ความสัมพันธ์เชิงดุลยภาพระยะยาวและระยะสั้นระหว่างความเหลื่อมล้ำทางรายได้ กับความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา กรณีศึกษา ประเทศไทย
คำสำคัญ:
ความเหลื่อมล้ำทางรายได้, ความเหลื่อมล้ำทางศึกษา, ความสัมพันธ์เชิงดุลยภาพบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์เชิงเหตุผลระหว่างความเหลื่อมล้ำทางรายได้และการศึกษา2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์เชิงดุลยภาพระยะยาวและระยะสั้นระหว่างความเหลื่อมล้ำทางรายได้กับความเหลื่อมล้ำทางศึกษาในประเทศไทย ซึ่งใช้ข้อมูลทุติยภูมิตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 - 2564 โดยแบบจำลองที่ใช้ในการศึกษา ดังนี้ 1) การทดสอบความสัมพันธ์เชิงเหตุผล 2) การทดสอบดุลยภาพระยะยาว และ 3) การทดสอบดุลยภาพระยะสั้น ผลการศึกษา พบว่า ความเหลื่อมล้ำทางรายได้และทางการศึกษามีความสัมพันธ์เชิงเหตุผลซึ่งกันและกัน และจากการทดสอบความสัมพันธ์เชิงดุลยภาพ พบว่า ตัวแปรทั้งสองที่ใช้ในการศึกษามีความสัมพันธ์กันเชิงดุลยภาพระยะยาวและดุลยภาพระยะสั้น ดังนั้นจึงสรุปผลการศึกษาได้ว่า เมื่อความเหลื่อมล้ำทางรายได้ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน เนื่องจากโครงสร้างทางเศรษฐกิจของไทยจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีฐานรายได้ปานกลาง ทำให้รายได้ส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่กับกลุ่มคนที่มีรายได้สูง เป็นผลทำให้ประชาชนกลุ่มเปราะบางที่มีรายได้น้อยไม่สามารถเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานทางการศึกษาได้ ดังนั้น รัฐบาลควรทำนโยบายภาษีที่มีลักษณะในการส่งเสริมการแบ่งปันรายได้ และการให้สวัสดิการทางสังคมที่เหมาะสมสำหรับกลุ่มที่มีรายได้ต่ำ
เอกสารอ้างอิง
กัลยา วานิชย์บัญชา. (2546). การวิเคราะห์สถิติ: สถิติสำหรับการบริหารและการวิจัย (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย.
กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา. (2563). การศึกษาโลกสะท้อนไทย ความเหลื่อมล้ำที่ยังไม่หายไป. สืบค้นเมื่อ 7 พฤศจิกายน 2566, จาก https://www.the101.world/global-and-thai-education/
กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา. (2565). เปิดรายงานสถานการณ์ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา. สืบค้นเมื่อ
พฤศจิกายน 2566, จาก https://thevisual.thaipbs.or.th/equality/dropout/situation2022
คัทลียา จิตรัตน์ และสมพร ปั่นโภชา. (2566). วิเคราะห์โอกาสในการทำกำไรจากกลยุทธ์ Pair Trading ในตลาดแลกเปลี่ยน
เงินตราต่างประเทศ โดยการทดสอบความสัมพันธ์เชิงดุลยภาพในระยะยาว. In Rangsit Graduate Research
Conference: RGRC, 18, 261-273.
ทิพย์พาพร ตันติสุนทร. (2562). การลดความยากจนและความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา. สืบค้นเมื่อ 14 พฤศจิกายน 2566,
จาก https://www.csdi.or.th/wp- content
ธนาคารโลก. (2566). ข้อมูลทุติยภูมิ. สืบค้นเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2566, จาก https://data.worldbank.org/
มัทยา บุตรงาม. (2555). ความสัมพันธ์ระหว่างความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและความเหลื่อมล้ำทางรายได้ในประเทศไทย.
วิทยานิพนธ์ บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
มูลนิธิยุวพัฒน์. (2566). คลื่น “ความเหลื่อมล้ำ” ทางการศึกษา ซัดเด็กไทยให้หายไประหว่างทาง ความยากซ้ำเติม “เด็กหลุด จาก
ระบบ”. สืบค้นเมื่อ 8 พฤศจิกายน 2566, จาก https://www.yuvabadhanafoundation.org/th
วรรณพงษ์ ดุรงคเวโรจน์. (2564). ความเหลื่อมล้ำโลก (Global Inequality) และการเปลี่ยนแปลงหลังโควิด. สืบค้นเมื่อ
พฤศจิกายน 2566, จาก https://www.the101.com
วริฤฐา บุญทนาวงค์. (2562). ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อความเหลื่อมล้ำทางรายได้ของประเทศไทย. วิทยานิพนธ์ เศรษฐศาสตร มหาบัณฑิต. กรุงเทพ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
สหประชาชาติ. (2566). เป้าหมายที่ 10: ลดความไม่เสมอภาคภายในประเทศและระหว่าง. สืบค้นเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2566, จาก https://www.sdgmove.com/2021/05/25/
สามารถ จันทร์สูรย์, ศุภกร คุรุการเกษตร และอภิชาติ มหาราชเสนา. (2564), กลยุทธ์การจัดการศึกษาเพื่อแก้ปัญหา
ความเหลื่อมล้ำและความยากจน. วารสาร มจร การพัฒนาสังคม, 6(1), 111-126.
Adegun, E. A., Olasupo, S. F., Aransiola, I. J., Kalejaiye, T. G. and Aderemiq, T. A. (2023). Role of Female Labour Participation in Reducing Income Inequality in ECOWAS Sub-Region. Izvestiya. Journal of Economics, Management and Informatics, 67(1), 60-79.
Ali, A. K. and Asfaw, D. M. (2023). Nexus between inflation, income inequality, and economic growth in Ethiopia. Plos one, 18(11). https://doi.org/10.1371/journal.pone.0294454
Angeles, A. C., Donaire, S. J., Reyes, R. B. and Cabauatan, R. (2021). The effect of gender inequality in education, labor force participation and economic opportunity on the income distribution of India. Journal Studi Guru dan Pembelajaran, 4(3), 781-794.
Azizah, S. N., Fauziyyah, N. E. and Qoyum, A. (2019). Short-run and Long-run Relationship between Economic Growth, Foreign Direct Investment, Trade Liberalization and Education on Income Inequality: Evidence from Indonesia. Journal of Islamic Finance, 8, 047-055.
Credit Suisse, (2022). Global Wealth Report 2023. Retrieved January 21, 2023, From https://www.credit-suisse.com/about-us/en/reports-research/global-wealth-
Crossman, A. (2021). The sociology of social inequality. Retrieved February 16, 2023,
From https://soc37.commons.gc.cuny.edu/wp-content/blogs
Deshpande, A., Goel, D. and Khanna, S. (2018). Bad karma or discrimination? Male–female wage gaps among salaried workers in India. World Development, 102, 331-344.
Engle, R. F. and Granger, C. W. J. (1987). Cointegration and error correction: representation, estimation and testing. Econometric, 55(2), 251-276.
Garcias, M. O. and Kassouf, A. L. (2021). Intergenerational mobility in education and occupation and the effect of schooling on youth’s earnings in Brazil. Economic, 22(2), 100-113.
Granger, C. W. J. (1969). Investigating causal relations by econometric models and cross-spectral methods. Econometric, 37(3), 424-438.
Kuznets, S. (1995). Economic Growth and Income Inequality. American Economic Review, 45(4), 1–28.
Pesaran, M. H. (2007). A simple panel unit root test in the presence of cross‐section dependence. Journal of applied econometrics, 22(2), 265-312.
Rahman, A., Tanjung, A. A., Ramli, R. and Arif, M. (2023). Determinants of income inequality in a time perspective in Indonesia. Economics Development Analysis Journal, 12(2), 231-242.
Shen, C. and Zhao, X. (2023). How does income inequality affect economic growth at different income levels? Economic research-Ekonomska istraživanja, 36(1), 864-884.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว