คุณภาพชีวิตการทำงานของบุคลากรในโรงเรียนเตรียมทหาร
คำสำคัญ:
คุณภาพชีวิตการทำงาน, ประสิทธิภาพการทำงาน, ขวัญกำลังใจบทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาคุณภาพชีวิตการทำงานของบุคลากรในโรงเรียนเตรียมทหารและ 2) ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตในการทำงานของบุคลากรในโรงเรียนเตรียมทหาร เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่น 0.938 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ บุคลากรในโรงเรียนเตรียมทหาร จำนวน 874 คน การคำนวณขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตรของทาโร่ยามาเน่ (Taro Yamane) ได้ขนาดกลุ่มตัวอย่างจำนวน 274 คน ใช้วิธีสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ (Stratified Random Sampling) โดยมีสัดส่วนประชากรและกลุ่มตัวอย่างในแต่ละหน่วยงาน จำแนกตาม เพศ อายุ การศึกษา สถานภาพสมรส ตำแหน่ง ชั้นยศ รายได้ จำนวนปีในการทำงาน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ค่า t และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว
ผลการวิจัย พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็นเกี่ยวกับลักษณะงานและคุณภาพชีวิตการทำงานโดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก เมื่อจำแนกเป็นรายด้านพบว่า ด้านที่มีระดับคุณภาพชีวิตการทำงานสูงสุด คือด้านความพึงพอใจในการทำงาน รองลงมาคือ ด้านสภาพล้อมในการทำงาน และด้านที่มีระดับคุณภาพชีวิตการทำงานต่ำสุด คือ ด้านค่าตอบแทน/สวัสดิการ ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า บุคลากรในโรงเรียนเตรียมทหาร ที่มีอายุ และ ตำแหน่ง แตกต่างกัน ส่งผลต่อระดับคุณภาพชีวิตโดยภาพรวม แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
เอกสารอ้างอิง
จุฑามาศ อ้วนแก้ว. (2564). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อคุณภาพชีวิตการทำงาน กรณีศึกษาพนักงานบริษัทโมเดิร์นเทรดในจังหวัดพิษณุโลก. วารสารวิทยาลัยการจัดการ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลสงคราม, 3(2), 26-38.
นอรีนี ตะหวา. (2565). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับระดับคุณภาพชีวิต ของกลุ่มวัยทำงานในชุมชนเทศบาลเมืองปากพูน จังหวัดนครศรีธรรมราช. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 32(1), 31-42.
ปิยาภรณ์ พรหมทัต. (2564). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อคุณภาพชีวิตการทำงานของแรงงานในอุตสาหกรรมชิ้นส่วน และอะไหล่ยานยนต์ เขตภาคกลางของประเทศไทย. วารสารวิชาการวิทยาลัยสันตพล, 7(2), 167-177.
ปัณณพร ง้วนพันธ์. (2561). คุณภาพชีวิตในการทำงานของบุคลากรสำนักงานเลขานุการกรมศุลกากร. การค้นคว้าอิสระ บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการ. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
ปริญ กัญจนาทิพย์. (2565). คุณภาพชีวิตการทำงานที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการปฏิบัติงานของบุคลากรกรมการขนส่งจังหวัด ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 9(7), 354-371.
วิลาวัลย์ ม่วงพลับ. (2566). คุณภาพชีวิตการทำงาน และความพึงพอใจในการทำงาน ที่ส่งผลต่อความผูกพันต่อองค์การ ของบุคลากรสายปฏิบัติการในมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. วิทยานิพนธ์ บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการ. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
สมชาติ อ่อนประดิษฐ์. (2559). เปรียบเทียบคุณภาพชีวิตการทำงานระหว่างลูกจ้างประจำกับพนักงานราชการ ของกรมการขนส่งทหารบก. ดุษฎีนิพนธ์ รัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์. ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยปทุมธานี.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2565). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566-2570). สืบค้นเมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2568, จาก http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2565/E/258/T_0001.PDF
อาทิตยา แสงกฤษเพ็ชร์. (2564). กลยุทธ์ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่มีผลต่อประสิทธิผลการปฏิบัติงานของข้าราชการทหารชั้นประทวน กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1. วิทยานิพนธ์ บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการ. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรังสิต.
Bluestone, I. (1977). Implementing quality of work life programs. Management Review, 66,43-46.
Cascio, W. F. (2003). Managing human resources: Productivity quality of work life profits. New York: McGraw–Hill.
Hackman, J. R. and Suttle, L. J. (1997). Improving life at work, behavioral science approach to organizational change. Beverly Hill CA: Goodyear.
Lewin, D. (1981). Collective bargaining and the quality of work life. Organizational Dynamics, 10(Autumm), 37-53.
Rose, D. H. and Meyer, A. (2006). A practical reader in Universal Design for Learning. Cambridge, MA: Harvard Education Press.
Walton, R. E. (1973). Quality of working life: What is it?. Slone Management Review, 15, 11-21.
Yamane, T. (1967). Statistics: An Introductory Analysis (2nd ed.). New York: Harper and Row.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว