การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบเป็นทีม เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดเชิงออกแบบ ของนักศึกษาหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด

ผู้แต่ง

  • ทนันยา คำคุ้ม คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด

คำสำคัญ:

กิจกรรมการเรียนรู้แบบทีม, การคิดเชิงออกแบบ, ทักษะการคิดเชิงออกแบบ

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบเป็นทีม ที่ส่งเสริมทักษะการคิดเชิงออกแบบของนักศึกษาหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด และศึกษาผลการพัฒนาทักษะการคิดเชิงออกแบบของนักศึกษา หลังจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ คือ นักศึกษาหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด ชั้นปีที่ 1 ที่ลงทะเบียนเรียนในรายวิชานวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หลักสูตรชีววิทยา 1 หมู่เรียน จำนวนนักศึกษา 20 คน เลือกโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ
แบบวัดทักษะการคิดเชิงออกแบบ แผนการจัดการเรียนรู้ และแบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียน

            ผลการวิจัย พบว่ากิจกรรมการเรียนรู้แบบเป็นทีม ประกอบด้วยขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 7 ขั้นตอน คือ 1) การทดสอบความรู้ก่อนเรียน 2) การกำหนดหัวข้อการเรียน 3) สร้างทีมการเรียนรู้ 4) จัดกิจกรรมระดมสมองภายในทีม
5) สร้างกิจกรรมหรือโครงการภายในทีม 6) การทดสอบความรู้หลังได้รับการจัดกิจกรรมเป็นรายบุคคล 7) สรุปผลการประเมิน และผลการพัฒนาทักษะการคิดเชิงออกแบบของผู้เรียน หลังเรียนรู้พบว่าผู้เรียนมีทักษะการคิดเชิงออกแบบที่สูงขึ้น และผ่านเกณฑ์การประเมินทุกคน คิดเป็นร้อยละ 82 และเมื่อพิจารณาแต่ละทักษะแล้ว พบว่าทักษะขั้นที่ 5 การทดลองใช้ (Test) เป็นทักษะที่ผู้เรียนมีคะแนนเฉลี่ยสูงสุด ซึ่งมีคะแนนเฉลี่ย 3.60 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 90

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2561). มาตรฐานสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. 2561. ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 135 ตอนพิเศษ 199 ง. 19-21.

ณชนก หล่อสมบูรณ์, ปุณณรัตน์ พิชญไพบูลย์ และโสมฉาย บุญญานันต์. (2563). การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ เกี่ยวกับกระบวนการคิดเชิงออกแบบในระบบการศึกษาสู่นวัตกรรมการสอนศิลปะ. วารสารศึกษาศาสตร์

มหาวิทยาลัยบูรพา, 31(2), 1-11.

ณัฏฐ์สิตา ศิริรัตน์. (2551). การพัฒนารูปแบบการแลกเปลี่ยนเรียนรู้บนเครือข่าย ตามแนวคิดการเรียนรู้แบบชี้นำตนเอง

เพื่อการสร้างการเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีมสำหรับบุคลากรทางการศึกษา. ดุษฎีนิพนธ์ ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต

สาขาวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ทนันยา คำคุ้ม. (2563). ผลการใช้กระบวนการจัดการเรียนการสอนแบบ Team Based Learning ในรายวิชา คอมพิวเตอร์กราฟิกสำหรับครู สำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี. วารสารครุพิบูล, 7(1), 37-47.

ปวริศร ภูมิสูง และประสาท เนืองเฉลิม. (2564). การพัฒนาการคิดเชิงออกแบบของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับ

การจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสตีมศึกษา. วิทยานิพน์ การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนวิทยาศาสตร์

และคณิตศาสตร์. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

ประภาศรี พรหมประกาย และศิวาพร ธุระงาน. (2552). การวิจัยกรณีศึกษาการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้ทีมเป็นฐาน

และการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานในการเสริมสรางมาตรฐานผลการเรียนรู้ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิ

ระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2552 (TQF). ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.

มานิตย์ อาสานอก. (2561). การบูรณาการกระบวนการคิดเชิงออกแบบ เพื่อพัฒนานวัตกรรม การจัดการเรียนรู้. วารสารเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา, 1(1), 6-12.

ศรินรัตน์ ศรีประสงค์. (2556). การใช้เทคนิคการสอนแบบ Team Based Learning. สืบค้นเมื่อ 20 มิถุนายน 2565,

จาก http://www.elearning.ns.mahidol.ac.th/km/index.php/cops-กลุ่มการศึกษา/97-ถอดบทเรียน-

team-based-learning

อรอนงค์ โฆษิตพิพัฒน์. (2560). การพัฒนาความสามารถในการทำงานเป็นทีมด้วยรูปแบบการสอนแบบร่วมมือทำงานเป็นทีมในรายวิชาสัมมนาวารสารศาสตร์ สำหรับนักศึกษาสาขานิเทศศาสตร์ ระดับชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาการจัดการ.

วารสารครุพิบูล, 5(1), 77-86.

Bennett, S., Agostinho, S. and Lockyer, L. (2016). Investigating University Educators’ Design Thinking

and the Implications for Design Support Tools. Journal of Interactive Media in Education,

(1), 1–10.

Michaelsen, L. K. and Sweet, M. (2011). Team based learning. New Directions for Teaching and Learning, 2011(128), 41-51.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2023-12-28

รูปแบบการอ้างอิง

คำคุ้ม ท. (2023). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบเป็นทีม เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดเชิงออกแบบ ของนักศึกษาหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด, 17(3), 119–129. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/reru/article/view/269779

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย