, aged 20 years or younger 47.27%, studying in the second year 32.21%, had a high level of exercise knowledge representing 95.30 percent. They exercised by walking, cycling, and running on Friday, Saturday and Sunday from 4:00 PM to 6:00 PM, 3-4 times/week, more than 30 minutes/time. Most of them exercise at their houses and the areas around their villages and public parks. The reasons for exercise were friends persuaded, keeping good shapes, and controlling weight/losing weight. The knowledge and exercise behavior were significantly related at .05.

Article Details

Section
Research Articles

References

กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2563). รายงานผลการสำรวจข้อมูลการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาของประชาชน ประจำปี 2563. สืบค้นเมื่อ 9 กันยายน 2566 สืบค้นจาก https://www.dpe.go.th/manual-files-432891791793.

การกีฬาแห่งประเทศไทย. (2564). พฤติกรรมการออกกำลังกายและเล่นกีฬาของประชาชนประจำปี พ.ศ. 2564. สืบค้นเมื่อ 9 กันยายน 2566, สืบค้นจาก https://www.sat.or.th/427854-2/

เจริญ กระบวนรัตน์. (2558). เกษตรนวัตกรรม รวบรวมผลงานนวัตกรรมทางการค้นคว้าวิจัยในวาระครบรอบ 72 ปี แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. ยาง ยืดชีวิตพิชิตโรค. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

ต่อศักดิ์ แก้วจรัสวิไล, ธีรนันท์ ตันพานิชย์, ศุภวรรณ วงศ์สร้างทรัพย์, นิรอมลี มะกาเจ, อำนวย ตันพานิชย์, เพ็ญนิภา พูลสวัสดิ์, ภาณุ กุศลวงศ์และเตชิตา ไชยอ่อน. (2564). แนวทางการจัดกิจกรรมการออกกำลังกายในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19). วารสารสุข ศึกษา พลศึกษา และสันทนาการ. 47(1), 15.

นันทิชา ไกรสินธุ์, จุฑามาศ สิงห์ชัยนรา, สมบัติ อ่อนศิริ และสมบูรณ์ อินทร์ถมยา. (2564). ความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ในการออกกำลังกายกับพฤติกรรมในการออกกำลังกายของครูในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี. วารสารนาคบุตรปริทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช, 13 (1), 114.

พัชราภา ไชยรักษ์, ชาญชัย ชอบธรรมสกุล, รัตนา เฮงสวัสดิ์ และวิมลมาลย์ สมคะเน. (2561). พฤติกรรมการออกกำลังกายของผู้มาใช้บริการการกีฬาแห่งประเทศไทย, วารสารสุขศึกษา พลศึกษา และสันทนาการ, 47(2), 207.

พัชรินทร์ บุญรินทร์ สุภลักษณ์ เชยชมและวลัยพรนันท์ ศุภวัฒน์. (2558). ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการออกกำลังกายของนักศึกษาพยาบาล. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ, 33(2), หน้า 176.

วิลาวรรณ นิลประเสริฐและฐนันวดี สันติวรคุณ. (2553). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการออกกำลังกายของประชากรในค่ายธนะรัชต์: กรณีศึกษา หมู่บ้าน ศร. อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์. วิทยานิพนธ์ปริญญาบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการธุรกิจและภาษาอังกฤษ, มหาวิทยาลัยศิลปากร.

วันดี เผื่อนเอี่ยม. (2559). ความสัมพันธ์ระหว่างความรู้และพฤติกรรมการออกกำลังกายของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชลบุรี ปีการศึกษา 2558. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพลศึกษา, สถาบันการพลศึกษา ชลบุรี.

วัลลภ รัฐฉัตรานนท์. (2562). การหาขนาดตัวอย่างที่เหมาะสมสำหรับการวิจัย: มายาคติในการใช้สูตรของทาโร่ ยามาเน่ และเครทซี่-มอร์แกน. วารสารสหวิทยาการวิจัย: ฉบับบัณฑิตศึกษา, 8(1), หน้า 18.

สายใจ เพ็งที. (2560). การศึกษาพฤติกรรมการออกกำลังกายของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ปีการศึกษา 2560. งานวิจัยที่ได้รับทุนอุดหนุนจากสถาบันวิจัยและพัฒนามหาวิทยาลัยราชภัฏ มหาสารคาม ปีการศึกษา 2560, มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.). (2557). การออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพ. สืบค้นเมื่อ 9 กันยายน 2566 สืบค้นจาก https://www.thaihealth.or.th.

อรนภา ทัศนัยนาและฤกษ์ชัย แย้มวงษ์. (2562). พฤติกรรมการออกกำลังกายของนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ สกลนคร. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี, 30(1), หน้า 38-53.