การพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัยที่เรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสตีมศึกษา
คำสำคัญ:
ความสามารถในการแก้ปัญหา, เด็กปฐมวัย, สตีมศึกษาบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัย ที่เรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสตีมศึกษา กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ เด็กปฐมวัย อายุระหว่าง 3-4 ปี ที่ศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลนาคำ จำนวน 40 คน ที่ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสตีมศึกษา จำนวน 12 ชุด รวมใช้เวลาในการจัดการเรียนรู้ 12 ชั่วโมง และสังเกตพฤติกรรมความสามารถในการแก้ปัญหาใช้เกณฑ์ประเมินแบบรูบริค จำนวน 5 ด้าน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติขั้นพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และร้อยละ ผลการวิจัย พบว่าความสามารถในการแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัยที่เรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมตามแนวคิดสตีมศึกษา อยู่ในระดับสูง โดยมีคะแนนรวมเฉลี่ยคิดเป็น 81.06 และมีความสามารถในการแก้ปัญหาสูงขึ้น
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). คู่มือหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560. กรุงเทพฯ: ครุสภาลาดพร้าว.
เกตุมณี เหมรา. (2558). การจัดกิจกรรมสะเต็มศึกษาเรื่องของดีเมืองร้อยเอ็ดที่มีต่อความสามารถในการแก้ปัญหาของเด็ก
ปฐมวัย. วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาปฐมวัยศึกษา. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
จิราพร ศรีพรหม. (2559). การพัฒนาชุดฝึกทักษะทางคณิตศาสตร์ด้านการเรียนรู้ตัวเลข 0-10 สำหรับเด็กปฐมวัย โดยใช้นิทาน
คำกลอน. วิทยานิพนธ์ ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพัฒนาหลักสูตรและการเรียนการสอน. อุบลราชธานี:
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี.
หทัยภัทร ไกรวรรณ. (2558). การจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสตีมศึกษาที่มีต่อความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์
ของเด็กปฐมวัย. วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาปฐมวัยศึกษา. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัย
เกษตรศาสตร์.
รุ่งทิพย์ ศรสิงห์. (2558). การพัฒนาความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัยโดยใช้เกมการศึกษา. วิทยานิพนธ์
ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม.
สิริญ์ลดาฌ์ เกียรติทวี. (2560). การจัดการเรียนรู้จากงานของพ่อเพื่อพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาและประสบการณ์การเรียนรู้
วิศวกรรมศาสตร์ของเด็กปฐมวัยโดยสะเต็มศึกษา. วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย.
เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน). (2555). รายงานผลการประเมินคุณภาพภายนอก
รอบสาม (พ.ศ. 2555-2558). กรุงเทพฯ: สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษาสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน.
บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวัดผลการศึกษา (พิมพครั้งที่ 7). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
บุญชม ศรีสะอาด. (2541). การพัฒนาการสอน (พิมพครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
ศิรินภา ชิ้นทอง. (2560). การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการคิดแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์เรื่องปฏิกิริยาเคมี
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. วิทยานิพนธ การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักและการสอน. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัย
มหาสารคาม.
Bruner, J. S. (1966). Toward a Theory of Instruction. United States of America: Public Health Service.
Dewey, J. (1976). The Middle Works 1899-1924. London and Amsterdam: Feffer & Simons, Inc.
Krulik, S. and Rudnick, J. A. (1993). Psychology (1st ed.). New York: Rinehart and Winston.
Morrison, A. (2005). Credit Derivatives, Disintermediation and Investment Decisions. The Journal of
Business, 78(2), 621-648.
Piaget. J. (1952). The Original of intelligence in Children. New York: International University Press.
Vygotsky, L. S. (1995). Mind in Society: The Development of Higher Psychological Processes. London:
Haward University Press.
Yakman, G. (2018). STEAM Education Program Description. Retrived July 1, 2018, from
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว