การพัฒนาสมรรถนะในการอ่านคำควบกล้ำด้วยการจัดการเรียนรู้ Active Learning รูปแบบ GWM ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนขุมคำวิทยา สพป.ศก.1

ผู้แต่ง

  • จิราภรณ์ ทองพูล คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ
  • ปกรณ์ชัย สุพัฒน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ
  • เมธี วิสาพรหม มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ
  • จิตติมาภรณ์ สีหะวงษ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ

คำสำคัญ:

สมรรถนะในการอ่าน, Active Learning, คำควบกล้ำ

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการพัฒนาสมรรถนะในการอ่านควบกล้ำ ด้วยการจัดการเรียนรู้ Active Learning รูปแบบ GWM ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้รูปแบบการวิจัยเชิงปฏิบัติการ ผู้ให้ข้อมูลหลัก คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 11 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้คือคู่มือการจัดการเรียนรู้ Active Learning รูปแบบ GWM ที่การผ่านหาคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญ ใช้วิธีการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพในรูปของการพรรณนาวิเคราะห์ ตามความมุ่งหมายของการวิจัย ผลการวิจัย พบว่า 1. ผลการพัฒนาด้านความรู้ (Knowledge) พบว่า นักเรียนสามารถบอกคำควบกล้ำ บอกความหมายของ คำควบกล้ำและสรุปใจความสำคัญของการอ่านทั้งร้อยแก้วและร้อยกรองได้ดียิ่งขึ้นตามลำดับ นักเรียนสามารถจำแนกแยกแยะคำควบกล้ำแท้และไม่แท้ได้อย่างถูกต้อง ในการสร้าง Mind mapping นักเรียนสามารถสรุปเนื้อหาด้วยตนเองได้อย่างถูกต้องคล่องแคล่วขึ้น มีเพียง 1 คน ที่ครูต้องคอยกระตุ้นและอธิบายเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถเรียนรู้ได้ดีขึ้น 2. ผลการพัฒนาด้านทักษะ (Skill) พบว่า นักเรียนสามารถนำคำควบกล้ำมาเล่นในเกมต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในชั่วโมงต่อไป นักเรียนเกิดการพัฒนาทักษะการอ่านคำควบกล้ำจากการใช้แบบฝึกทักษะ ที่มีความยากง่ายตามลำดับทำให้นักเรียนมีความมั่นใจในการอ่านคำควบกล้ำได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วยิ่งขึ้น 3. ผลการพัฒนาด้านเจตคติ (Attitude) พบว่า สามารถพัฒนาเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ ในขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ด้วยเกม (Game) สามารถสร้างความกระตือรือร้น ความสนใจให้กับผู้เรียนได้เป็นอย่างดี ทำให้ผู้เรียนเกิดความสนใจ ในการทำกิจกรรม ทำงานอย่างตั้งใจและมีความมุ่งมั่นในการทำงาน มีน้ำใจต่อผู้อื่นและร่วมกิจกรรมได้อย่างมีความสุข

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.

ฉวีลักษณ์ บุญยะกาญจน. (2556). จิตวิทยาการอ่าน (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: ธารอักษร.

โชติกา เปรมสิงห์ชัย. (2559). ก้าวสู่ทศวรรษที่ 2 : บูรณาการงานวิจัย ใช้องค์ความรู้ สู่ความยั่งยืน. การประชุมวิชาการ

และเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ ครั้งที่ 3. 17 มิถุนายน 2559. นครราชสีมา: วิทยาลัยนครรราชสีมา. 678-685.

ณรงค์ กาญจนะ. (2553). เทคนิคและทักษะการสอนเบื้องต้น. สงขลา: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา.

ธัญญา ผลอนันท์. (2541). ใช้หัวคิด. กรุงเทพฯ: ต้นอ้อ.

นนทลี พรธาดาวิทย์. (2559). การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning. กรุงเทพฯ: ทริปเปิ้ลเอ็ดดูเคชั่น.

พันทิภา วะเกิดเป้ง. (2553). ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือประกอบแบบฝึกทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยเรื่องการอ่านและการเขียนคำควบกล้ำชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. วิทยานิพนธ์ การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

ภัทราพร เกษสังข์. (2559). การวิจัยปฏิบัติการ. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ภาวินี กลิ่นโลกัย. (2553). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เกมเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านเกาะสำนักงานเขตมีนบุรี. วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

มุฑิตา แก้วคำแสน. (2553). การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนสำหรับนักเรียนที่มีปัญหาด้านการอ่านการเขียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนลองวิทยา จังหวัดแพร่. การศึกษาค้นคว้าอิสระ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาไทย. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

วรรณดี สุทธินรากร. (2556). การวิจัยเชิงปฏิบัติการ: การวิจัยเพื่อเสรีภาพและการสรรค์สร้าง. กรุงเทพฯ: สยามปริทัศน์.

วิจารณ์ พานิช. (2555). วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพฯ: มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์.

ศิริรัตน์ เกิดแก้ว. (2560). การพัฒนานวัตกรรม “เกมการผสมคำภาษาไทย” เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านออกเขียนได้. วารสารมนุษยสังคมปริทัศน์, 19(2), 49-61.

ศิริลักษณ์ สัพโส. (2553). การพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนสำหรับนักเรียนที่มีปัญหาด้านการอ่านและการเขียนในช่วงชั้นที่ 1 โรงเรียนศิริราษฎร์วิทยาคาร จังหวัดสกลนคร โดยใช้วงจรวิจัยเชิงปฏิบัติการรูปแบบวงจรลำดับเวลา.วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิจัยการศึกษา. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

สถาพร พฤฑฒิกุล. (2558). เอกสารประกอบการฝึกอบรม“คุณภาพผู้เรียน.......เกิดจากกระบวนการเรียนรู้” คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยบูรพาวิทยาเขตสระแก้ว. สืบค้นเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2561, จาก https://km.buu.ac.th/article/frontend/article_detail/141

สินธุ์ชัย ทิพกุล. (2553). การพัฒนาความสามารถในการอ่านและการเขียนสะกดคำโดยใช้แผนผังความคิด (Mind mapping) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1. การศึกษาค้นคว้าอิสระ การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

สุวรรณา ตั้งทีฆะรักษ์. (2556). ภาษาและวัฒนธรรม (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.

สุวิทย์ มูลคำ และ สุนันทา สุนทรประเสริฐ. (2550). ผลงานทางวิชาการสู่...การเลื่อนวิทยฐานะ. กรุงเทพฯ: อี เค บุคส์.

สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (2561). สรุปผลการประชุมสัมมนาประสานแผนและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การดำเนินงานพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.

สำนักกองทุนส่งเสริมสุขภาพ. (2557). พ่อแม่เลี้ยงลูกอย่างไรในยุค Gen Z. สืบค้นเมื่อ 5 ธันวาคม 2561, จาก https://www.thaihealth.or.th/Content/25728-.html

อัจฉรา อินทร์น้อย. (2555). ผลการสอนโดยวิธีการจัดการเรียนรู้แบบแผนที่ความคิด ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร (ฝ่ายประถม). รายงานการวิจัยมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2020-04-27

รูปแบบการอ้างอิง

ทองพูล จ., สุพัฒน์ ป. ., วิสาพรหม เ. ., & สีหะวงษ์ จ. (2020). การพัฒนาสมรรถนะในการอ่านคำควบกล้ำด้วยการจัดการเรียนรู้ Active Learning รูปแบบ GWM ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนขุมคำวิทยา สพป.ศก.1. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด, 14(1), 3–14. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/reru/article/view/204162

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย