คุณลักษณะภาวะผู้นำที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการเป็นผู้ประกอบการของนักศึกษาชั้นปีที่ 3 และปีที่ 4 คณะบริหารธุรกิจและการบัญชีมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด
คำสำคัญ:
คุณลักษณะภาวะผู้นำ, แรงจูงใจในการเป็นผู้ประกอบการ, นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ดบทคัดย่อ
การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับภาวะผู้นำและแรงจูงใจในการเป็นผู้ประกอบการของนักศึกษาชั้นปีที่ 3และชั้นปีที่ 4 คณะบริหารธุรกิจและการบัญชีมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด 2) เปรียบเทียบภาวะผู้นำและแรงจูงใจในการเป็นผู้ประกอบการของนักศึกษาจำแนกตามข้อมูลส่วนบุคคล และ 3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะภาวะผู้นำกับแรงจูงใจและคุณลักษณะภาวะผู้นำที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการเป็นผู้ประกอบการของนักศึกษา เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม จากกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่นักศึกษาชั้นปีที่ 3 และชั้นปีที่ 4 คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี จำนวน 380 คน วิเคราะห์ข้อมูล ด้วยสถิติเชิงพรรณนา การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว การวิเคราะห์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน และการวิเคราะห์การถดถอยแบบพหุคูณ ผลการวิจัยพบว่า นักศึกษามีภาวะผู้นำอยู่ในระดับมาก แรงจูงใจในการเป็นผู้ประกอบการของนักศึกษาอยู่ในระดับมาก นักศึกษาที่มีเพศ ชั้นปี สาขาวิชา ต่างกันมีภาวะผู้นำแตกต่างกัน นักศึกษาที่มีเพศและสาขาวิชาต่างกัน มีแรงจูงใจในการเป็นผู้ประกอบการแตกต่างกัน ภาวะผู้นำมีความสัมพันธ์เชิงบวกและส่งผลต่อแรงจูงใจในการเป็นผู้ประกอบการ โดยภาวะผู้นำ ด้านทักษะทางสังคมส่งผลต่อแรงจูงใจในการเป็นผู้ประกอบการของนักศึกษามากที่สุด
เอกสารอ้างอิง
คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี. (2562). รายงานการประเมินตนเอง คณะบริหารธุรกิจและการบัญชีวงรอบปีการศึกษา 2561.
ร้อยเอ็ด: มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด.
จริยา กอสุขทวีคูณ. (2561). การศึกษาแรงจูงใจและความตั้งใจในการเป็นผู้ประกอบการของนักศึกษาระดับอุดมศึกษา
ในประเทศไทย. วิทยานิพนธ์ การจัดการมหาบัณฑิต สาขาวิชาความเป็นผู้ประกอบการ. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัย
กรุงเทพ.
ชูศรี วงศ์รัตนะ. (2553). เทคนิคการใช้สถิติเพื่อการวิจัย (พิมพ์ครั้งที่ 12). นนทบุรี: ไทยเนรมิตกิจ อินเตอร์ โปรเกรสซีพ.
ทองทิพภา วิริยะพันธุ. (2551). การบริหารทีมงานและการแก้ปัญหา (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์สหธรรมิก.
ธัญญามาส โลจนานนท์. (2557). ภาวะผู้นําและแรงจูงใจในการทำงานที่ส่งผลต่อความคิดสร้างสรรค์ของพนักงาน กรณีศึกษา
บริษัทซิลลิค ฟาร์มา จำกัด. วิทยานิพนธ์ บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารธุรกิจ. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัย
ศิลปากร.
ธร สุนทรายุทธ. (2551). การบริหารจัดการเชิงปฏิรูป : ทฤษฎีวิจัย และปฏิบัติทางการศึกษา. กรุงเทพฯ: เนติกุลการพิมพ์.
ณิชาภา สายทอง และณกมล จันทร์สม. (2557). แรงจูงใจในการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการบริเวณตลาดไท จังหวัด
ปทุมธานี. วารสารการเงิน การลงทุน การตลาด และการบริหารธุรกิจ, 4(1), 234-258.
บุญชม ศรีสะอาด. (2553). วิธีการทางสถิติสำหรับการวิจัย (พิมพ์ครั้งที่ 6). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
พนิดา ไชยแก้ว. (2559). อิทธิพลภาวะผู้นำของ Generation Y ต่อความสำเร็จทางธุรกิจกรณีศึกษา ผู้ประกอบการ
กลุ่ม Generation Y ในประเทศไทย. วิทยานิพนธ์ บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารธุรกิจ. กรุงเทพฯ:
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
พิบูลย์ ทีปะปาล. (2555). การจัดการเชิงกลยุทธ์. กรุงเทพฯ: อมรการพิมพ์.
รัตติกรณ์ จงวิศาล. (2550). การพัฒนาภาวะผู้นำของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย. กรุงเทพฯ:
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
ศิริชัย กาญจนวาสี. (2544). ทฤษฎีการทดสอบแบบดั้งเดิม (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2561). ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561-2580. กรุงเทพฯ: สำนักงาน
คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.
อนงค์ รุ่งสุข. (2559). ปัจจัยที่มีผลต่อความตั้งใจที่จะเป็นผู้ประกอบการของนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี
ราชมงคลรัตนโกสินทร์. รายงานการวิจัยคณะบริหารธุรกิจ. นครปฐม: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
รัตนโกสินทร์.
อมร สุขรักษา. (2557). ความคิดเห็นต่อภาวะผู้นำของนักศึกษาเนติบัณฑิตยสภา ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมัย 65. สารนิพนธ์
รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์. กรุงเทพฯ: วิทยาลัยทองสุข.
Yamane, T. (1973). Statistics: An Introductory Analysis (3rded.). New York: Harper and Row Publications.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว