The Effectiveness of Exercise Behaviors Promotion Program for Non-Communicable Diseases in Elderly at Sa Kaeo District, Bueng Sam Phan, Phetchabun
Main Article Content
Abstract
This research was a Quasi – Experimental research and the objective to study The Effectiveness of Exercise Behaviors Promotion Program for Non-Communicable Diseases in Elderly of Sa Kaeo District, Bueng Sam Phan, Phetchabun.
This research was conducted by studying before and after experiment. Sample was 60 elderly divided into 2 groups ; experimental group and control group. Each groups had 30 elderly. The experiment instrument was effectiveness of exercise behaviors promotion program and questionnaire developed by a researcher for data collection. Data were analyzed by using analytical statistics, percentage, mean, standard deviation, dependent samples t-test and independent samples t-test
The study research had shown as follows :
- After the experiment The experimental group had better knowledge scores. Attitudes about non-communicable diseases Cognitive violence And the risk of disease occurrence and exercise behaviors of the elderly than before the experiment at the statistically significance at level .05
- After the experiment The experimental group had better knowledge scores. Attitudes about non-communicable diseases Cognitive violence And the risk of disease occurrence and exercise behavior of the elderly than the control groups at the statistically significance at level .05
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
Critical thinking in journals is the right of the author. The Association of Health Education, Physical Education and Recreation of Thailand is not always required, to create diversity in ideas and creativity.
ความคิด ข้อวิพากษ์ในวารสารเป้นสิทธิของผู้เขียน สมาคมสุขศึกษา พลศึกษา และสันทนาการแห่งประเทศไทยไม่จำเป็นต้องเห็นชอบด้วยเสมอไป เพื่อให้เกิดความหลากหลายในความคิดและความสร้างสรรค์
References
จารุวรรณ ประดา, ณิราวรรณ กุลวงศ์, ปรารถนา พรมวัง และเบญจวรรณ ภูชัน. (2553). ผลการใช้โปรแกรมครอบครัวต่อ การรับรู้สมรรถนะ พฤติกรรมการดูแลของครอบครัวและพัฒนาการของผู้ที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ และสติปัญญา. สถาบันราชานุกุล กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข.
ธวัชชัย วรพงศธร. (2538). รูปแบบการวิจัยทดลองประยุกต์ สาหรับงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ. กรุงเทพมหานคร: เอช – เอน การพิมพ์.
ปัญญา ไข่มุก. 2560. แกว่งแขนวันละ 30 นาที ลดพุงลดโรค. สืบค้นเมื่อ 14 กันยายน 2562, สืบค้นจาก https://www.thaihealth.or.th.
พรเทพ ศิริวนารังสรรค์. (2562). แกว่งแขน ปรับสมดุลน้ำเหลือง : กินดี อยู่ดี กับหมอพรเทพ. สืบค้นเมื่อ 12 กันยายน 2562, สืบค้นจาก https://www.youtube.com
มยุรา สร้อยชื่อ, ศรัณญา เบญจกุล, มณฑา เก่งการพานิช และธราดล เก่งการพานิช. (2560). ผลของโปรแกรมการออกกำลังกายแกว่งแขนโดยการประยุกต์ทฤษฎีการรับรู้ความสามารถตนเองร่วมกับแรงสนับสนุนทางสังคม ของผู้สูงอายุ ระดับต้นในกรุงเทพมหานคร. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กรุงเทพ, 33(2). 73-83
ยุพา จิ๋วพัฒนกุล, อุบลวรรณา เรือนทองดี และฐิติรัตน์ ทับแก้ว. (2555). ผลของโปรแกรมการออกกำลังกายโดยการแกว่งแขนร่วมกับครอบครัวต่อพฤติกรรมการออกกำลังกายของผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูงชนิดไม่ทราบสาเหตุ. วารสารพยาบาลศาสตร์, 30(1). 46-57.
วิมลรัศมิ์ พันธุจิรภาค. (2554). ผลของโปรแกรมการออกกำลังกายเพื่อส่งเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุหญิงจังหวัดสมุทรปราการ. วิทยานิพนธ์สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยบูรพา.
ศักดิ์ อนุสรณ์. (2557). กายบริหารบำบัดด้วยวิธีแกว่งแขน. (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์สุขภาพใจ.
ศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ. (2562). โรคอ้วน และการดูแลตนเอง. สืบค้นเมื่อ 13 กันยายน 2562, สืบค้นจาก http://www.bangkokhealth.com/health/article
สมศักดิ์ ฉันทนารมณ์. (2559). การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมประชาชนกลุ่มเสี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ตำบลท่าตะคร้ออำเภอหนองหญ้าปล้อง จังหวัดเพชรบุรี. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์, มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี.
สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย. (2562). การรักษาเบาหวานชนิดที่ 2. สืบค้นเมื่อ 12 กันยายน 2562, สืบค้นจาก https://www.dmthai.org/index.php/understand-diabetes/diabetes-2/499-type-2-diabetes-treatmen
สารานุกรมไทย ฉบับเยาวชน. (2562). ระบบน้ำเหลือง. สืบค้นเมื่อ 24 กันยายน 2562, สือบค้นจาก http://kanchanapisek.or.th/kp6/sub/book/book.php?book=8&chap=2&page=t8-2-infodetail11.html
สุภาพร คำสม, แสงทอง ธีระทองคำ และกมลรัตน์ กิตติพิมพานนท์. (2560). ผลของโปรแกรมการออกกำลังกายแบบแกว่งแขนต่อระดับน้ำตาลสะสมในเลือดและภาวะโภชนาการในผู้สูงอายุที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ในชุมชน. วารสารการปฏิบัติการพยาบาลและการผดุงครรภ์ไทย, 4(2). 46-60.
สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข. (2558). ระบบเฝ้าระวังควบคุมป้องกันโรคเบาหวานความดันโลหิตสูงในประเทศไทย. (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2555). กิจกรรมทางกาย กิจกรรมดีดี เพื่อสุขภาพที่ดี. สืบค้นเมื่อ 10 กันยายน 2562, สืบค้นจาก http://thaincd.com/goodstorie-view
สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2559). รายงานประจำปี.
สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2559). รู้ทันมหันตภัยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง..ภัยเงียบใกล้ตัว. (พิมพ์ครั้งที่ 3). นนทบุรี: สำนักโรคไม่ติดต่อ.
อาภาพร เผ่าวัฒนา, สุรินธร กลัมพากร, สุนีย์ ละกำปั่น และขวัญใจ อำนาจสัตย์ซื่อ. (2554). การสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในชุมชน:การประยุกต์แนวคิดทฤษฎีสู่การปฏิบัติ. (พิมพ์ครั้งที่ 1). โรงพิมพ์คลังนานาวิทยา.
International Diabetes Federation. (2015). Diabetes. IDF DIABETES ATLAS Seventh Edition 2015. Available from https://www.idf.org/e-library/epidemiology-research/diabetes-atlas/13-diabetes-atlas-seventh-edition.html
Polit, D.F., and Hunger, B.P. (1995). Nursing research: principles and method. 5th ed, Philadelphia: Lippincott.
Rosenstock, LM. (1974). The Health Belief Model and Preventive Health Behavior. Health Education Monograph, 2(4). 330-335.