การวิเคราะห์อภิมานงานวิจัยทักษะการฟังภาษาอังกฤษ

ผู้แต่ง

  • พิสิฐ พินิจสกุล คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด
  • รุจิเรข บุญกาพิมพ์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด
  • นฤมล แสงพรหม คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
  • คันธทรัพธ์ ชมพูพาทย์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด
  • อัจจนา น้อยบุดดี คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด

คำสำคัญ:

ขนาดอิทธิพล, ทักษะการฟังภาษาอังกฤษ, การวิเคราะห์อภิมานงานวิจัย

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาคุณลักษณะงานวิจัยที่เกี่ยวกับทักษะการฟังภาษาอังกฤษ 2) ศึกษาขนาดอิทธิพลของงานวิจัยที่เกี่ยวกับทักษะการฟังภาษาอังกฤษ 3) เพื่อเปรียบเทียบคุณลักษณะงานวิจัยที่เกี่ยวกับทักษะการฟังภาษาอังกฤษที่ส่งผลต่อขนาดอิทธิพลของงานวิจัย ประชากรที่ศึกษา คือ งานวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษ ในประเทศไทยในช่วงปี พ.ศ. 2553–2563 จำนวน 45 เรื่อง เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบบันทึกคุณลักษณะงานวิจัย วิเคราะห์ข้อมูลคุณลักษณะงานวิจัยโดยใช้สถิติเชิงบรรยายและการวิเคราะห์เนื้อหา และคำนวณค่าขนาดอิทธิพลของงานวิจัยโดยใช้ การวิเคราะห์อภิมานด้วยวิธีของ Hedges (1981) เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยได้แก่ แบบบันทึกคุณลักษณะงานวิจัยและแบบประเมินคุณภาพงานวิจัย ผลการวิจัยพบว่า งานวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษเป็นวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาโท มากที่สุด ที่ร้อยละ 80 สาขาที่ผลิตงานวิจัย พบว่าสาขาหลักสูตรการสอน มีจำนวนสูงสุดที่ร้อยละ 64 รองลงมา คือสาขาภาษาอังกฤษ ที่ร้อยละ 28 ผลของการเปรียบเทียบค่าขนาดอิทธิพลทั้งหมด 28 ตัวแปรที่ส่งผลกับตัวแปรตามค่าขนาดอิทธิพล งานวิจัยทักษะการฟังภาษาอังกฤษด้วยวิธีการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) พบว่ามี 4 ตัวแปรที่มีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับนัยสำคัญที่ .05 ได้แก่ ตัวแปรระดับการศึกษาของกลุ่มตัวอย่าง ตัวแปรวิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่าง ตัวแปรแผนแบบการวิจัยเชิงทดลอง ตัวแปรนวัตกรรมการจัดการเรียนการสอน

เอกสารอ้างอิง

เกริก เจษฎานุวัฒน์. (2555). การพัฒนาสื่อการเรียนรู้ด้วยตนเองเพื่อพัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษสำหรับนักศึกษาพยาบาล. วิทยานิพนธ์ ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาภาษาอังกฤษเป็นภาษานานาชาติ. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ชไมพร ชาญวิจิตร. (2560). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้เรื่อง English in Daily Life ตามแนวการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร (CLT) ที่มีผลต่อความสามารถด้านการฟัง การพูดและความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

ทัศนีย์ กันทะใจ. (2556). ผลการใช้กิจกรรมการเล่าเรื่อง ระหว่างเทคนิคการแสดงบทบาทสมมติตามเรื่องและเทคนิคการแสดงตามเรื่องด้วยหุ่นเชิด ที่มีต่อทักษะการฟัง การพูดภาษาอังกฤษ และความมั่นใจในตนเองของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2. วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

นุชิต นิลวรางกูล. (2558). การพัฒนาทักษะการฟังและการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้กิจกรรม เกมส์การแข่งขันกลุ่ม (TGT) ผสมกับกิจกรรมการเว้นช่องว่าง (Information Gap). วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษ. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

นงลักษณ์ วิรัชชัย และสุวิมล ว่องวาณิช. (2545). การสังเคราะห์งานวิจัยทางการศึกษาด้วยการวิเคราะห์อภิมานและการวิเคราะห์เนื้อหา. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี.

ปุณยภา แสงศรี. (2554). ผลกระทบของรูปแบบการช่วยฟังและระดับความสามารถภาษาอังกฤษต่อความสามารถในการฟัง และกลวิธีการฟังของนักศึกษาไทยชั้นปีที่ 1. วิทยานิพนธ์ ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาภาษาอังกฤษเป็นภาษานานาชาติ. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ฝนทิพย์ นัดทะยาย. (2558). การพัฒนากระบวนการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ประกอบการใช้สถานการณ์จําลอง เพื่อพัฒนาความสามารถด้านการฟังและการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

ภัสสรา ภูรินันทกูล. (2553). การใช้สื่อบทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ประกอบการสอน เพื่อพัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษ. สารนิพนธ์ ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษในฐานะภาษาต่างประเทศ. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

สุพัฒน์ สุกมลสันต์. (2553). ขนาดของผล: ความมีนัยสำคัญทางปฏิบัติในการวิจัย. วารสารภาษาปริทัศน์, 25(0), 26-38.

อัจฉริยาพร รมรัตน์. (2556). การพัฒนาความสามารถในการฟัง พูดภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้การสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทางร่วมกับกิจกรรมแบบผสมผสาน. วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษ. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

อรพิน ชูชม. (2552). การวิจัยกึ่งทดลอง. วารสารพฤติกรรมศาสตร์, 15(1), 1-15.

อภิวัฒน์ มานะดี, เสกสรรค์ ทองคำบรรจง และสมพงษ์ ปั้นหุ่น. (2558). ผลของความไม่สอดคล้องระหว่างการกำหนดขนาดตัวอย่าง วิธีการสุ่มตัวอย่าง และรูปแบบการวิเคราะห์เชิงสถิติ ที่มีต่อความถูกต้องและความแม่นยำของค่าประมาณพารามิเตอร์: กรณีศึกษา ความไม่แปรเปลี่ยนของโมเดลการวัด. วารสารราชพฤกษ์, 13(2), 69-75.

Becker, A.L. (2000). Effect Size. Retrieved June 20, 2021, From http://web.uccs.edu/lbecker/Psy590/es.htm

Buck, G. (2001). Assessing listening. Cambridge: Cambridge University Press.

Carney, N. (2018). Diagnosing L2 English Learners’ Listening Comprehension Abilities with Scripted and Unscripted Listening Texts. Dissertation, Doctor of Philosophy of Teaching & Learning. Philadelphia: Temple University.

Glass, G.V. (1976). Primary Secondary and Meta–Analysis of Research. Education Research. 52(07), 117–125.

Hedges, L.V. (1981). Distribution theory for Glass's estimator of effect size and related estimators. Journal of Educational Statistics, 6(2), 107-128.

Lynch, T. (2012). Teaching Second Language Listening (10th ed.). Oxford: Oxford University Press.

Richard, J.C. (2015). Key Issues in Language Teaching. Cambridge: Cambridge University Press.

Rost, M. (2001). Listening. In R. Carter, & D. Nunan (Eds.) The Cambridge Guide to Teaching English to Speakers of Other Languages. Cambridge: Cambridge University Press.

Sangster, P. (2004). Learning to Listen, Listening to Learn. An Investigation into Listening Practices in Classrooms. Dissertation, Doctor of Philosophy of Education. Edinburgh: University of Edinburgh.

Vandergrift, L. and Goh, C. (2012). Teaching and learning second language listening: Metacognition in Action. United Kingdom: Taylor & Francis.

Vandergrift, L. (2004). Listening to Learn or Learning to Listen? In Cambridge University Press (Ed.). Annual Review of Applied Linguistics (2004). Cambridge: Cambridge University Press.

Wagner, E. (2010). The Effect of the Use of Video Texts on ESL Listening Test-taker Performance. Language testing, 27(4), 493-513.

Ward, J. (2018). Second Language Listening in an Academic Context: lexical, perceptual, and contextual clues to word recognition. Doctor of Philosophy of English language and Applied Linguistics. Reading: University of Reading.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2021-12-22

รูปแบบการอ้างอิง

พินิจสกุล พ., บุญกาพิมพ์ ร., แสงพรหม น., ชมพูพาทย์ ค., & น้อยบุดดี อ. (2021). การวิเคราะห์อภิมานงานวิจัยทักษะการฟังภาษาอังกฤษ. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด, 15(3), 197–207. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/reru/article/view/255329

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย