การจัดประสบการณ์เรียนรู้ตามแนวคิดโรงเรียนในป่าเพื่อพัฒนาทักษะทางสังคม ด้านการจัดการตนเองของเด็กปฐมวัย
คำสำคัญ:
เด็กปฐมวัย, การจัดประสบการณ์เรียนรู้ตามแนวคิดโรงเรียนในป่า, ทักษะทางสังคมด้านการจัดการตนเองของเด็กปฐมวัยบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะทางสังคมด้านการจัดการตนเองของเด็กปฐมวัยโดยใช้แนวคิดการจัดประสบการณ์เรียนรู้โรงเรียนในป่า กลุ่มตัวอย่างการวิจัย คือ เด็กปฐมวัยอายุระหว่าง 4-6 ปี จำนวน 10 คน ที่กำลังศึกษา
ในระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 และ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 โรงเรียนบ้านหนองขอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอำนาจเจริญ เครื่องมือในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดประสบการณ์เรียนรู้ตามแนวคิดโรงเรียนในป่า 2) แบบสังเกตพฤติกรรมทักษะทางสังคมด้านจัดการตนเองของเด็กปฐมวัย และ 3) แบบบันทึกพฤติกรรมทักษะทางสังคมด้านการจัดการตนเองของเด็กปฐมวัย วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ร้อยละและค่าเฉลี่ย การวิจัยได้ดำเนินการผ่านการวิจัยเชิงปฏิบัติการ 2 รอบ
ผลวิจัยพบว่า 1) วงจรปฏิบัติการที่ 1 เด็กปฐมวัยมีคะแนนทักษะทางสังคมด้านการจัดการตนเองเฉลี่ยเท่ากับ 60.90
จากคะแนนเต็ม 108 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 56.38 มีเด็กปฐมวัยผ่านเกณฑ์ จำนวน 3 คน และไม่ผ่านเกณฑ์ จำนวน 7 คน
2) วงจรปฏิบัติการที่ 2 เด็กปฐมวัยมีคะแนนทักษะทางสังคมด้านการจัดการตนเองเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเท่ากับ 82.40 จากคะแนนเต็ม 108 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 76.29 มีเด็กปฐมวัยที่ผ่านเกณฑ์จำนวน 10 คน พบว่า มีคะแนนเฉลี่ยสูงขึ้นจากวงจรปฏิบัติการที่ 1 และผ่านเกณฑ์ทุกคน
เอกสารอ้างอิง
กิตติพร ปัญญาภิญโญผล. (2549). วิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียน. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร, 1(1), 1–12.
กุลยา ตันติผลาชีวะ. (2551). การจัดกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย. มิตรสัมพันธ์กราฟฟิค.
เกษร ใหม่ดี. (2562). ผลการใช้กิจกรรมแนะแนวเพื่อพัฒนาทักษะทางสังคมของเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดกาญจนบุรี. การประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 9. 575–586.มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
เบญจา แสงมลิ. (2557). ผลของการใช้เกมการเล่นกลางแจ้งที่มีต่อพฤติกรรมร่วมมือของเด็กปฐมวัย. วารสารครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชมงคลธัญบุรี, 1(1), 1–15.
พิชญา ปิยจันทร์. (2561). “ฟอเรสต์ สคูล” (Forest School) โรงเรียนทางเลือกในป่ากว้างสำหรับทุกวัย. วารสารสิ่งแวดล้อม, 22(2), 5–13.
สุจินดา ขจรรุ่งศิลป์. (2555). การศึกษาพฤติกรรมการมีวินัยในตนเองของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์แบบโครงการ [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
สุรางค์ โค้วตระกูล. (2556). จิตวิทยาการศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ 11). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สมโภชน์ เอี่ยมสุภาษิต. (2556). ทฤษฎีและเทคนิคการปรับพฤติกรรม (พิมพ์ครั้งที่ 8). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2552). ทศวรรษที่สองของการปฏิรูปการศึกษา. โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทยจำกัด.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2558). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 พ.ศ. 2558–2564. สำนักนายกรัฐมนตรี.
โรงเรียนบ้านหนองขอน. (2566). รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา (ปฐมวัย) Self Assessment Report: SAR การศึกษาปฐมวัย. โรงเรียนบ้านหนองขอน.
โรงเรียนรุ่งอรุณ. (2562). หลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัยโรงเรียนรุ่งอรุณ. สานอักษร.
Berger, D. (2021, May 10). Policy brief: Self-management across the curriculum: A holistic model for student,
faculty, and staff development. https://www.researchgate.net/publication/242711223
Brewer, J. A. (1995). Introduction to early childhood education: Preschool through primary grades (2nd ed.). Allyn and Bacon.
Bridgwater College. (n.d.) Nursery Nursing Group. Bridgwater College.
Gerhardt, M. W. (2021, May 10). Individual self-management training in management education. https://www.researchgate.net/publication/268425764
Institute for Outdoor Learning. (2018, February 1). What is Forest School?. http://www.forestschoolassociation.org/what-is-forest-school/
Kanfer, F. H., & Gaelick-Buys, L. (1988). Self-management methods. In F. H. Kanfer & A. P. Goldstein (Eds.), Helping people change: A textbook of methods. Pergamon Press.
Syed, Z. (2023, April 21). Young kids learn the realities of climate change in forest schools. Popular Science. https://www.popsci.com/environment/forest-schools-climate-change/
Yates, B. T. (1986). Applications in self-management. Wadsworth.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว