การพัฒนาความสามารถการอ่านออกเสียงและสะกดคำภาษาอังกฤษ โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโฟนิคสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
คำสำคัญ:
การอ่านสะกดคำภาษาอังกฤษ, การอ่านสะกดคำภาษาอังกฤษ, ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโฟนิคม, ความสามารถในการอ่านสะกดคำ, ความสามารถในการอ่านสะกดคำบทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโฟนิคของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้เกณฑ์ประสิทธิภาพ 75/75 2) เพื่อศึกษาผลการพัฒนาความสามารถในการอ่านออกเสียงและสะกดคำภาษาอังกฤษ โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโฟนิคของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยนักเรียนทุกคนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ขึ้นไป และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโฟนิค เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโฟนิค ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ประกอบด้วย 3 ชุดกิจกรรม ได้แก่ ชุดกิจกรรมที่ 1 เรื่อง การออกเสียง A-Z แบบโฟนิค, ชุดกิจกรรมที่ 2 เรื่อง การอ่านออกเสียงสระและพยัญชนะท้ายแบบโฟนิค และชุดกิจกรรมที่ 3 เรื่อง การอ่านออกเสียงผสมคำศัพท์ 2) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 10 แผน 3) แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน เป็นแบบปรนัยชุดคำอ่านคำภาษาอังกฤษ 20 ข้อ และ 4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโฟนิค จำนวน 10 คำถาม ผลการศึกษา พบว่า
1) ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโฟนิคสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้เกณฑ์ประสิทธิภาพ 75/75 พบว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโฟนิคที่ผู้วิจัยได้พัฒนาขึ้นนั้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 76.29/77.50 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 2) ผลการพัฒนาความสามารถด้านการอ่านออกเสียงและสะกดคำภาษาอังกฤษ โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโฟนิคสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ทุกคนมีคะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 77.50 (S.D.= 1.10) ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือร้อยละ 70 3) ความพึงพอใจของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโฟนิค พบว่า โดยภาพรวมความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโฟนิค อยู่ในระดับพอใจมาก ( = 4.36, S.D. = 0.54)
References
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
ตวงรัตน์ แซ่จง. (2564). การพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงสะกดคำภาษาอังกฤษ โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียง
โฟนิกส์ (Phonics) ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนทรงวิทยาเทพารักษ์. วารสารพัฒนศิลป์
วิชาการ, 5(2), 123-124.
พิมภรณ์ พวงชื่น และวิวัฒน์ มีสุวรรณ์. (2563). การพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและสะกดคำภาษาอังกฤษด้วยชุดกิจกรรม
การเรียนการสอนแบบโฟนิค สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1. วารสารวิชาการวิทยาลัยสันตพล,
(1), 19-29.
มาริษา พันเปรม. (2561). การประเมินสื่อการสอนโฟนิกส์สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 โรงเรียนในสังกัด กรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตหนองแขม. สารนิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษ. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศิลปากร.
โรงเรียนบ้านหนองหว้านาคำพัฒนา. (2565). ผลการทำสอบการอ่านคำภาษาอังกฤษแบบโฟนิค. ร้อยเอ็ด: โรงเรียนบ้านหนองหว้า
นาคำพัฒนา.
อัจจิมา ไชยชิต. (2563). การพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงสะกดคำภาษาอังกฤษ (Phonic) โดยใช้แบบฝึกทักษะของนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2. สมุทรปราการ: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต 2.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2024 มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด
![Creative Commons License](http://i.creativecommons.org/l/by-nc-nd/4.0/88x31.png)
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว