การพัฒนาความสามารถการอ่านจับใจความสำคัญและการเขียนสรุปความ ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบ SQ4R ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
คำสำคัญ:
การอ่านจับใจความสำคัญ, การเขียนสรุปความ, กิจกรรมการเรียนรู้แบบ SQ4Rบทคัดย่อ
งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาความสามารถการอ่านจับใจความสำคัญและการเขียนสรุปความ และเปรียบเทียบความสามารถการอ่านจับใจความสำคัญและการเขียนสรุปความ ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ แบบ SQ4R กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 23 คน โรงเรียนบ้านเบงท่าลาด ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือการวิจัยมี 3 ชนิด ได้แก่ เครื่องมือในการปฏิบัติ คือ แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 12 แผน เครื่องมือในการสะท้อนผล คือ แบบประเมินการอ่านจับใจความและการเขียนสรุปความ และเครื่องมือในการประเมินผล คือ แบบทดสอบการอ่านจับใจความ ชนิดปรนัย 4 ตัวเลือก และแบบทดสอบความสามารถการเขียนสรุปความ ชนิดอัตนัย สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และร้อยละ ผลการวิจัยพบว่า 1. ความสามารถการอ่านจับใจความสำคัญและการเขียนสรุปความของนักเรียนที่เรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ แบบ SQ4R แต่ละวงจรใช้เกณฑ์ประเมิน ร้อยละ 80 คะแนน วงจรที่ 1 การอ่านจับใจความ ผ่าน 6 คน การเขียนสรุปความ ผ่าน 8 คน วงจรที่ 2 การอ่านจับใจความ ผ่าน 8 คน การเขียนสรุปความ ผ่าน 9 คน วงจรที่ 3 การอ่านจับใจความ ผ่าน 14 คน การเขียนสรุปความ ผ่าน 13 คน และวงจรที่ 4 การอ่านจับใจความ ผ่าน 18 คน การเขียนสรุปความ ผ่าน 19 คน 2. การเปรียบเทียบความสามารถการอ่านจับใจความสำคัญและการเขียนสรุปความระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบ SQ4R พบว่า นักเรียนมีความสามารถการอ่านจับใจความและการเขียนสรุปความ หลังเรียน (× ̅ =16.43, S.D. = 1.24) สูงกว่าก่อนเรียน (× ̅ =11.35, S.D. = 3.08) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุม สหกรณ์ การเกษตรแห่งประเทศไทย.
กรุณา ปางวิภาศ. (2556). การเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านและการเขียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 รายวิชาภาษาไทย ระหว่างการจัดการเรียนรู้ โดยใช้เทคนิค CIRC กับการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค SQ4R. วิทยานิพนธ์ ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. สงขลา: มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา.
ชวลิต ชูกำแพง. (2551). การประเมินการเรียนรู้. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ชุติมา ยอดตา. (2561). การพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบ SQ4R เพื่อเสริมสร้างความสามารถการอ่านจับใจความ
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. วิทยานิพนธ์ ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการเรียนการสอน.
มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
ทิศนา แขมมณี. (2553). ศาสตร์การสอน องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ (พิมพ์ครั้งที่ 12). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
นงเยาว์ ทองกำเนิด. (2558). การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
อำเภอเขาชะเมา จังหวัดระยอง. วิทยานิพนธ์ การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. ชลบุรี:
มหาวิทยาลัยบูรพา.
ประสาท เนืองเฉลิม. (2554). หลักสูตรการศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ 2). มหาสารคาม: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ประเสริฐ เรือนนะการ. (2558). การวัดและประเมินผลการศึกษา. มหาสารคาม: ตักสิลาการพิมพ์.
มณีรัตน์ กันหาวรรณะ. (2557). การพัฒนาการอ่านและการเขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่อ่านและเขียน
ไม่คล่อง โดยใช้ชุดฝึกแจกลูกและสะกดคำ โรงเรียนบ้านโคกใหญ่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาเลย เขต 1. วารสารวิจัยและพัฒนามหาวิทยาลัยราชภัฏเลย, 9(28), 48-58.
เมขลา ลือโสภา. (2555). การพัฒนาการอ่านจับใจความด้วยวิธีการสอบ SQ4R กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. วิทยานิพนธ์ ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน). (2559). สืบค้นเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2559,
สุคนธ์ สินธพานนท์. (2554). การจัดกระบวนการเรียนรู้ : เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544. กรุงเทพฯ: อักษรเจริญทัศน์.
สุคนธ์ สินธพานนท์ และคณะ. (2554). วิธีการสอนตามแนวปฏิรูปการศึกษา เพื่อพัฒนาคุณภาพเยาวชน. กรุงเทพฯ: เทคนิคพรินติ้ง.
โรงเรียนบ้านเบงท่าลาด. (2556). รายงานผลการประเมินการอ่านและการเขียนของชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ปีการศึกษา 2556. โรงเรียนบ้านเบงท่าลาด: 2/2556. จังหวัดสุรินทร์: ชุมพลการพิมพ์.
อัจฉรา ประดิษฐ์. (2552). ชวนเด็กไทยให้เป็นนักอ่าน(1). กรุงเทพฯ: สำนักงานอุทยานการเรียนรู้.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว