การพัฒนาการเรียนรู้ด้วยวิธีโครงงานเป็นฐานเพื่อส่งเสริมแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพในรายวิชาเศรษฐศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาผลการใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ในการพัฒนาการเรียนรู้ด้วยวิธีโครงงานเป็นฐานเพื่อส่งเสริมแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ 2) เพื่อศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียน
เป็นสำคัญและความคิดเห็นของนักเรียนในรายวิชาเศรษฐศาสตร์ การวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยใช้การวิจัยเชิงปฏิบัติการ กลุ่มเป้าหมายในการวิจัยครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ฝ่ายมัธยม) ภาคเรียนที่ 1/2563 จำนวน 40 คน ได้มาจากการเลือกตัวอย่างแบบเจาะจง เครื่องมือในการวิจัยประกอบด้วย แบบบันทึกการประชุมกลุ่ม (PLC) แบบสังเกตการสอน แบบบันทึกการสอน แบบสอบถามความคิดเห็นต่อการเรียนด้วยวิธีโครงงาน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์
คือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพรายวิชาเศรษฐศาสตร์ พบว่าควรสร้างเครือข่ายข้ามกลุ่มสาระการเรียนรู้เนื่องจากมีเนื้อหาบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ และกลุ่มสาระฯ วิทยาศาสตร์เพราะบุคลากร
มีความชำนาญในการจัดทำโครงงาน ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพร่วมออกแบบการเรียนรู้ด้วยวิธีโครงงาน โดยกระบวนการ STEM 6 ขั้นตอน และการที่ครูในชุมชนการเรียนรู้ร่วมเป็น Coaching และ Mentoring ประจำกลุ่มสามารถช่วยให้ผู้เรียน
มีความรู้ในภูมิปัญญาท้องถิ่นและการพัฒนาเชิงสร้างสรรค์มากขึ้น
ผลการศึกษาสภาพการจัดการเรียนรู้ พบว่ามีการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นผลิตภัณฑ์ โดยภูมิปัญญาท้องถิ่น
ที่ผู้เรียนเลือกพัฒนามากที่สุดคือผลิตภัณฑ์ด้านอาหารรองลงมา คือ ด้านสมุนไพรไทย ทั้งนี้เนื่องจากวัตถุดิบหาได้ในชุมชน
และความคิดเห็นของผู้เรียนในรายวิชาเศรษฐศาสตร์ โดยรวมนักเรียนมีความคิดเห็นต่อการเรียนรู้ในระดับมาก โดยมีข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด 3 อันดับ ได้แก่ ข้าพเจ้าชอบการวัดผลและประเมินผลในกิจกรรมการเรียนรู้นี้ ข้าพเจ้าชอบสื่อการเรียนรู้รายวิชาเศรษฐศาสตร์ ข้าพเจ้าชอบที่กิจกรรมนี้จัดให้มีที่ปรึกษาประจำกลุ่มกิจกรรม
เอกสารอ้างอิง
กรมวิชาการ. (2542). ภูมิปัญญาท้องถิ่นกับการพัฒนาหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอน. กรุงเทพฯ: คุรุสภาลาดพร้าว.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2545). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545. กรุงเทพฯ: องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์.
ชลิต อิฐไธสง. (2561). การจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์บ้านช่องแมว โดยใช้เทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์, 19(1), 69-82.
ชูชาติ พ่วงสมจิตร์. (2558). ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ. กรุงเทพฯ: ม.ป.ท..
บุญชม ศรีสะอาด. (2543). การวิจัยเบื้องต้น. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
พิชิต ฤทธิ์จรูญ. (2550). หลักการวัดและประเมิลผลการศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ: เฮ้าส์ออฟ เคอร์มิสท์.
รัติยา ไกรสัย. (2554). กลยุทธ์การตลาด และการจัดการเชิงกลยุทธ์ในธุรกิจผลิตจำหน่ายเครื่องดื่มชาเขียว กรณีศึกษา บริษัทโออิชิ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน). วิทยานิพนธ์ บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการตลาด. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย.
เรวดี ชัยเชาวรัตน์. (2558). วิถีสร้างครูสู่ศิษย์ : ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ : เอกสาร ประมวลแนวคิดและแนวทางพัฒนาวิชาชีพครูสำหรับคณะทำงานโครงการพัฒนาระบบกลไกและแนวทางการหนุนเสริมชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อพัฒนาผู้เรียน. กรุงเทพฯ: สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน.
ลัดดา ภู่เกียรติ. (2552). การสอนแบบโครงงานและการสอนแบบใช้วิจัยเป็นฐาน: งานที่ครูประถมทำได้. กรุงเทพฯ: สาฮะแอนด์ซันพริ้นติ้ง.
วริศรา ไกรจิตเมตต์. (2545). ผลการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการจัดการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่องผลผลิตทางการเกษตรและการจัดการ. วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ. (2541). รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2540. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์การศาสนา.
อาคม เติมพิทยาไพสิฐ. (2554). แผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. 2545-2559). ฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. สืบค้นเมื่อ 11 พฤษภาคม 2563, จาก http://www.nesdb.go.th/Portals/0/news/research/research_0356200611.pdf
อินทิรา หิรัญสาย. (2545). ภูมิปัญญาเพื่อการปฏิรูปการศึกษา. วารสารวิชาการ, 5(10), 18-22.
Calcasola. 2009). Episode-based performance measurement and payment: Making it a reality. Health Aff (Millwood), 28(5),1406-1417.
Kemmis, S. and McTaggart, R. (1988). The Action Research Planner. Victoria: Deakin University Press.
Leonard, J. J. (2003). The physical properties of compost. Compost. Science & Utilization, 11(3), 238–264.
Ravitz, J. (2008). Project-based learning as a Catalyst. AERA-NewYork, 27(3), 1-3.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว