การพัฒนารูปแบบการสอนวิชาภาษาอังกฤษแบบ E-learning เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่าน เพื่อความเข้าใจ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
คำสำคัญ:
รูปแบบการสอน, อีเลิร์นนิง, การอ่านเพื่อความเข้าใบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหาและความต้องการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 2) พัฒนารูปแบบการสอนวิชาภาษาอังกฤษแบบ E-learning เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่าน เพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 3) ศึกษาผลการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนวิชาภาษาอังกฤษ
แบบ E-learning เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 4) ประเมินรูปแบบการสอนวิชาภาษาอังกฤษ แบบ E-learning เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มเป้าหมาย
คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนคลองขามวิทยาคาร จำนวน 28 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบสอบถามเกี่ยวกับสภาพปัจจุบัน ปัญหาและความต้องการจัดการเรียนรู้ 2) แบบสัมภาษณ์เกี่ยวกับ
การออกแบบและพัฒนารูปแบบการสอน 3) แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับความสมเหตุสมผลเชิงทฤษฎี และความเป็นไปได้ของรูปแบบการสอน 4) แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษแบบ E-learning 5) แบบทดสอบวัดความสามารถด้านการอ่าน
เพื่อความเข้าใจ 6) แบบสอบถามความพึงพอใจ 7) แบบประเมินรูปแบบการสอน สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ IOC E.I ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ร้อยละ ค่า t แบบกลุ่มไม่อิสระ ผลการวิจัยพบว่า 1) นักเรียนส่วนใหญ่ยังขาดทักษะการอ่าน
เพื่อความเข้าใจ ส่วนครูขาดเทคนิควิธีการสอน 2) รูปแบบการสอนสามารถนำไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ได้ 3) ผลการจัดการเรียนรู้ ปรากฏผลดังนี้ 3.1) มีค่าประสิทธิภาพ เท่ากับ 85.81/83.69 และค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.6679 3.2) มีความสามารถด้านการอ่านเพื่อความเข้าใจหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3.3) มีระดับความพอใจเฉลี่ยรวมทุกด้านมีระดับมากที่สุด 4) นักเรียนมีความคิดเห็นว่ารูปแบบการสอนมีคุณภาพและเหมาะสมมากที่สุด
เอกสารอ้างอิง
จินดา ลาโพธิ์. (2562). การพัฒนารูปแบบการสอนรายวิชาการสอนเขียนเชิงสร้างสรรค์ สำหรับครูภาษาไทยตามแนวคิดการเรียนรู้
โดยใช้สมองเป็นฐาน ผสมผสานกลวิธีซินเนคติคส์ สำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิชาภาษาไทย. ดุษฎีนิพนธ์
ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิจัยหลักสูตรและการสอน. สกลนคร: มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
ชัยวัฒน์ บวรวัฒนเศรษฐ์. (2558). การพัฒนารูปแบบการสอนอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจสำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยม
ศึกษาปีที่ 2 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2. ดุษฎีนิพนธ์ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต
สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์.
ฐาปนีย์ ธรรมเมธา. (2557). อีเลิร์นนิง: จากทฤษฎีสู่การปฏิบัติ e-Learning: from theory to practice. นนทบุรี: สหมิตรพริ้งติ้ง
แอนด์พับลิสชิ่ง.
ทิศนา แขมมณี. (2552). ศาสตร์การสอน. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ปัณพร ศรีปลั่ง และ เพ็ญผกา ปัจนะ. (2564).การศึกษาผลการเรียนรู้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา
การเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยกระบวนการ Active Learning. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด, 15(3), 150.
พิมลมาศ เกตุฉาย. (2562). ปัจจัยที่ส่งผลต่อความวิตกกังวลในการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารกับครูผู้สอนภาษาอังกฤษ
ที่เป็นเจ้าของภาษา: กรณีนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงปีที่ 2 วิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ. วิทยานิพนธ์
การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา.
มติชน ออนไลน์. (2564). เปิด 4 รูปแบบการเรียนรองรับวิกฤต “โควิด-19”. สืบค้นเมื่อ 10 เมษายน 2564,
จาก https://www.matichon.co.th/education/news_2252776
รฐา แก่นสูงเนิน. (2558). การพัฒนาการเรียนการสอนอีเลิร์นนิงวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการท่องเที่ยวตามแนวการสอนอ่าน
แบบบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดธรรมจริยาภิรมย์ จังหวัดสมุทรสาคร.
การค้นคว้าอิสระ การศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีการศึกษา.กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศิลปากร.
โรงเรียนคลองขามวิทยาคาร. (2564). รายงานผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ประจำปีการศึกษา 2563.
กาฬสินธุ์: โรงเรียนคลองขามวิทยาคาร.
โรงเรียนคลองขามวิทยาคาร. (2564). รายงานผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ ประจำปีการศึกษา 2563. กาฬสินธุ์: โรงเรียนคลองขามวิทยาคาร.
โรงเรียนคลองขามวิทยาคาร. (2563). รายงานผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ประจำปีการศึกษา 2562.
กาฬสินธุ์: โรงเรียนคลองขามวิทยาคาร.
โรงเรียนคลองขามวิทยาคาร. (2563). รายงานผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ ประจำปีการศึกษา 2562. กาฬสินธุ์: โรงเรียนคลองขามวิทยาคาร.
วราภรณ์ พรมอินทร์. (2561). การพัฒนาความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 5 โดยใช้กลวิธีการอ่านแบบร่วมมือ Collaborative strategic reading. วิทยานิพนธ์ การศึกษามหาบัณฑิต
สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา.
โสรญา สมานมิตร. (2558). การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษโดยใช้กิจกรรมเว็บเควสท์ เพื่อส่งเสริมความเข้าใจ
และการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนถาวรานุกูล. วิทยานิพนธ์
ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษในฐานะภาษาต่างประเทศ. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศิลปากร.
Bloom, Benjamin S. J. Thomas, and George, F. M. (1956). Handbook on Formative and Summative
Evaluation of Student Learning. New York: McGraw-Hill Book.
Joyce, B. and Weil, M. (2009). Model of Teaching (3rd ed.). London: Prentice-Hall and Bacon.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว