การพัฒนาแนวทางการจัดการความขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1
คำสำคัญ:
การจัดการความขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์, แนวทางการจัดการ, การจัดการความขัดแย้งบทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาองค์ประกอบและตัวชี้วัดของการจัดการความขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ ในสถานศึกษา 2) ศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการจัดการความขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1 และ 3) พัฒนาแนวทางการจัดการความขัดแย้ง อย่างสร้างสรรค์ในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ ผู้อำนวยการสถานศึกษา และรองผู้อำนวยการสถานศึกษา จำนวน 108 คน โดยใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล คือ แบบประเมินองค์ประกอบและตัวชี้วัด แบบประเมินอะไร แบบสอบถามสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ และแบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าดัชนีความต้องการจำเป็นแบบปรับปรุง ผลการวิจัยพบว่า 1. องค์ประกอบและตัวชี้วัดของการจัดการความขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ในสถานศึกษา ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ 26 ตัวชี้วัด คือ 1) การทำงานเป็นทีม 7 ตัวชี้วัด 2) ด้านการยอมรับฟังข้อมูล 6 ตัวชี้วัด 3) ด้านการเจรจาต่อรองแก้ไขปัญหา 7 ตัวชี้วัด 4) ด้านการใช้หลักคุณธรรมในการบริหาร 6 ตัวชี้วัด 2) สภาพปัจจุบันของการจัดการความขัดแย้ง อย่างสร้างสรรค์ในสถานศึกษา โดยรวมอยู่ในระดับมาก โดยด้านการใช้หลักคุณธรรมในการบริหารอยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนสภาพที่พึงประสงค์ของการจัดการความขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ในสถานศึกษา โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยด้าน การทำงานเป็นทีมอยู่ในระดับมากที่สุด 3) แนวทางการจัดการความขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ในสถานศึกษา แบ่งออกเป็น 4 ด้าน ได้แก่ ด้านการทำงานเป็นทีม ด้านการยอมรับฟังข้อมูล ด้านการเจรจาต่อรองแก้ไขปัญหา ด้านการใช้หลักคุณธรรมในการบริหาร ผลการประเมินความเหมาะสม ความเป็นไปได้ของแนวทางการพัฒนามีความเหมาะสมระดับมากที่สุด มีความเป็นไปได้ระดับมาก
References
เขมมารี รักษ์ชูชีพ. (2553). ทฤษฎีองค์การ. กรุงเทพฯ: ทริปเพิ้ล กรุ๊ป.
จิรารัตน์ เขียนรูปครุฑ. (2558). การบริหารความขัดแย้งของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 3. วิทยานิพนธ์ การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา.
บุญชม ศรีสะอาด. (2553). การวิจัยเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 8). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
ประกาทิพย์ ผาสุก. (2551). การจัดการความขัดแย้งของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ลำพูน เขต 1. การศึกษาค้นคว้าอิสระ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ประหยัด ชำนาญ. (2562). การพัฒนาแนวทางการทำงานเป็นทีมสำหรับสถานศึกษาสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ. วิทยานิพนธ์ การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ปรีชา กองจินดา. (2549). แนวทางการพัฒนาองค์การแห่งการเรียนรู้ ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 และเขต 2. วิทยานิพนธ์ ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา.
พลเอกเปรม ติณสูลานนท์. (2548). จริยธรรมการบริหารภาครัฐ. กรุงเทพฯ: มติชนรายวัน.
พัชราภรณ์ กุลบุตร. (2555). การจัดการความขัดแย้งของผู้บริหารสถานศึกษา เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1. การศึกษาค้นคว้าอิสระ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
พัชรนันท์ กลั่นแก้ว. (2549). การบริหารความขัดแย้งเชิงสร้างสรรค์. ฟอร์ควอลิตี้, 13(103), 75-79.
พัชราภรณ์ เพ็งสกุล. (2551). สภาพการบริหารความขัดแย้งในโรงเรียนของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1. วิทยานิพนธ์ ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร.
รอซนานี สันหมุด. (ม.ป.ป.). วิธีจัดการกับความขัดแย้งภายในองค์การเชิงสร้างสรรค์. นราธิวาส: สหกรณ์จังหวัดนราธิวาส.
วราภรณ์ ตระกูลสฤษดิ์. (2550). การทำงานเป็นทีม (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: ศูนย์ส่งเสริมวิชาการ.
วันชัย วัฒนศัพท์. (2547). ความขัดแย้ง หลักการและเครื่องมือแก้ปัญหา. ขอนแก่น: โรงพิมพ์ศิริภัณฑ์ ออฟเซ็ท.
วิจิตร วรุตบางกูร. (2531). การจัดการกับความขัดแย้ง. คุรุปริทัศน์, 1(3), 64-70.
วิชัย โถสุวรรณจินดา. (2554). ครบเครื่องเรื่องการเจรจาต่อรอง (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพฯ: สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น).
วิเชียร วิทยอุดม. (2547). พฤติกรรมองค์การ. กรุงเทพฯ: ธีระฟิล์มและไซเท็กซ์.
วิชชุดา หุ่นวิไล. (2542). การบริหารบุคลากรทางการศึกษา. กรุงเทพฯ: สถาบันราชภัฏสวนสุนันทา.
วิทยา สุหฤทดำรง และธนะศักดิ์ พึ่งฮั้ว. (2554). 101 เทคนิคการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์. กรุงเทพฯ: อี.ไอ. สแควร์.
วีระศักดิ์ พัทบุรี. (2559). สมรรถนะการบริหารความขัดแย้งสำหรับผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในจังหวัดชายแดนภาคใต้. วารสารหาดใหญ่วิชาการ, 14(2), 133-148.
ศิริวรรณ มนอัตระผดุง. (2559). การจัดการความขัดแย้งในองค์การอย่างสร้างสรรค์. วารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์ (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์), 6(2), 195.
สาวิตรี โทบุตร. (2559). การจัดการความขัดแย้งของผู้บริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3. วิทยานิพนธ์ ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. บุรีรัมย์: มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1. (2558). แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1. นครราชสีมา: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1.
สำนักงาน ก.พ. (2559). การสร้างทีมงานที่มีประสิทธิภาพ. สืบค้นเมื่อ 23 พฤษภาคม 2562, จาก http://www.ocsc.go.th/sites/default/files/document/ocsc-2017-eb01.pdf
อธิคม สวัสดิญาณ. (2553). พูดชนะใจ (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพฯ: เต๋าประยุกต์.
อัจฉรา ลิ้มวงษ์ทอง. (2557). การบริหารความขัดแย้งในองค์การ. กรุงเทพฯ: บุ๊คส์ ทู ยู.
อิฎฐพร ภู่เจริญ. (2544). ขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์. ฟอร์ควอลิตี้, 8(50), 123-125.
เอกชัย บุญยาธิษฐาน. (2555). การบริหารความขัดแย้งในองค์กร. กรุงเทพฯ: ปัญญาชน.
Thomas, K.W. and Kilmann, R.H. (1987). Thomas-Kilmann Conflict Mode Interest. New York: XICOM Incoporated.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว