การพัฒนาความสามารถการอ่านออกเสียงและสะกดคำภาษาอังกฤษ โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโฟนิคสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

ผู้แต่ง

  • จารุมล ทิวาพัฒน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด
  • แสงจันทร์ กะลาม คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด
  • กชพร นำนาผล คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด
  • เพิ่มพร สุ่มมาตย์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด
  • อุมาพร ไวยารัตน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด

คำสำคัญ:

การอ่านสะกดคำภาษาอังกฤษ, การอ่านสะกดคำภาษาอังกฤษ, ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโฟนิคม, ความสามารถในการอ่านสะกดคำ, ความสามารถในการอ่านสะกดคำ

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโฟนิคของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้เกณฑ์ประสิทธิภาพ 75/75 2) เพื่อศึกษาผลการพัฒนาความสามารถในการอ่านออกเสียงและสะกดคำภาษาอังกฤษ โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโฟนิคของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยนักเรียนทุกคนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ขึ้นไป และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโฟนิค เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโฟนิค ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ประกอบด้วย 3 ชุดกิจกรรม ได้แก่ ชุดกิจกรรมที่ 1 เรื่อง การออกเสียง A-Z แบบโฟนิค, ชุดกิจกรรมที่ 2 เรื่อง การอ่านออกเสียงสระและพยัญชนะท้ายแบบโฟนิค และชุดกิจกรรมที่ 3 เรื่อง การอ่านออกเสียงผสมคำศัพท์ 2) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 10 แผน             3) แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน เป็นแบบปรนัยชุดคำอ่านคำภาษาอังกฤษ 20 ข้อ  และ 4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโฟนิค จำนวน 10 คำถาม ผลการศึกษา พบว่า

                   1) ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโฟนิคสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้เกณฑ์ประสิทธิภาพ 75/75 พบว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโฟนิคที่ผู้วิจัยได้พัฒนาขึ้นนั้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 76.29/77.50 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 2) ผลการพัฒนาความสามารถด้านการอ่านออกเสียงและสะกดคำภาษาอังกฤษ โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโฟนิคสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ทุกคนมีคะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 77.50 (S.D.= 1.10) ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือร้อยละ 70 3) ความพึงพอใจของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโฟนิค พบว่า โดยภาพรวมความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโฟนิค อยู่ในระดับพอใจมาก (  = 4.36, S.D. = 0.54)

References

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศตามหลักสูตร

แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

ตวงรัตน์ แซ่จง. (2564). การพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงสะกดคำภาษาอังกฤษ โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียง

โฟนิกส์ (Phonics) ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนทรงวิทยาเทพารักษ์. วารสารพัฒนศิลป์

วิชาการ, 5(2), 123-124.

พิมภรณ์ พวงชื่น และวิวัฒน์ มีสุวรรณ์. (2563). การพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและสะกดคำภาษาอังกฤษด้วยชุดกิจกรรม

การเรียนการสอนแบบโฟนิค สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1. วารสารวิชาการวิทยาลัยสันตพล,

(1), 19-29.

มาริษา พันเปรม. (2561). การประเมินสื่อการสอนโฟนิกส์สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 โรงเรียนในสังกัด กรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตหนองแขม. สารนิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษ. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศิลปากร.

โรงเรียนบ้านหนองหว้านาคำพัฒนา. (2565). ผลการทำสอบการอ่านคำภาษาอังกฤษแบบโฟนิค. ร้อยเอ็ด: โรงเรียนบ้านหนองหว้า

นาคำพัฒนา.

อัจจิมา ไชยชิต. (2563). การพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงสะกดคำภาษาอังกฤษ (Phonic) โดยใช้แบบฝึกทักษะของนักเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2. สมุทรปราการ: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต 2.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2024-04-30