การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ด้วยการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร (Communicative Language Teaching : CLT) ประกอบเพลง ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ผู้แต่ง

  • ธัญชนก หงษ์เวียงจันทร์ นักศึกษาหลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
  • ทิพาพร สุจารี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
  • สุรกานต์ จังหาร ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม

คำสำคัญ:

กิจกรรมประกอบเพลง, การเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ, ความคงทนในการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ

บทคัดย่อ

วิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ด้วยวิธีการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร ประกอบเพลง ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เปรียบเทียบความสามารถด้านการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยการสอนภาษาเพื่อการสื่อสารประกอบเพลง 3) ศึกษาความคงทนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ในการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ด้วยการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร ประกอบเพลง 4) ศึกษาเจตคติของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 3 ต่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนดงเกลือวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 9 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ด้วยการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร ประกอบเพลง จำนวน 12 แผน 2) แบบทดสอบวัดความสามารถด้านการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ 3) แบบสอบถามเจตคติของนักเรียนในกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ร้อยละ และการทดสอบที ผลการวิจัยพบว่า 1) กิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ด้วยการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร ประกอบเพลง เท่ากับ 86.44/85.93 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 2) นักเรียนมีคะแนนความสามารถด้านการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) นักเรียนมีความคงทนต่อการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ โดยเปรียบเทียบคะแนนทดสอบหลังเรียนกับคะแนนทดสอบหลังสิ้นสุดลงเป็นเวลา 14 วัน มีคะแนนความคงทนในการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ไม่แตกต่างกัน 4) นักเรียนมีเจตคติในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก

เอกสารอ้างอิง

กมลรัตน์ หล้าสุวงษ์. (2528). จิตวิทยาการศึกษา (Educational Psychology). กรุงเทพฯ: คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร.

กรมวิชาการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์.

กรมวิชาการ. (2545). การจัดสาระการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2545. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ.

กระทรวงการต่างประเทศ. (2558). กฎบัตรอาเซียน คำแปล กฎบัตรสมาคมแห่งประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้. สืบค้นเมื่อ 12 มีนาคม 2561, จาก https://sites.google.com/site/krusakaydaow/kdbatr-xaseiyn

โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว. (2559). สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่ม 39/ โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว. กรุงเทพฯ: โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ.

ดวงเดือน แสงชัย. (2530). รายงานการวิจัยเรื่องศึกษาสัมฤทธิ์ผลการเรียนและเจตคติของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งเรียนภาษาอังกฤษโดยใช้เพลงเป็นกิจกรรมเสริม. กรุงเทพฯ: โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ธีมาพร สลุงสุข. (2555). การเปรียบเทียบความสามารถในการจำคำศัพท์และเจตคติต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 4 ที่ได้รับการสอนโดยใช้เพลงประกอบกับเกมประกอบ. วิทยานิพนธ์ ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษ. ลพบุรี: มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี.

นิตยา สุวรรณศรี. (2539). เพลงและเกมประกอบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ. กรุงเทพฯ: คอมแพคท์ปริ้นท์.

ประภาพร นุชอำพันธ์. (2554). การพัฒนาชุดการสอนภาษาอังกฤษ เรื่อง อาหารและสุขภาพ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. วิทยานิพนธ์ ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาภาษาอังกฤษ. พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยพิษณุโลก.

พรรณนที โชติพงศ์. (2552). การใช้กิจกรรมประกอบจังหวะเพื่อพัฒนาความรู้ด้านคำศัพท์และความคงทนในการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. วิทยานิพนธ์ ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษในฐานะภาษาต่างประเทศ. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.

มาริสา กาสุวรรณ์. (2556). ประสิทธิผลของกิจกรรมเพลงภาษาอังกฤษต่อการเรียนรู้และความคงทนของคำศัพท์และความสามารถด้านการพูด. วิทยานิพนธ์ ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษานานาชาติ. สงขลา: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.

ศุภวัลย์ ชูมี. (2557). ผลการใช้เพลงประกอบการสอนเพื่อพัฒนาความสามารถในการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ และความคงทนในการจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านกาแบง จังหวัดสตูล. วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาศึกษาศาสตร์. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.

ศรีเรือน แก้วกังวาน. (2545). จิตวิทยาพัฒนาการชีวิตทุกช่วงวัย. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

สิริพัชร์ เจษฎาวิโรจน์. (2550). การสอนระดับประถมศึกษา 2. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

สุมิตรา อังวัฒนกุล. (2540). วิธีการสอนสื่อสารภาษาอังกฤษ. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สำนักทดสอบทางการศึกษา. (2559). รายงานผลการประเมินคุณภาพผู้เรียนระดับชาติ ปีการศึกษา 2558 : บทสรุปและข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.

สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (2551). แนวทางการจัดการเรียนรู้ ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมชนสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.

Brown, H. (2001). Teaching by principles: an Interactive Approach to Language pedagogy. New York: Addison Wesley Longman, Inc.

Davies & Pearse. (2000). Success in English Teaching. Hong Kong: Oxford University Press.

deAndres, V. (2002). The influence of affective variable on EFL/ESL learning and teaching. The journal of Imagination in Language Learning and Teaching, 7(3), 92-97.

Mohammad, Alipour & others. (2012). The effects of songs on EFL learners' vocabulary recall and retention: The case of gender. Advances in Digital Multimedia (ADDM), 1(3),2166-2916.

Murphy, T. (1990). The song stuck in my head phenomenon . A melodic din in the LAD?. System, 18(1), 53-64.

Richards, J. (2006). Communicative language teaching today. New York: Cambridge University Press.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2019-04-29

รูปแบบการอ้างอิง

หงษ์เวียงจันทร์ ธ., สุจารี ท., & จังหาร ส. (2019). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ด้วยการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร (Communicative Language Teaching : CLT) ประกอบเพลง ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด, 13(1), 226–238. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/reru/article/view/186056

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย